ก่อนจะมาเป็น “เบิ้ล ปทุมราช” ในวันนี้… ชีวิตเกือบเฉียดตายพร้อมเผยมรสุมจุดที่ชีวิตเสียหลัก
ติดตามเรื่องราวชีวิตอันโชกโชนของนักร้องลูกทุ่งสุดฮอตก่อนจะมาเป็น “เบิ้ล ปทุมราช” ในวันนี้… ชีวิตเกือบเฉียดตายพร้อมเผยมรสุมจุดที่ชีวิตเสียหลักไม่เหลืออะไรเลยเพราะติดพนันติดหนี้
ลูกทุ่งหนุ่มหน้ามนที่ฮอตไม่มีแผ่ว เบิ้ล ปทุมราช เจ้าของเพลงฮิตมากมายหลายเพลงและนับเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่มีความสามารถรอบด้าน ที่ไม่ว่าเราจะเปิดโทรทัศน์หรือท่องโซเชียลก็มักจะเห็นหน้าเขาคนนี้อยู่ตลอด เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 เบิ้ล ปทุมราช ได้มาเปิดเรื่องราวในชีวิตและเผยถึงความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจเพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรก ก่อนจะมาเป็น “เบิ้ล ปทุมราช” ในวันนี้ใช้ชีวิตโชกโชนสุดๆ และกำลังใจฮึดสู้จนสามารถประสบความสำเร็จได้เพราะความรักของแม่คือสิ่งที่ทำให้ผู้ชายคนนี้มีพลังสู้ จากทิป 400 บาทสร้างเพลงให้แม่จากใจลูกชายแม่คนนี้ พร้อมเผยมรสุมจุดที่ชีวิตเสียหลักไม่เหลืออะไรเลยเพราะติดพนันติดหนี้ กับประสบการณ์ความรักที่มีระยะทางเป็นอุปสรรคของนักร้องลูกทุ่งสุดฮอตรักระยะไกลแต่พอมาเจอกันก็ไปไม่เป็น… และจุดที่ทำให้ต้องจบของรักครั้งนี้คือ
ถาม ตอนเด็กๆคือเกเรติดยา
เบิ้ล ปทุมราช : เป็นฮอร์โมนส์วัยว้าวุ่นอยากเท่ อยากเจาะหู อยากตัดผมรองทรง อยากลองบุหรี่ มันต้องเป็นแบบนี้สิมันเท่ พี่รู้ไหมผมไม่ได้เสพอย่างเดียวผมขายด้วย สมัยนั้นมีดสปาต้า มีดพรานมะพร้าวผมมีอยู่ใต้เบาะรถเลย คนจะไปเวียนเทียนจะได้บุญผมไปดักรอคนที่เวียนเทียนคนไหนๆเดินขี้เก๊กเอาปืนปากกาวิ่งไล่ยิง ผมไม่รู้ว่าผมมาเป็นเบิ้ลได้ยังไงผมควรจะตายหรือติดคุกไปแล้ว
ถาม ความรักของแม่คือสิ่งที่ทำให้ผู้ชายคนนี้มีพลังและกำลังใจฮึดสู้ ??
