โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

มาเก๊า-สิงคโปร์ท้าชิงกาสิโน หลังคลังจ่อชง พ.ร.บ.เข้าสภา

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 07 ส.ค. 2567 เวลา 03.32 น. • เผยแพร่ 07 ส.ค. 2567 เวลา 01.40 น.

กลุ่มทุนต่างประเทศอย่างน้อย 5 ราย ทั้งมาเก๊า-สิงคโปร์ เริ่มขยับชิงเค้กเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ฮ่องกงคาดเงินสะพัดปีละ 5 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าต่างชาติ เผยรายละเอียด พ.ร.บ. มี 9 หมวด 65 มาตรา นายกฯเป็นประธาน กก.นโยบาย มี 10 ธุรกิจอยู่ร่วม เช่น โรงแรม สวนสนุก ห้าง คนไทยเข้ากาสิโนเสียครั้งละ 5,000 บาท ต่างชาติต้องร่วมทุนกับคนไทย และบริษัทที่สนใจจดทะเบียน 10,000 ล้านบาทขึ้นไป วงในเผย “คลองเตย” ชิง “อู่ตะเภา” สถานที่ตั้ง

หลังจากกระทรวงการคลังยกร่างร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. ดำเนินโครงการสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 จากนั้นจะจัดทำรายงานสรุปผลรับฟังความคิดเห็นเพื่อมาประกบในร่างกฎหมาย ก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และกระบวนการรัฐสภา

โบรกเกอร์ฮ่องกงชี้สะพัด 5 แสนล้าน/ปี

รายงานเชิงลึกของบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ซีแอลเอสเอ (CLSA) จากฮ่องกง ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมกาสิโนของไทยจะขับเคลื่อนโดย “ผู้เล่นชาวต่างชาติ” เป็นส่วนใหญ่ คาดว่ารายได้รวมจากการเล่นเกม (GGR) ของไทย จะอยู่ในช่วง 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 30,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 301,000 ล้านบาท ถึง 1,090,700 ล้านบาท) โดยคาดการณ์กรณีฐาน (กรณีปกติไม่มีปัจจัยเหนือคาด) รายได้จะอยู่ที่ประมาณ 15,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 534,740 ล้านบาท)

นอกจากนั้น CLSA วิเคราะห์ว่า การเปิดกาสิโนถูกกฎหมายของประเทศไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกาสิโนในมาเก๊าเท่าไรนัก แต่กลับเป็นโอกาสมากกว่า หากผู้ประกอบการจากมาเก๊าสามารถคว้าใบอนุญาตเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยได้

มาเก๊า-มาเลย์สนใจลงทุน

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจการรายงานของสื่อต่างประเทศหลายแห่ง โดยเฉพาะสื่อเฉพาะทางด้านการเล่นเกมการพนันพบว่า เบื้องต้นมีบริษัทเจ้าของธุรกิจกาสิโนจากต่างประเทศ 5 ราย ที่ปรากฏเป็นข่าวสนใจลงทุนในโครงการ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ของไทย

CLSA ระบุว่า มีบริษัทผู้รับสัมปทานกาสิโนในมาเก๊า 4 ราย จากทั้งหมด 6 ราย สนใจจะร่วมประมูลใบอนุญาตเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทย ได้แก่ กาแลกซี่ เอนเตอร์เทนเมนต์ (Galaxy Entertainment Group), เอ็มจีเอ็ม ไชน่า (MGM China), แซนด์ส ไชน่า (Sands China) และวินน์ มาเก๊า (Wynn Macau)

ทั้งนี้ ใน 4 รายชื่อบริษัทจากมาเก๊า มีอย่างน้อยหนึ่งเจ้าที่ผู้บริหารเอ่ยปากยืนยันว่าสนใจ คือ เอ็มจีเอ็ม ไชน่า

ประธานเอ็มจีเอ็มเล็งมาไทย

บิลล์ ฮอร์นบักเคิล (Bill Hornbuckle) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานบริษัท เอ็มจีเอ็ม รีสอร์ตส อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิงส์ (MGM Resorts International Holdings, Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเอ็มจีเอ็ม ไชน่า ได้แจ้งต่อนักลงทุนในระหว่างการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2567 เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เอ็มจีเอ็มสนใจตั้งกิจการกาสิโนในประเทศไทย และวางแผนจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อสำรวจโอกาสและความเป็นไปได้ พร้อมบอกรายละเอียดว่า หากในที่สุดแล้วบรรลุข้อตกลง กิจการกาสิโนในไทยจะดำเนินการโดยบริษัทลูก คือ เอ็มจีเอ็ม ไชน่า

ก่อนหน้านี้ ซีอีโอของเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ตสฯ เคยแสดงความสนใจการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยไว้ในรายงานผลประกอบการของบริษัทว่า “ต้นทุนในการทำธุรกิจในประเทศไทย และอัตรากำไรที่สามารถทำได้นั้นน่าสนใจมาก”

“เก็นติ้ง สิงคโปร์” ชิงเค้ก

นอกจากยักษ์ใหญ่จากมาเก๊าแล้ว ยักษ์ใหญ่อีกรายที่ปรากฏชื่อเป็นเจ้าแรก ๆ ว่าสนใจเข้ามาไทย มาจากประเทศเพื่อนร่วมอาเซียน คือ “เก็นติ้ง สิงคโปร์” บริษัทในเครือ “เก็นติ้ง มาเลเซีย” ซึ่งเป็นเจ้าของ “รีสอร์ตส เวิลด์ เซนโตซา” ในประเทศสิงคโปร์

