โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Teen Coach EP.38 : จะทำอะไรก็ได้? ถ้าไม่มีใครรู้ว่าเป็นเรา

Dek-D.com

เผยแพร่ 25 ต.ค. 2564 เวลา 03.29 น. • DEK-D.com
ใช่เรารึเปล่า? ผู้คุมหน้ากากใน Squid Game

Spoil

  • ทำไมผู้คุมใน Squid Game ถึงกล้าลงมือฆ่าคนโดยไม่แคร์อะไรเลย?
  • Deindividuation เมื่ออยู่กลางคนหมู่มาก ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร ทำให้กล้าทำผิดมากขึ้น
  • ในโลกแห่งความเป็นจริงก็จะเห็นได้จากการกล้าคอมเมนต์ด่าทอบนโลกออนไลน์โดยใช้แอคเคาท์ปลอม

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักซีรีส์เรื่องดังที่กำลังเป็นกระแสยอดนิยม จนติดอันดับหนึ่งบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Netflix อย่าง Squid Gameหรือมีชื่อภาษาไทยว่า สควิดเกมเล่นลุ้นตาย นั่นเองหลายๆ คนก็คงเคยได้ดู หรือพอจะได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้วใช่มั้ยคะ วันนี้พี่ก็มีเรื่องน่าสนใจจากซีรีส์เรื่องนี้มาเล่าให้น้องๆ ฟังกันด้วยค่ะ

Squid Game จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเเข่งขันกันในเกม เพื่อชิงรางวัลที่เป็นเงินจำนวนมา ผู้เข้าแข่งขันที่แพ้หรือตกรอบ ก็จะเสียชีวิตซึ่งเป็นไคล์แมกซ์สำคัญของเรื่อง นอกจากจะมีผู้เข้าแข่งขันที่เป็นผู้ดำเนินเรื่องแล้ว เราจะเห็นผู้คุม ที่เป็นตัวแปรอีกหนึ่งตัวสำหรับเกมลุ้นตายนี้

จากซีรีส์เราจะเห็นว่า ผู้คุมทุกคนใส่ชุดสีชมพู สวมหน้ากากรูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม หรือวงกลม ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกมปลาหมึกนี้ บางคนก็จะคอยถือกระบอกปืนคอยควบคุมผู้เเข่งขันให้ทำตามกฎกติกา รวมไปถึงตำรวจ อย่างฮวังจุนโฮที่ก็ปลอมตัวเข้ามาในเกม และสวมชุดของผู้คุม

ชุดของผู้คุมบอกอะไรเราได้บ้างนะ?

เราก็คงจะเห็นกฎเหล็กอย่างหนึ่งของผู้คุม ซึ่งก็คือห้ามถอดหน้ากาก และห้ามให้ใครเห็นหน้าหรือตัวตนของผู้คุม ซึ่งก็ไม่แปลกในเมื่อเกมนี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและศีลธรรม คงไม่เรื่องดีแน่ๆ ที่จะให้ใครเห็นหน้าของผู้คุม ผู้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการฆ่าผู้เข้าแข่งขัน

แต่นอกจากการปกปิดตัวตนแล้ว น้องๆ สงสัยมั้ยคะว่า ทำไมผู้คุมถึงกล้าที่จะลงมือฆ่าคนโดยไม่แคร์อะไรเลย เพื่อเอาตัวรอด เพื่อเงิน หรือแม้แต่ศีลธรรม ?

มีอีกหลายทฤษฎีที่สามารถอธิบายแรงจูงใจในการกระทำเหล่านี้ได้ น้องๆจะเห็นฉากหนึ่งที่ผู้คุมถอดหน้ากาก แล้วพูดว่า

“ฉันก็เป็นคนเหมือนกันกับนาย”

เพียงแค่ถอดหน้ากากออก ผู้คุมก็กลายเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งไม่ต่างจากผู้เข้าแข่งขัน ไม่ใช่ฆาตรกร หรือนักฆ่ามืออาชีพ แต่การที่เขาปกปิดใบหน้า สวมหน้ากาก กลายเป็นบุคคลนิรนาม (Anonymous) ก็สามารถทำให้เขาทำอะไรตามใจ โดยไม่ต้องแคร์ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาได้