เบิ้ล ปทุมราช : ตังค์ผมก็ไม่กล้าขอใครผมก็บอกแม่ผมขอเงินไว้ติดตัวได้ไหมระหว่างที่ผมรอทำเพลงอยู่ แม่ก็บอกว่าได้เดี๋ยวแม่โอนให้ รุ่งเช้ามาแม่ก็โอนแล้วผมก็ใช้แล้วก็มีเพื่อนของผมทักมาบอกว่าเบิ้ลอยากให้สู้นะ รู้ไหมว่าเงินที่แม่โอนให้เพื่อนผมบอกว่าเขาพาแม่ขี่มอเตอร์ไซค์เอาทองไปขาย แล้วทองเส้นนั้นเป็นทองที่ปู่เสียเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของพ่อ ผมร้องไห้แบบจุกหนัก ผมก็บอกกับตัวเองว่าถ้าผมไม่สำเร็จในการเป็น เบิ้ล ปทุมราช ผมจะไม่ยอมถอยไม่ยอมกลับไปบ้านโดยที่ยังไม่ดัง
เบิ้ล ปทุมราช : ผมเคยไปรับจ้างร้องเพลงร้านสุกี้ รับจ้างร้องเพลงร้านที่เป็นแบบพวกเรือนไม้เก่าๆที่เป็นแบบคนดูไม่เอาผมเลยผมก็บอกเพื่อนว่าสักวันหนึ่งผมจะทำให้เขารู้ว่าเขาคิดผิดที่ปฏิเสธผม ผมก็ไปหาพี่ชายบอกเขาว่าพี่ผมอยากทำเพลง โรงเบียร์ร้อยเอ็ดเขามีนักร้องหรือยังเขาบอกผมว่าเต็มแล้ว แต่ถ้าเบิ้ลอยากร้องเดี๋ยวพี่ช่วยคุยให้ ค่าตัววันนั้นผมได้มาเบียร์สามขวดผมได้ได้ทิปหน้าเวที 400-500 ก็เก็บเงินไว้ทำเพลงให้แม่ชื่อเพลง จากใจลูกชายแม่ (โชว์ร้องเพลง) คิดฮอดแม่เด้อ.. อยากเห็นหน้าแม่ คิดฮอดหลายแท้วันแม่ไม่ได้กลับไป แม่ร้องไห้แล้วแม่พูดกับผมน้ำตาผมไหลเลย
ถาม รับงานทั้งปีแล้วทำไมไม่เหลืออะไรเลย
เบิ้ล ปทุมราช : ผมติดเครดิตบูโรค้างค่าบ้าน 6-7 เดือนโดยที่ไม่มีใครรู้ช่วงนั้นได้เงินมาเยอะมันก็ใช้แบบไม่เป็นผมเคยแทงบอล แทงพนันด้วยนะเสียเงินเป็นแสนเป็นหลักล้านเลยนะ ไปเที่ยวกลางคืนสามสี่หมื่นก็ไม่เคยเสียดาย
ถาม ตอนที่เราจะดึงตัวเองออกมาจากสิ่งตรงนี้มันออกมาง่ายไหม
เบิ้ล ปทุมราช : …. ???
ถาม ส่วนเรื่องของหัวใจ ??/
เบิ้ล ปทุมราช : จริงๆตอนนั้นก็แอบจริงจังนะครับ เพราะว่าเราไม่ได้คุยกับใครเลยไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ สวิตเซอร์แลนด์ ไปเจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในร้านอาหารน่ารักเราก็ถามพี่ๆว่าเขาเป็นใครขอไลน์ให้หน่อย ได้มาผมก็ทักหาเขาเลย ขอบคุณนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักมีโอกาสสอนภาษาอังกฤษพี่หน่อยนะครับ ก็ทักไปแบบนี้เขาก็ตอบกลับมาว่า ยินดีค่ะ
ถาม ในความคาดหวังของรักระยะทางไกลเป็นอย่างไร
เบิ้ล ปทุมราช : อยากกอดก็ไม่ได้กอด ทำไมถึงต้องได้คุยแค่ในโทรศัพท์สุดท้ายผมก็ทำให้เขาเสียใจ
ถาม เป็นความรักระยะไกลแล้วเราเอาชนะความไกลอย่างไรบ้าง
เบิ้ล ปทุมราช : เราคบกันมาเรื่อยๆวีดีโอคอลทุกวัน ผมมาเจอกันที่กรุงเทพฯ เรารู้สึกว่าทำไมเราจูนกันไม่ค่อยติดเหมือนคุยกันในไลน์เลย
ถาม วีดีโอคอลรู้สึกโอเคกว่า
เบิ้ล ปทุมราช : เหมือนพอเจอหน้ากันเหมือนมันไม่ค่อยสปาร์คมีผิดใจกันบ้างบางเรื่อง จนมาถึงปีที่ 6 ที่ 7 จนเราต้องคุยกันมองตากันผมกลายเป็นผู้ชายที่เหมือนจะเข้มแข็งแต่พอเจอเหตุการณ์แบบนี้กลับกลายเป็นคนที่อ่อนกว่าเขาทั้งๆที่รู้ว่าเขาก็ร้องไห้เขาก็เจ็บเหมือนกัน คือรู้สึกดีเหมือนเดิมมากๆแต่ความรู้สึกของแฟนมันหายไปแล้ว
มาฟังทุกคำตอบของ “เบิ้ล ปทุมราช” เต็มๆในรายการ Club Friday Show วัน เสาร์ ที่ 1 มิถุนายน เวลา 11.00 น. ทางช่องวัน31
ข่าวที่น่าสนใจ