มีข้อมูลในรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อกาสิโนในมาเลเซีย และสิงคโปร์ ของ “เมย์แบงก์ อินเวสต์เมนต์ แบงก์”ออกมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมว่า แม้ว่าเก็นติ้ง สิงคโปร์ เป็นผู้เล่นที่จะได้รับผลกระทบหากไทยมีกาสิโน แต่ผลกระทบอาจจะไม่มาก เพราะเก็นติ้ง สิงคโปร์ แสดงความสนใจที่จะประมูลใบอนุญาตตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทยด้วย

จ่อชง พ.ร.บ.กาสิโนเข้าสภา

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สาระสำคัญของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … มี 9 หมวด 65 มาตรา อาทิ กำหนดความหมายของ “สถานบันเทิงครบวงจร” หมายความว่า การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้หลายประเภทรวมกัน ร่วมกับกาสิโน ขณะที่ “กาสิโน” หมายความว่า การจัดให้มีการเข้าเล่นหรือการเข้าพนันในสถานที่ที่กำหนดเป็นการเฉพาะ

นายกฯประธานคุมนโยบาย

ร่างกฎหมายยังกำหนดให้มี “คณะกรรมการนโยบาย” ประกอบด้วย 1.นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ 2.รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวน 9 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่เกิน 6 คน มีอำนาจหน้าที่ อาทิ การกำหนดนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร, การบริหารจัดการ, การป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น

เสนอแนะแนวทางการกำหนดจำนวนใบอนุญาต และพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน, กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต การให้ใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียม เป็นต้น

ขณะเดียวกันยังกำหนดให้มี “คณะกรรมการบริหาร” มีบุคคลซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการโดยตำแหน่งจำนวน 11 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 3 คน รวมถึงให้มีการจัดตั้ง “สำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร” ขึ้น และมี “เลขาธิการ” ซึ่งคณะกรรมการนโยบายแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารกิจการของสํานักงาน

ใบอนุญาต 30 ปี ต่อครั้งละ 10 ปี

สำหรับ “ใบอนุญาต” มีอายุ 30 ปี โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมรายปีตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้ และทุก 5 ปี ให้สำนักงานประเมินประสิทธิภาพของการดำเนินงาน ขณะที่การต่ออายุ กำหนดต่ออายุใบอนุญาตได้คราวละไม่เกิน 10 ปี

ค่าธรรมเนียม จะประกอบด้วย 1.การขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท 2.ใบอนุญาต แบ่งเป็น ครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี 1,000 ล้านบาท 3.ใบอนุญาต (ต่ออายุ) ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี 1,000 ล้านบาท 4.ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 100,000 บาท

ส่วนประเภทเครื่องเล่นในส่วนของกาสิโนให้กระทำได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจร ได้แก่ 1.ใช้เครื่องเล่นซึ่งใช้เครื่องกล พลังไฟฟ้า พลังแสงสว่าง หรือพลังอื่นใดที่ใช้เล่น โดยวิธีสัมผัส เลื่อน กด ดีด ดึง ยิง โยน โยก หมุน หรือวิธีอื่นใดซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ ไม่ว่าจะโดยการนับแต้มหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ก็ตาม 2.ใช้อุปกรณ์ซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ ไม่ว่าจะโดยการนับแต้มหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ก็ตาม

10 ธุรกิจต้องมีในสถานบันเทิง

บัญชีแนบท้ายกฎหมาย กำหนดประเภทธุรกิจสถานบันเทิง ประกอบด้วย 1.ห้างสรรพสินค้า 2.โรงแรม 3.ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ หรือบาร์ 4.สนามกีฬา 5.ยอชต์และครุยซิ่งคลับ 6.สถานที่เล่นเกม 7.สระว่ายน้ำและสวนน้ำ 8.สวนสนุก 9.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP และ 10.กิจการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด

ห้ามเด็กต่ำ 20 ปี-คนไทยเสียค่าเข้า

นอกจากนี้ มีข้อห้ามบุคคลเข้าไปในสถานประกอบการกาสิโน ได้แก่ 1.ผู้มีอายน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 2.ผู้ซึ่งสำนักงานสั่งห้ามเข้าสถานประกอบการกาสิโน 3.ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังไม่ได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียม 4.ผู้ที่มีลักษณะของบุคคลต้องห้าม และในบัญชีแนบท้ายกฎหมายระบุค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท

“อู่ตะเภา-คลองเตย” เต็งพื้นที่ตั้ง

แหล่งข่าวกล่าวว่า ที่ผ่านมาแม้จะมีการพูดถึงพื้นที่ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า อู่ตะเภาเหมาะสม แต่ก็มีการผลักดันพื้นที่อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ พื้นที่ท่าเรือคลองเตย ที่มีแผนย้ายท่าเรือออกไป อย่างไรก็ดี การกำหนดพื้นที่ให้ชัดเจนจะเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายที่จะกำหนดต่อไป

ทุนจดทะเบียน 1 หมื่นล้าน

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น ต้องมีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย โดยสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติจะถือได้ไม่เกิน 50% อย่างไรก็ดี สัดส่วนตรงนี้ต้องขึ้นกับการพิจารณาในระดับนโยบายอีกทีว่า หากจะทำให้ได้ตามมาตรฐานระดับโลก อาจต้องเปิดให้ต่างชาติถือหุ้นได้มากขึ้น ซึ่งคงต้องขอยกเว้นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ขณะที่ทุนจดทะเบียนกำหนดไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

“การที่ต้องกำหนดทุนจดทะเบียนไว้สูง ๆ ก็เพราะป้องกันพวกที่จะวิ่งมาขอใบอนุญาตไปแล้วไม่ยอมลงทุนเอง” แหล่งข่าวกล่าว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มาเก๊า-สิงคโปร์ท้าชิงกาสิโน หลังคลังจ่อชง พ.ร.บ.เข้าสภา

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...