ครบรอบ 60 ปี ม.ขอนแก่น จัดเต็มหมอลำ 4 เวที 3 วัน 3 คืน เดือน ต.ค.นี้
มหาวิทยาลัยขอนแก่นเตรียมฉลองก้าวสู่ปีที่ 60 จัดโชว์หมอลำเต็มวง 4 เวที 3 วัน 3 คืน เกือบ 20 คณะ บริเวณริมบึงศรีฐาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 9-11 ตุลาคม 2566 ด้านมหาวิทยาลัยยังไม่ได้ยืนยันประกาศเป็นทางการ
วันที่ 4 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี โดยเฟซบุ๊กเพจ ใต้เตียงมข. โพสต์ข้อความระบุว่า มหาวิทยาลัยจะจัดงานเฉลิมฉลอง โดยนำหมอลำเต็มวง 4 เวที 3 วัน 3 คืน เกือบ 20 คณะ แสดง ณ บริเวณริมบึงศรีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีเนื้อหาดังนี้
“ครบรอบ 60 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดหมอลำเต็มวง 4 เวที 3 วัน 3 คืน เกือบ 20 คณะ”
งานครบรอบ 60 ปีมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดขึ้น ณ บริเวณริมบึงศรีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น จัดขึ้นในวันที่ 9-11 ตุลาคม 2566 เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน มีหมอลำคณะทำการแสดง และคณะร่วมแสดง ดังนี้
วันที่ 9 ตุลาคม 2566
คณะที่ตั้งเวทีทำการแสดง ทำการแสดงแบบ #เต็มวง
- คณะระเบียบวาทะศิลป์
- คณะใจเกินร้อย บอย ศิริชัย
- คณะเพชรลำเพลิน พร ภิรดี ราชินีลำเพลิน
- คณะขวัญใจแฟน แมน จักรพันธ์
- คณะที่ร่วมแสดง (ส่งศิลปินมาร่วมแสดง ไม่ได้ตั้งเวที)
- คณะหนูภารวิเศษศิลป์
- คณะเดือนเพ็ญ อำนวยพร
วันที่ 10 ตุลาคม 2566
- คณะที่ตั้งเวทีทำการแสดง ทำการแสดงแบบ #เต็มวง
- คณะประถมบันเทิงศิลป์
- คณะรัตนศิลป์อินตาไทยราษฎร์
- คณะแก่นนครบันเทิงศิลป์
- คณะศิลปินภูไท วีระพงษ์ วงศ์ศิลป์
- คณะที่ร่วมแสดง (ส่งศิลปินมาร่วมแสดง ไม่ได้ตั้งเวที)
- คณะน้องใหม่เมืองชุมแพ
- คณะสาวน้อยเพชรบ้านแพง
วันที่ 11 ตุลาคม 2566
- คณะที่ตั้งเวทีทำการแสดง ทำการแสดงแบบ #เต็มวง
- คณะเสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร
- คณะบัวริมบึงรุ่งลำเพลิน
- คณะคำผุนร่วมมิตร
- คณะอีสานนครศิลป์
คณะที่ร่วมแสดง (ส่งศิลปินมาร่วมแสดง ไม่ได้ตั้งเวที)
- คณะซานเล้าบันเทิงศิลป์
- คณะนูกยูงทอง
อย่างไรก็ตาม ทำการแสดงพร้อมกันแบบ 4 เวที ทุกคณะเริ่มแสดง 18.00-02.00 น. (ตี 2 โดยประมาณ)
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเพจใต้เตียงมข.ได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า การประกาศนำหมอลำมาจัดแสดงครบรอบ 60 ปีนั้นเป็นเพียงข่าวลือ ยังไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากมหาวิทยาลัย
ดันหมอลำนำ Soft Power
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ที่เป็นทุนทางวัฒนธรรม เพื่อใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งหมอลำเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจอีสาน โดยศูนย์ศิลปวัฒนธรรม และนักวิจัยคณะเศรษฐศาสตร์ และวิทยาลัยการปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมมือกันดำเนินโครงการวิจัย เรื่อง “หมอลำกับเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพของคนอีสาน” ภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม แผนงานคนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาวัฒนธรรมการแสดงพื้นบ้านของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือหมอลำ ในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และการปรับเปลี่ยนเชิงธุรกิจของหมอลำให้อยู่รอดในสังคมปัจจุบัน
รวมถึงการวิเคราะห์ความต้องการของผู้ชมหมอลำ และนำมาปรับใช้ในการออกแบบการให้บริการ และการดำเนินธุรกิจหมอลำเพื่อให้สามารถแข่งขัน และต่อยอดจนสามารถเป็น soft power ได้ในอนาคต
ประวัติมหา’ลัยแห่งแรกของอีสาน
มหาวิทยาลัยขอนแก่น กำลังจะมีอายุครบรอบ 60 ปี ในปี 2567 ข้อมูลจากเว็บไซต์มหาวิทยาลัยขอนแก่นระบุว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น นับเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ก่อตั้งขึ้นตามนโยบายการขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาสู่ส่วนภูมิภาคตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 1 ของประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนากำลังคน และองค์ความรู้เพื่อการแก้ปัญหาให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีประชากรเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ
ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีมติให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาชั้นสูง ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเกษตรศาสตร์ขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยปี พ.ศ. 2506 คณะอนุกรรมการได้ตกลงเลือกบ้านสีฐานเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัย โดยมีเนื้อที่ประมาณ 5,500 ไร่ ห่างจากตัวเมืองขอนแก่น 4 กิโลเมตร ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2507 ได้มีการก่อสร้างอาคาร “คณะวิทยาศาสตร์-อักษรศาสตร์”
พร้อมรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยรุ่นแรก ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2507 จำนวนทั้งสิ้น 107 คน และปี พ.ศ. 2509 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2509 ซึ่งถือเป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัย โดยมีปณิธานการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการ “อุทิศเพื่อสังคม (Social Devotion)”
3 ยุคแห่งการพัฒนา
ข้อมูลยังระบุอีกว่า หากจะนับจากการก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีการพัฒนาการมาโดยลำดับ ซึ่งสามารถแบ่งพัฒนาการตามความสำเร็จของการบริหารและพัฒนามหาวิทยาลัยได้ 3 ยุค ดังนี้
ยุคที่หนึ่ง เป็นยุคแห่งการก่อตั้งและขยายตัวของมหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ อยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2507-2526 ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งการก่อตั้งและการขยายตัวของมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง
ยุคที่สอง เป็นยุคแห่งการพัฒนาและสร้างองค์ความรู้ ในการพัฒนามหาวิทยาลัยในแต่ละช่วง นอกจากจะพัฒนาหลักสูตรเพื่อผลิตบัณฑิตที่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนและสังคมแล้ว งานวิจัยก็เป็นหน้าที่ที่สำคัญของมหาวิทยาลัย โดยเป็นการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ และการให้บริการวิชาการแก่ชุมชนและสังคมควบคู่กันไป ในช่วงปี พ.ศ. 2527-2546 จึงเป็นยุคแห่งการพัฒนาและสร้างองค์ความรู้สู่การบริการชุมชน ทั้งการจัดตั้งหน่วยงานการพัฒนาหลักสูตรเพิ่มขึ้น และมีการพัฒนาขีดความสามารถด้านการวิจัยเพิ่มมากขึ้น
ยุคที่สาม กับการก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการวิจัย และมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำ โดยยุคนี้เริ่มจากปี พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกาภิวัตน์ ที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่มีผลกระทบไปทั่วโลก
รวมทั้งนโยบายการเปิดการค้าเสรีของประเทศ ประกอบกับประเทศไทยเริ่มมีการปฏิรูประบบการบริหารราชการให้มีเป้าหมายมุ่งผลสัมฤทธิ์ โดยการนำแนวคิดการบริหารเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management) และระบบการบริหารคุณภาพเข้ามาใช้ในหน่วยงานราชการ ในช่วงนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความเจริญเติบโต หน่วยงานมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 มหาวิทยาลัยยังได้ปรับเปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยที่เป็นส่วนราชการไปเป็น “มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ”
และในยุคนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้พัฒนาตนเองให้เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ตลอดชีวิตของสังคม (Lifelong Learning Center) โดยได้ปรับปรุงพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยให้เป็นอุทยานการเรียนรู้ของสังคม เช่น พื้นที่บริเวณบึงสีฐานและสนามกีฬาของมหาวิทยาลัย ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย (Sport Park) พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ได้ มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจังหวัดหนองคาย มีการเก็บรักษาพื้นที่ป่าดั้งเดิมและพื้นที่ศึกษานกธรรมชาตินานาชนิด มีการปรับพื้นที่ให้เป็นแหล่งความรู้ทางการเกษตรครบวงจร (Agro Park) และอุทยานศิลปวัฒนธรรม (Culture Park) เป็นต้น
ที่สำคัญมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้รับการประเมินจากหน่วยงานภายนอกทั้งในระดับสถาบัน ระดับคณะ และระดับหลักสูตร โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานการประเมินในระดับประเทศและระดับสากล เป็นการตอกย้ำถึงมาตรฐานด้านการบริหารที่มีคุณภาพ