โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

ตร.แจ้งข้อหาตามกฎหมาย “นัทปง-นาย ก.” ครอบครอง ไซยาไนด์ แต่เสียชีวิตแล้วไม่สั่งฟ้อง

สวพ.FM91

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันนี้ ( 8 ธ.ค. 2568 ) ที่ สภ.บางกรวย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวหลังสอบปากคำ นาย ก. ในคดี การเสียชีวิตของนายณัฐวุฒิ ปงลังกา อายุ 35 ปี "นัทปง" ผู้สื่อข่าวช่อง 8 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

พล.ต.ท.วัฒนา เปิดเผยว่า นาย ก. ให้การรับสารภาพว่า ได้นำสารไซยาไนด์ออกมาจากร้านทองที่ตัวเองทำงานอยู่จริง โดยรู้เห็นเป็นใจกับนัทปง (ผู้เสียชีวิต) ซึ่งมีการนัดหมายนำสารไซยาไนด์มามอบให้ที่บ้านพักของผู้เสียชีวิตเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่อยู่บ้าน ซึ่งตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและมีหลักฐานชัดเจน

พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวอีกว่า ส่วนปริมาณสารไซยาไนด์ที่นำมาส่งมอบให้มีปริมาณ 2 ช้อนชา ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย หรือเส้นทางการเงินปรากฏว่ามีการซื้อขายกัน จากการตรวจสอบพบว่าได้ใช้ไปจำนวนหนึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่ยังคงต้องเข้าตรวจสอบหลักฐานในบ้านผู้เสียชีวิตเพื่อนำมาเปรียบเทียบอีกครั้งหนึ่ง

พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวต่อว่า เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา นาย ก. ฐานมีวัตถุออกฤทธิ์วัตถุอันตรายประเภทที่ 3 เอาไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากตำรวจนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักและร้านทองที่นาย ก.เป็นลูกจ้างอยู่ นอกจาก นาย ก. แล้ว ผู้เสียชีวิตก็ต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย ตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ผู้กระทำความผิดเสียชีวิตไปแล้ว ก็จะสั่งไม่ฟ้อง

สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ยอมรับว่ายังมีความบกพร่องต่อหน้าที่ ส่วนกรณีที่มีบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่นำพยานหลักฐานออกไปจากบ้านที่เกิดเหตุ ได้มอบหมายให้กับฝ่ายสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบสวนถึงเจตนาในการนำวัตถุพยานออกไปจากที่เกิดเหตุ เข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา

พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวต่อว่า ส่วนการสอบปากคำพยานคนใกล้ชิดและคนสนิททั้ง 5 คนเมื่อวานนี้ ทุกคนให้การไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ยังคงตั้งประเด็นเอาไว้เรื่องของการทำร้ายตัวเอง และมีบุคคลทำให้เสียชีวิต ซึ่งยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง หลังจากนี้อาจจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญรวมถึงเครื่องจับเท็จมาตรวจสอบพยานทั้ง 4-5 คนอีกครั้งหนึ่ง

พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการให้การของคนสนิทระบุถึงการพยายามที่จะทำร้ายตัวเองมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงมีการระบุถึงอาการป่วยทางจิตเวชที่มีมาก่อนหน้านี้ แต่ตำรวจยังไม่พบหลักฐานเป็นทางการแพทย์ ซึ่งต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังได้เข้าไปขอข้อมูลเพิ่มเติมจากแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำ โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาประกอบกับหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ โดยตำรวจจะเข้าตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อนำกล้องวงจรปิดแต่ละมุมมาตรวจสอบอย่างละเอียด ในวันที่ 11 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ พร้อมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และจะสอบถามครอบครัวผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...