ประกาศเลิกเซ็กซี่ "หมออ้อย" หันหน้าเข้าหาธรรมะ เผยเรื่องราวเคยนอกใจแฟนหนุ่ม!
เชื่อว่าหลายคนคงจำได้ หมออ้อย-จุฑารัตน์ เทียมสุวรรณ สาวเซ็กซี่ที่ทำวงการบันเทิงสั่นสะเทือนมานักต่อนักแล้ว ล่าสุดเธอมานั่งเปิดใจในรายการ คุยเช้า Show ทางช่อง one31 ที่มี พีเค-ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า-ธัญญาเรศ และเอ็มมี่-อมลวรรณ เป็นพิธีกร ถึงกรณีที่ประกาศตัวเลิกเซ็กซี่ และเดินหน้าเข้าหาธรรมะ
จริงหรอที่บอกว่าจากนี้ไปจะไม่เซ็กซี่แล้ว?
“ไม่เซ็กซี่แล้วค่ะ ไม่ได้สร้างภาพอะไรด้วยวัยด้วยค่ะ แล้วงานพิธีกรไม่ใช่ไม่อยากทำ อยากทำตลอด แต่ด้วยความที่รายการล้มหายตายจากกันไป ด้วยภาวะเศรษฐกิจด้วย ด้วยเคเบิ้ลอาจจะมีบทบาทน้อยลงเนื่องจากจะมีช่องดิจิตอลเข้ามา ค่ายใหญ่ๆ ก็จะมีเงินทุนหนาหน่อยค่ายเล็กๆ ก็ปิดตัวลงไปก็เป็นเรื่องปกติ เราอาจจะต้องรอทำพิธีกรที่เหมาะสม ที่เหมาะสมของเราคืออยากทำพิธีกรที่ให้ความรู้กับคนอื่นมากว่าการทำพิธีกรเซ็กซี่มันอิ่มแล้ว”
ที่งานหดไปอาจเป็นเพราะว่าเราผันตัวเข้าทางธรรมะหรือเปล่า ?
“ที่จริงไม่นะ การผันตัวเข้าทางธรรมะทำให้มีงานมากขึ้น เพราะมันจะเป็นเมตตาบารมี พูดแล้วขนลุกจริงๆ เพราะว่าคือการที่เรามีธรรมะทำให้เราเจอกัลยาณมิตรที่ดี แล้วคนที่เค้าอยู่กับเราเค้ารู้สึกสุขใจ เราอยู่ใกล้คนที่มีธรรมะเราก็จะรู้สึกสบายใจ เราไม่ร้อน งานเยอะขึ้นนะ เพียงแต่ว่าเราอาจจะมีโอกาสเลือกมากขึ้น อันไหนที่มันเหมาะสมกับเรา อันไหนที่มันเฉียดๆ ผิดศีลเราก็ไม่อยากทำ เพราะเรามีเจตนาว่าเราขอให้ได้โสดาบันในชาตินี้ โสดาบันหลายคนอาจจะคิดมันสูงไปหรือเปล่า ไม่เลย จริงๆ แค่ถือศีล 5 ก็บรรลุได้แล้ว ถ้าใครไม่ศึกษาธรรมะจะคิดว่ายากแต่จริงๆแล้วธรรมะอยู่ในชีวิตประจำวัน แค่เรานั่งจัดรายการแบบนี้เราก็ปฎิบัติธรรมได้แล้วนั่นคือวิปัสสนา วิปัสสนาคืออะไร คือการที่เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรคือการรู้ทันตัวเอง เช่นเรากำลังพูดอะไร ถ้าเรากำลังจะพูดเผลอไม่เพราะเราจะมีสติขึ้นมา”
มันเป็นเทรนด์หรือเปล่าที่อยู่ดีๆคนที่เป็นสาวเซ็กซี่มาพึ่งสาวธรรมะ?
“เรื่องของธรรมะเป็นเทรนด์ไม่ได้ มันมีอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้ว ทุกคนชอบทำบุญ มีใครไม่ชอบทำบุญบ้าง ทุกคนกลัวทุกข์ ทุกคนกลัวไม่ได้สิ่งที่ปราถนา บังเอิญคนที่ออกมานั่งตรงนี้เป็นสาวเซ็กซี่มันก็เลยมีประเด็น คือมันอยู่ที่ว่าแต่ละคนมีสถานะแบบไหนถึงจะเป็นประเด็น จริงๆทุกคนชอบธรรมะอยู่แล้วแต่อาจจะไม่รู้ตัวหรืออาจจะรู้แบบไม่ถูกต้องจึงรู้สึกว่าธรรมะมันยากเอาไว้ทีหลัง เอาทางโลกก่อน จริงๆแล้วสุขทางธรรมะเป็นบรมสุข”
พอเราเข้ามาทางสายธรรมะมีอะไรในอดีตที่เราอยากจะแก้ไขมั้ย?
