จับทันควัน! ยายวัย 72 แชร์ข่าวปลอม อ้างมีต่างชาติรับจ้างบินโดรนให้ ‘เขมร’ อาศัยอยู่ใน ‘เกาะพะงัน’
จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ข่าวปลอม หรือ Fake News ระบุข้อความทำนองว่า "…มีกองกำลังหลายเชื้อชาติมารับจ้างขับบินโดรนให้ฝ่ายทหารกัมพูชา โดยเข้าพักอาศัยอยู่บนเกาะพะงัน จ.สุรษฎร์ธานีจำนวนมาก มีคนไทยคอยช่วยเหลือพาไปยังท่าเรือสีหนุวิลกว่า 180 คนแล้ว แต่ยังอยู่บนเกาะอีกกว่า 200 คน…" พร้อมแนบรูปภาพประกอบ เป็นกลุ่มชาวต่างชาติกำลังถือกระเป๋าเดินทาง หน้าอาคารที่มีอักษรภาษากัมพูชา พื้นที่ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ภายหลัง พล.ต.ต.สุวัฒน์ สุขศรี ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ทราบเรื่อง จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.อภิชาต จันทร์สำเร็จ ผกก.สภ. เกาะพะงัน เข้าตรวจสอบ และเชิญตัวบุคคลที่แชร์ข่าวดังกล่าวมาสอบสวนโดยเร็ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ. อภิชาต จันทร์สำเร็จ ผกก.สภ.เกาะพะงัน จ. สุราษฎร์ธานี ได้บูรณาการร่วมกับตำรวจสันติบาล ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะพะงัน) ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงัน เข้าตรวจสอบยังบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.เกาะพะงัน หลังสืบสวนทราบว่า น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 72 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้แชร์ข้อมูลข่าวปลอมทางออนไลน์
โดยก่อนหน้านี้ทางตำรวจได้สืบสวนเชิงลึก ตั้งแต่ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการในพื้นที่ ว่ามีกลุ่มบุคคลต่างชาติเข้ามาพักอาศัยจริงหรือไม่ ปรากฏว่าไม่พบข้อมูลและหลักฐานตามที่กล่าวอ้าง จากนั้นได้ตรวจสอบข้อมูลของบุคคลต้นเรื่องที่แชร์เรื่องราว ซึ่งพบว่า น.ส.เอ เป็นบุคคลดังกล่าว
จากการสอบสวน น.ส.เอ ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า มีเพื่อนส่งข้อความพร้อมภาพมาให้อีกที แต่ก็ไม่ทราบว่ามีข้อเท็จจริงแน่ชัดอย่างไร เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีในความผิดฐาน "…นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน…" นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.สุวัฒน์ สุขศรี ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่สได้สั่งกำชับให้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน สืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับบุคคลดังกล่าว และประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ขอความร่วมมือหยุดการส่งต่อหรือเผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ หากฝ่าฝืนส่งต่อข่าวปลอมผ่านสื่อออนไลน์ มีความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ขอให้ส่งข้อมูลหรือข่าวสารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบความถูกต้องก่อนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการสร้างความเข้าใจผิด ลดความตื่นตระหนกในสังคม และขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติการณ์ต้องสงสัย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุกสถานี หรือโทร 191 เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ให้แก่นักท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ต่อไป.