Deindividuation

สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ด้วยทฤษฎีทางจิตวิทยาสังคมที่มีชื่อว่าDeindividuation เป็นปรากฏการณ์ที่อธิบายว่า เมื่อเราอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากๆ ไม่มีใครสามารถระบุได้ว่าเราเป็นใคร เปรียบเสมือนไร้ตัวตน เราก็มีแนวโน้มที่จะกระทำพฤติกรรมเสี่ยง พฤติกรรมรุนแรง หุนหันพลันแล่น รวมไปถึงขาดการตระหนักถึงตัวตน นำไปสู่การทำพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายได้ค่ะ

เวลาไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร เราจะกล้าทำอะไรแปลกๆ ที่ปกติไม่กล้าทำ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น เช่นการจลาจล การก่อความวุ่นวาย การเชียร์ท่ามกลางคนหมู่มากๆ เราจะสามารถตะโกน โหวกเหวก แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงการก่อจลาจล ก่อความรุนแรงได้นั่นเองค่ะ ซึ่งเมื่อมองจากทฤษฎีนี้ การกระทำของผู้คุมเมื่ออยู่ภายใต้หน้ากาก อยู่ท่ามกลางคนอื่นๆ อีกมาก ก็เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจที่ทำให้ผู้คุมกล้าที่จะฆ่าคน ยิงคนเล่นๆ และไม่กลัวว่าจะโดนจับด้วยนั่นเองค่ะ

จากซีรีส์ เราจะเห็นว่าผู้คุมจะคอยทำตามคำสั่งปฏิบัติการ เมื่อจบเกมแล้วผู้เข้าแข่งขันตกรอบ ก็กำจัดทิ้งไปตามกฎกติกาของเกมนั่นเอง ถึงแม้ว่าตัวซีรีส์จะไม่ได้เฉลยบทสรุปหรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คุมมากนัก แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า เป็นคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจ มีผู้คมที่แอบโกงหรือแหกกฎ แต่สุดท้ายก็โดนกำจัด เมื่อไม่ถูกสั่งให้พูด ก็ไม่พูด ไม่ปริปาก เมื่อจบเกม ก็กำจัดผู้เข้าแข่งขัน ทำตามคำสั่งราวกับเปรียบเสมือนหุ่นยนต์อีกนั่นเอง

แล้วเราล่ะ เคยทำพฤติกรรมแบบผู้คุมกันหรือเปล่า?

อย่างที่เราเห็นในโลกออนไลน์กันค่ะบนแพลตฟอร์มที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ เราก็จะเห็นการด่าทอ พ่นคำหยาบคาย หรือกลั่นแกลงกันให้เห็นอยู่บ่อยๆ ทั้งรูปหน้าจอที่ไม่ใช่ตัวเรา ใช้ชื่อนิรนาม หรือแม้แต่การสร้างเรื่องราวขึ้นมานั้น ต่างก็ไม่ได้ระบุว่าบุคคลนั้นเป็นใคร ทำให้บุคคลกล้าที่จะพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อคนอื่นได้นั่นเอง

การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ (Cyberbullying) ก็เป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งที่สามารถอธิบายได้ด้วยทฤษฎีนี้ ถ้าหากเราขาดการตระหนัก ทำไปเพราะรู้สึกสนุกหรือจรรโลงใจ กล้าที่จะทำโดยไม่คำนึงผลที่ตามมา มองเพียงว่าไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร เราสวมหน้ากากปกปิดตัวตน ไม่ใช่เรา เราก็ไม่ต่างอะไรจากผู้คุมเลยนะคะ

ดังนั้นเราจึงควรตระหนัก มีวิจารณญาณในการกระทำ ว่าการกระทำของเรานั้นจะส่งผลกระทบต่อตัวเราและคนรอบข้างได้แค่ไหน สิ่งนั้นทำร้ายร่างหรือจิตใจหรือเปล่า ซีรีส์สนุกก็จริง ดูแล้วอินก็จริงอยู่ แต่ไม่ได้แปลว่าสิ่งที่ตัวละครทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องนะคะ การกระทำผิด ยังไงก็เป็นเรื่องที่ผิด ยังไงการทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจคนอื่นก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำอยู่ดีนะ

ไหนใครดูสควิดเกมแล้วบ้าง อย่าลืมมาแชร์กันนะคะ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...