“ไม่แก้เลย ทุกคนมีกรรมเป็นที่อาศัย สัตว์โลกมีกรรมเป็นที่อาศัย ทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีอะไรบังเอิญ ในอดีตชาติเราอาจจะเคยพูดจาให้ครอบครัวเค้าแตกแยกหรือว่าผิดในข้อของเพ้อเจ้ออะไรก็แล้วแต่ กรรมเนี่ยเป็นคอมพิวเตอร์ชั้นดีคือมันจะถูกกำหนดไว้หมดเลย ใครที่ไม่มีแฟน ไม่มีสามี ไม่มีครอบครัวที่อบอุ่น อย่าไปเสียใจเราใช้กรรมตรงนี้ให้หมด”
มีรู้สึกผิดกับใครมั้ยอยากจะขออโหสิกรรมกับใครมากที่สุด?
“ไม่รู้สึกผิดกับใคร ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ตอนนี้ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดใครเลย”
หลังจากพึ่งสายธรรมะมีผู้ชายคนไหนที่เรารู้สึกอยากจะอโหสิกรรมให้มั้ย?
“ก็มีไม่อะไรที่ต้องอโหสิกรรมนะ เพราะตอนอยู่ด้วยกันก็มีความสุขกันทั้งคู่ ส่วนที่ไปกันไม่ได้ก็คือมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ก็อโหสิกรรมให้ถ้าอดีตชาติถ้าเราทำไรให้เค้า เค้าทำไรให้เราในชาตินี้ก็ไม่มีอะไรติดใจ”
ทำยังไงให้คนรอบๆ ตัวเราเชื่อว่าเรามาสายนี้จริงๆ?
“พี่ไม่ต้องการให้ใครเชื่อ ไม่ต้องการออกสื่อ ไม่ต้องการบอกคนทั้งประเทศว่าเรามาสายบุญ แต่ที่ทำเพื่ออยากหลุดพ้น อยากพ้นทุกข์ แล้วที่ทำเพราะตัวเราเองแล้วพี่จะให้กับคนใกล้ตัวเรา แล้วพี่ไม่ต้องการออกสื่อแต่ที่พี่มาอยู่ตรงนี้เพราะสื่อขอให้พี่มาออก”
พอเรามาเดินทางสายธรรมเรื่องความรักดีขึ้นมั้ย ?
“เรื่องความรักพี่ไม่ได้เน้นนะ แต่พี่เน้นคนที่อยู่ด้วย ซึ่งคนที่อยู่ด้วยตอนนี้ชื่อ มาร์ท-ปกรณ์ ปานเจริญ เป็นอดีตศิลปินอาร์เอส จริงๆ เป็นแฟนกันตั้งแต่เด็กๆ เป็นแฟนกันนานมาก ตั้งแต่ยังไม่เข้าวงการ”
ตอนนี้คือกลับมาคบกัน ?
“จริงๆอยู่กันนานมาสิบกว่าปีแต่คนไม่รู้ แต่ตอนที่เราไปมีข่าวกับผู้ชายคนนึง นั่นคือเรานอกใจเค้าเอง”
แบบนี้เรียกผิดศีลข้อ 3 มั้ย ?
“ตอนนั้นยังไม่มีธรรมะ”
เรามาสายธรรมะขนาดนี้คิดมั้ยว่าสักวันหนึ่งจะโกนหัวบวชเลย?
“ไม่ ถ้าไม่บวชก็บรรลุธรรมได้ การบรรลุธรรมไม่จำเป็นต้องบวชเสมอไป คนบวชก็ใช่ว่าจะบรรลุธรรมเสมอไป ถ้าเราเข้าใจธรรมอยู่ตรงไหนก็บรรลุได้ ศีล 5 ก็บรรลุได้ เป็นโสดาบันก็เป็นได้บัดนี้เลย เป็นอนาคามีก็ไม่ต้องศีล 8 แค่ศีล 5 และพรหมจรรย์”
ติดตามรายการ“คุยเช้าShow” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-08.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยเช้าShow และรับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama