โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ยังโหดได้อีก! กองทัพยิวประกาศเริ่มใช้แผนบุกกาซาครั้งใหม่ ขณะเนทันยาฮูเดินกลยุทธ์ขับชาวปาเลสไตน์ออกไป

Manager Online

เผยแพร่ 13 ส.ค. เวลา 18.44 น. • MGR Online

เนทันยาฮูฟื้นไอเดีย “เปิดทางชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากกาซาเพื่อความปลอดภัย” ที่ถูกประณามว่าคือแผนการขับไล่ผู้คนเหล่านี้ออกจากดินแดนนี้ไปตลอดกาล ขณะที่กองทัพยิวประกาศวันพุธ (13 ส.ค.) อนุมัติกรอบโครงการปฏิบัติการสำหรับการรุกครั้งใหม่เข้าไปในดินแดนแห่งนี้ ภายหลังที่ได้ส่งทั้งโดรน ระเบิด และขีปนาวุธ ถล่มเมืองกาซาซิตี้หนักหน่วงมาหลายวัน

ก่อนหน้านี้ก็มีผู้เรียกร้องให้อพยพชาวกาซาออกไปตั้งถิ่นฐานใหม่นอกดินแดนนี้ที่พังพินาศจากสงคราม หนึ่งในนั้นคือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งสร้างความวิตกกังวลในหมู่ชาวปาเลสไตน์ และเรียกเสียงประณามจากนานาชาติ

ในวันอังคาร (12) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้ปัดฝุ่นแนวคิดนี้ โดยระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ผู้นำรัฐยิวอ้างว่า ไม่มีแผนขับไล่ชาวปาเลสไตน์ แต่จะให้โอกาสคนเหล่านั้นในการอพยพไปยังที่ปลอดภัย ซึ่งอาจเริ่มจากการออกจากเขตสงคราม รวมถึงออกจากฉนวนกาซาถ้าต้องการ ทั้งนี้เขายังอ้างอิงกระแสผู้อพยพหนีสงครามในซีเรีย เยเมน และอัฟกานิสถาน ที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อิสราเอลได้ควบคุมแนวชายแดนกาซาอย่างเข้มงวด และปิดกั้นไม่ให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางออกจากดินแดนนี้

สำหรับชาวปาเลสไตน์ ความพยายามในการขับไล่ตนออกจากมาตุภูมิกระตุ้นความทรงจำถึงโศกนาฏกรรม “นักบะห์” ที่ชาวปาเลสไตน์เรือนล้านต้องทิ้งถิ่นฐานครั้งใหญ่ระหว่างที่อิสราเอลสร้างประเทศในปี 1948 และจนกระทั่งบัดนี้ก็ไม่สามารถที่จะกลับคืนบ้านเกิดได้อีกเลย

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนที่ทรัมป์เสนอแนะให้อพยพประชาชนกว่า 2 ล้านคนไปตั้งถิ่นฐานที่อื่น เช่นที่อียิปต์และจอร์แดน แล้วนำพื้นที่มาพัฒนาเป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” เนทันยาฮูก็ได้รีบขานรับ ขณะที่เหล่ารัฐมนตรีขวาจัดของอิสราเอลระบุว่าเป็นการ “เดินทางออกไปโดยสมัครใจ”

ในอีกด้านหนึ่ง กองทัพอิสราเอล แถลงวันพุธ (13) ว่า พล.ท. เอยัล ซามีร์ ที่เป็นผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดของกองทัพอิสราเอล ได้ลงนามอนุมัติกรอบโครงการปฏิบัติการสำหรับการรุกครั้งใหม่ในฉนวนกาซาแล้ว การอนุมัตินี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากคณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลมีมติเรียกร้องให้ส่งกองทหารเข้าไปยึดครองกาซาซิตี้ ที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา ภายหลังจากกองทัพรัฐยิวทำสงครามถล่นดินแดนของชาวปาเลสไตน์แห่งนี้มา 22 เดือน จนก่อให้เกิดภาวะทุกข์ยากเดือดร้อนทางมนุษยธรรมอย่างแสนสาหัส

รัฐบาลของเนทันยาฮู ไม่ได้กำหนดตารางเวลาชัดเจนว่า กองทัพจะต้องเข้าเมืองกาซาซิตี้เมื่อใด โดยที่เวลานี้อาคารบ้านเรือนต่างๆ ของนครแห่งนี้ก็อยู่ในสภาพถูกทำลายแหลกลาญ และยังมีผู้คนอีกเป็นเรือนแสนอาศัยพำนักหลบภัย หลังจากหลบหนีการโจมตีครั้งก่อนๆ ของกองทัพยิว

ทว่า มาหมูด บาสซาล โฆษกหน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนของกาซา แถลงเมื่อวันอังคารว่า อิสราเอลเริ่มโจมตีทางอากาศหนักขึ้นในช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยใช้ทั้งระเบิด โดรน และกระสุนที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงในพื้นที่ดังกล่าว และสำทับว่า การโจมตีของอิสราเอลทั่วกาซาทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 คนในวันอังคาร ซึ่งรวมถึงในกาซาซิตี้

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นแม้อิสราเอลถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงจากนานาชาติ นอกจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ ยังเตือนว่า อาจเกิดวิกฤตอดอยากเลวร้ายอย่างกว้างขวางในกาซา ขณะที่อิสราเอลปิดกั้นปริมาณการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันอังคาร บัดร์ อับเดลัตตี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ เผยว่า ไคโรกำลังร่วมกับกาตาร์ และอเมริกา ผลักดันแนวทางการทูตเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงนาน 60 วัน และปล่อยตัวประกันในกาซาบางส่วนแลกเปลี่ยนกับชาวปาเลสไตน์บางส่วนที่ถูกอิสราเอลควบคุมตัว รวมทั้งการเปิดทางลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการแพทย์เข้าสู่กาซาโดยปราศจากเงื่อนไขและข้อจำกัด

(ที่มา: เอเอฟพี/เอเจนซีส์)

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...