ผู้จัดการกองทุนเชื่อหุ้นจีนยังไม่หมดรอบ ปี 2026 เตรียมขึ้นต่อ
MSCI China พุ่ง 30% แซง S&P 500 ครั้งแรกรอบ 7 ปี ผู้จัดการกองทุนเชื่อหุ้นจีนยังไม่หมดรอบ ปี 2026 เตรียมขึ้นต่อ
รายงานจากฟินโนมีนาเปิดเผยว่าผู้จัดการกองทุนทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกต่อหุ้นจีนอีกครั้ง หลังจากที่ดัชนี MSCI China พุ่งขึ้นแล้วกว่า 30% ตั้งแต่ต้นปี เพิ่มมูลค่าตลาดกว่า 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ และทำผลงานแซง S&P 500 มากที่สุดในรอบ 7 ปี โดยความเชื่อใหม่ที่กำลังก่อตัวคือ จีนอาจยังไม่หมดรอบขาขึ้น และปี 2026 อาจเป็นปีที่เม็ดเงินต่างชาติกลับเข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
ในมุมของสถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Amundi, BNP Paribas Asset Management, Fidelity International และ Man Group ต่างประเมินตรงกันว่าหุ้นจีนยังมีอัพไซด์ต่อได้ในปี 2569 โดยให้เหตุผลว่ากำไรบริษัทเริ่มฟื้นตัว ความได้เปรียบด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูงยังคงเป็นจุดแข็งเชิงโครงสร้าง แม้จะอยู่ท่ามกลางแรงเสียดทานกับสหรัฐฯ ก็ตาม
ขณะเดียวกัน JPMorgan เพิ่งอัปเกรดตลาดจีนขึ้นเป็น Overweight ซึ่งสะท้อนภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า “จีนกลับมาอยู่ในเรดาร์ของกองทุนโลกอีกครั้ง” แม้เม็ดเงินปีนี้ส่วนใหญ่จะมาจากกองทุนแบบ Passive แต่ผู้จัดการกองทุนเชื่อว่าหากเงินจาก Active Funds ไหลกลับมาเติมน้ำหนักจริง รอบถัดไปของการปรับขึ้นอาจไปได้ไกลกว่าเดิม
ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นจีนและฮ่องกงราว 10,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ แม้ Active Funds จะยังถอนเงินจากความกังวลต่อเศรษฐกิจที่ชะลอและการกำกับดูแลของปักกิ่งในช่วงก่อนหน้า แต่นักกลยุทธ์จาก Bank of America มองว่าการฟื้นตัวของรายได้บริษัท และความหวังว่าจีนจะสามารถหลุดจาก“กับดักเงินฝืด” ได้ อาจกลายเป็นตัวเร่งสำคัญที่ดึงเม็ดเงินกลับเข้ามาอีกครั้ง สอดคล้องกับมุมมองของผู้จัดการกองทุนจาก Fidelity ที่ระบุว่า จีนได้ “พิสูจน์ความทนทาน” และตอนนี้เป็นจังหวะที่เขา “อยากซื้อเมื่อย่อตัวมากกว่าเดิม”
แรงขับเคลื่อนสำคัญของรอบนี้ยังคงมาจากกลุ่มเทคโนโลยี ตั้งแต่เซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ไปจนถึง Biopharma ขณะที่กระแส AI ผลักหุ้นอย่าง Cambricon และ Alibaba ขึ้นแรงตลอดทั้งปี แต่สำหรับนักลงทุนที่มองเชิงวัฏจักร ผู้เชี่ยวชาญบางรายเชื่อว่าหุ้นผู้บริโภคซึ่งตามหลังตลาดมาตลอดปี อาจเป็นกลุ่มที่สร้างเซอร์ไพรส์ หากภาพ Reflation ของจีนเริ่มชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้มูลค่าหุ้นจีนยัง“ถูกกว่าโลก” โดย MSCI China ซื้อขายที่เพียง 12 เท่ากำไรล่วงหน้า ต่ำกว่า MSCI Asia ที่ 15 เท่า และ S&P 500 ที่ 22 เท่า
อย่างไรก็ตาม แม้มุมมองเชิงบวกจะเริ่มหนาขึ้น แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าผลตอบแทนระดับปีนี้อาจยากจะเกิดซ้ำ Nomura คาดว่า MSCI China มีอัพไซด์ราว 9% ส่วน Morgan Stanley มองใกล้เคียง 6% ขณะเดียวกันตลาดจีนเองก็ไม่ได้จำเป็นต้องพึ่งนักลงทุนต่างชาติเพียงอย่างเดียว เพราะกองทุนในประเทศและบริษัทประกันกำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นตามแรงจูงใจเชิงนโยบาย
อีกทั้งเงินฝากในมือครัวเรือนจีน ที่สูงถึง 23 ล้านล้านดอลลาร์ ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ หากนักลงทุนภายในประเทศเริ่มเชื่อมั่นในตลาดตัวเองมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าตลาดจีนยังมีโอกาสไปต่อในปี 2026 ได้ไม่ยาก