โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เกษตรกรนำไม้ยืนต้นเข้าหลักประกันธุรกิจกว่า 1 แสนต้น มูลค่ารวมกว่า 138 ล้าน

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 09 มิ.ย. 2566 เวลา 08.07 น. • เผยแพร่ 09 มิ.ย. 2566 เวลา 06.58 น.

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ตั้งมั่นรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการนำไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ และโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) ล่าสุดมีเข้ามาขอหลักประกัน 1.4 แสนต้น มูลค่ากว่า 138 ล้านบาท

วันที่ 9 มิถุนายน 2566 นายกำแหง กล้าสุคนธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตนลงพื้นที่วิสาหกิจชุมชนบ้านถ้ำเสือ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการธนาคารต้นไม้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และมีเกษตรกรในพื้นที่ รวมถึงบริเวณใกล้เคียงได้นำไม้ยืนต้นที่มีค่ามาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ

ซึ่งกรม และ ธ.ก.ส. มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ผ่านโครงการนำไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) ของ ธ.ก.ส.

ทั้ง 2 โครงการมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ ส่งเสริมให้เกษตรกรสร้างสรรค์ประเทศให้เป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อเพิ่มออกซิเจนและโอโซนช่วยให้อากาศสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านการปลูกไม้ยืนต้น และปลูกป่า ส่วนผลประโยชน์ที่เกษตรกรได้รับจะแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ของแต่ละโครงการ

เช่น โครงการหลักประกันทางธุรกิจของกรมจะเน้นที่การส่งเสริมให้เกษตรกรและประชาชนปลูกไม้ยืนต้นที่มีค่าบนที่ดินกรรมสิทธิของตนเอง และเมื่อต้องการใช้เงินเพื่อต่อยอดทำธุรกิจหรือดำรงชีวิตประจำวัน ก็สามารถนำไม้ยืนต้นที่ปลูกมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินตามกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ

โดยไม้ยืนต้นที่ปลูกก็ยังคงอยู่บนพื้นที่ของตนเอง เกษตรกรสามารถนำไม้ยืนต้นนั้นไปต่อยอดสร้างรายได้อื่น ๆ เพิ่มขึ้น เช่น เป็นแหล่งผลิตคาร์บอนเครดิตเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมได้ซื้อไปเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามกลไกของตลาดซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกิจ และสอดรับกับกระแสของโลกอนาคต

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ กรม ธ.ก.ส. และกรรมการธนาคารต้นไม้ ได้ร่วมกันตรวจวัดและประเมินมูลค่าไม้ยืนต้นของเกษตรกรที่แสดงความประสงค์ขอใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยใช้ Application Tree Bank และได้ร่วมกันมอบวงเงินแก่เกษตรกรที่นำไม้ยืนต้นที่มีค่าที่ปลูกบนที่ดินของตนเองมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อ ภายใต้กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจจำนวน 5 ราย วงเงินสินเชื่อรวม 623,885 บาท

สำหรับต้นไม้ที่นำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ประกอบด้วย มะฮอกกานี สะเดา ตาลโตนด กระท้อน มะม่วงป่า จำปีป่า สัก จามจุรี ฯลฯ รวมทั้งสิ้นจำนวน 403 ต้น ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2566) มีผู้ขอนำไม้ยืนต้นมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแล้วจำนวน 146,860 ต้น มูลค่ารวม 138,048,597.02 บาท เกษตรกรที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0-2547-4944 สายด่วน 1570 www.dbd.go.th และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ”

นายนักรบ อินทรสาลี ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้มีการมอบประกาศเกียรติคุณแก่ธนาคารต้นไม้ 3 ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme : LESS) ของ ธ.ก.ส. ได้แก่

1) ธนาคารต้นไม้บ้านห้วยยางเหนือ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
2) ธนาคารต้นไม้ Aromatic Farm อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
3) ธนาคารต้นไม้หนองพลับ-ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี

ทั้งนี้ โครงการ LESS จัดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยกย่องผู้ทำความดีโดยการมอบใบประกาศเกียรติคุณ เพื่อให้ผู้ดำเนินกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกได้รับการยอมรับ โดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์และประเมินทางเทคนิควิชาการ และนำมาผนวกกับแนวคิดการให้การสนับสนุน (Support) จาก “ผู้ให้” ในภาคองค์กร/ธุรกิจ ไปสู่ “ผู้รับ” ในสังคม/ชุมชน และพร้อมที่จะผลักดันประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตคาร์บอนเครดิตระดับโลกในอนาคต

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...