โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

เกียร์ออโต้! ตำเเหน่ง B ในรถบางรุ่น ควรใช้ตอนไหน?

สยามคาร์ - Siamcar

เผยแพร่ 27 มิ.ย. เวลา 06.01 น. • ทีมข่าวสยามคาร์
เกียร์ออโต้! ตำเเหน่ง B ในรถบางรุ่น ควรใช้ตอนไหน?

เกียร์ออโต้! ตำเเหน่ง B ในรถบางรุ่น ควรใช้ตอนไหน?

เกียร์ B คืออะไร?
เกียร์ B ย่อมาจาก Brake หรือเกียร์เบรก เป็นฟังก์ชันพิเศษที่พบได้ส่วนใหญ่ในรถยนต์ไฮบริด ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้ทั้งพลังงานจากน้ำมันและไฟฟ้า โดยเกียร์ B นี้มีหน้าที่หลักในการ เพิ่มแรงหน่วง หรือ ช่วยเบรก รถยนต์ให้ช้าลง โดยไม่ต้องใช้เบรกเท้าบ่อยๆ ทำให้การขับขี่ในสภาวะที่ต้องเบรกบ่อยๆ เช่น การขับรถในเมืองหรือการขับรถลงทางลาดชัน เป็นไปได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากขึ้นนั่นเอง หรือหากจะเรียกง่ายๆ ก็คงจะเรียกว่าเกียร์ต่ำ

แต่ก็ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฮบริดเท่านั้นที่มีเกียร์ B แต่รถยนต์สันดาปบางรุ่นก็มีเกียร์ B ด้วยเช่นกัน เช่น เกียร์ B ใน Toyota Yaris ATIV เป็นต้น

เกียร์ B ทำงานอย่างไร?
หลักการทำงานของเกียร์ B ทำอย่างไร? เมื่อเลื่อนคันเกียร์เข้าสู่ตำแหน่ง B มอเตอร์ไฟฟ้าในระบบไฮบริด จะทำงานร่วมกับระบบเบรก ทำให้เกิดแรงต้านในการหมุนของล้อ ทำให้รถช้าลงอย่างนุ่มนวล โดยที่ไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกบ่อยๆ นอกจากนี้ เกียร์ B ยังช่วยในการชาร์จแบตเตอรี่ในตัวรถไปในตัวอีกด้วย เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานเป็นตัวสร้างกระแสไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่

เกียร์ B ใช้ตอนไหน
การขับขี่ลงทางลาดชัน
เมื่อขับรถลงจากเนินเขาหรือทางลาดชัน เกียร์ B จะช่วยให้รถชะลอความเร็วลงโดยไม่ต้องพึ่งเบรกมากเกินไป ทำให้ลดความร้อนและการสึกหรอของผ้าเบรก

การขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
หากขับรถในสภาพการจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนที่บ่อย ๆ เช่น ในเมืองที่การจราจรติดขัด เกียร์ B จะช่วยให้รถชะลอความเร็วเมื่อยกเท้าออกจากคันเร่งโดยไม่ต้องเหยียบเบรกบ่อย ช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่

เมื่อต้องการชะลอความเร็วโดยไม่ใช้เบรก
ในกรณีที่ต้องการชะลอความเร็วในระยะทางยาว เช่น ขับในถนนที่มีความเร็วสูงและต้องการลดความเร็วลง เกียร์ B จะช่วยชะลอความเร็วของรถอย่างราบรื่น

การขับขี่ที่ต้องการประหยัดพลังงาน
การใช้เกียร์ B ช่วยในการสร้างพลังงานกลับคืน (Regenerative Braking) ซึ่งสามารถเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ทำให้สามารถใช้พลังงานที่สร้างขึ้นใหม่ในการขับขี่ต่อไป ช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มระยะการขับขี่

ขับขี่ในพื้นที่ที่ต้องการควบคุมความเร็ว
ในบางสถานการณ์ เช่น ขับขี่ในเส้นทางที่มีโค้งหักศอกหรือเส้นทางคดเคี้ยว การใช้เกียร์ B จะช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมความเร็วได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้เบรกหนัก

ดังนั้นเท่ากับ เกียร์ B คือเกียร์หน่วงความเร็วเพื่อลดความเร็วลง ในการชาร์จไฟ เหมาะกับการมใช้ในทางลงเขาเพื่อทำให้รถลดความเร็วและได้ไฟมากขึ้นนั่นเอง แต่การมใข้งานไม่เหมาะกับบางสถานการณ์นะครับ ใครที่ใช้รถกลุ่มนี้ ลองศึกษาและใช้งานดูนะครับ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...