โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ครม.ไฟเขียว คุมเข้มการใช้จ่ายรัฐ หลังงบภัยพิบัติสูง ทำภาระการคลังพุ่ง

Khaosod

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ครม.ไฟเขียว คุมเข้มการใช้จ่ายรัฐ ชี้เงินมีจำกัด หลังงบภัยพิบัติสูง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ทำภาระการคลังพุ่ง หวั่นกระทบเครดิตเรตติ้งของประเทศ

วันที่ 9 ธ.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันเดียวกันนี้ ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอเรื่องแนวทางในการกำกับการดำเนินโครงการมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงสถานการณ์การใช้จ่ายงบประมาณของประเทศและวินัยทางการคลัง เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างมีวินัย

“รัฐบาลมีทรัพยากรคือเงินที่จำกัด มีเหตุที่ต้องใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณในการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้ระบุว่า งบส่วนนี้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และมีการเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นจึงควรมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในเรื่องนี้”

นายปกรณ์ ยังกล่าวถึงการที่รัฐบาลอุดหนุนช่วยเหลือผ่านกลไกของรัฐวิสาหกิจ แล้วต้องชดใช้คืนในภายหลังนั้น ถือเป็นภาระทางการคลัง และทำให้พื้นที่ทางการคลัง (physical space) ลดน้อยลง โดยผลกระทบของการใช้จ่ายที่สูงเกินไปหรือไม่ว่า ยิ่งใช้จ่ายมาก พื้นที่ทางการคลังก็จะยิ่งน้อยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ย ทำให้ต้นทุนทางการเงินของประเทศสูงขึ้น และจะส่งผลให้เครดิตเรตติ้งของประเทศได้ในอนาคต ดังนั้น จึงต้องระวังให้มากขึ้น เพราะหากหนี้ในส่วนนี้มากขึ้น ต้นทุนทางการเงินของประเทศจะสูงเพิ่มขึ้นด้วย

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ครม.ไฟเขียว คุมเข้มการใช้จ่ายรัฐ หลังงบภัยพิบัติสูง ทำภาระการคลังพุ่ง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...