“อ๊ะอาย กรณิศ” ย้อนเล่าเส้นทางในวงการกว่า 10 ปี ภูมิใจซื้อบ้านให้ครอบครัวได้แล้ว
“อ๊ะอาย กรณิศ” ย้อนเล่าเส้นทางในวงการกว่า 10 ปี ภูมิใจซื้อบ้านให้ครอบครัวได้แล้ว
อีกหนึ่งนักร้องสาวมากความสามารถที่เข้าวงการตั้งแต่เด็ก สำหรับ “อ๊ะอาย กรณิศ” ที่อยู่ในวงการนานกว่า 10 ปี ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจถึงเส้นทางในวงการบันเทิงที่ยาวนาน พร้อมเผยความสำเร็จที่ซื้อบ้านให้ครอบครัวกว่า 13 ล้านบาท ผ่านรายการ คุยแซ่บ Show
เข้าวงการมาตั้งแต่กี่ขวบ? อ๊ะอาย : ถ้าเข้าแบบจริงจังเลยก็ 7 ขวบ แต่ก่อน 7 ขวบก็ไปแคสงานแค่โฆษณา แต่ไม่ได้เลยไม่ได้เข้าวงการสักที เลยไม่เห็นที่หน้าจอ ถ้าถามว่าทำไมถึงก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงได้ ก็คือบ้านของหนูเวลานั่งรถไปไหนจะเปิดเพลงฟังไปด้วย บวกกับพี่ของหนูชอบร้องเพลง และพี่ก็เข้าวงการก่อนหนูด้วยค่ะ ตอนแรกพี่จะเป็นสายโฆษณา ประกวด เป่าแป้ง ก็ตามๆ พี่มา ตอนนั้นหนูชอบเองนะคะ จำได้ว่าแม่ไม่ได้ผลักดันอะไรมากในตอนนั้น ถ้าเราไม่ได้บอกว่าชอบแม่ก็จะไม่ได้พาไป
จุดเริ่มต้นนอกจากฟังเพลงแล้ว คือเราชอบอย่างเดียว คือร้องเพลงประกอบละคร? อ๊ะอาย : ละครส่วนใหญ่ก็จะมีเพลงประกอบละคร คือเปิดมาเราก็รอฟัง ชอบเป็นนักร้องแต่เด็ก แต่ละครก็ดู แต่อาจไม่ได้จำเนื้อเรื่องได้ แต่จำเพลงประกอบละครได้ ถ้าถามว่าเพลงแรกในละครที่ร้องประกอบ ถ้าหนูจำได้คือเพลง “อาการรัก” หรือเปล่า
แล้วเริ่มมาประกวดบนเวทีต่างๆ ได้ยังไง? อ๊ะอาย : เริ่มประกวดจากรายการ The trainer ค่ะแล้วรายการถัดไปก็มารายการ The Voice ตอนนั้นเหมือนได้ไปเจอเพื่อนๆ ตามที่แคสงานแล้วก็จับๆ มือกันไป ตอนนั้น 7-8 ขวบ ถ้าถามว่าตอนนั้นตื่นเต้นไหม ก็พอหนูย้อนไปดูก็ตกใจตัวเอง เพราะเราเป็นเด็กแสบซ่ามาก มีท่าปวดหัว คิดว่าไม่เขินค่ะ แบบว่าทำไปเลย
สมัยเด็กๆ ไม่ได้ประกวดแค่ร้องเพลง แต่ประกวดทุกอย่าง? อ๊ะอาย : ก็…ประกวดมารยาทของโรงเรียนด้วย มีประกวดเดินแบบ แล้วก็ได้รางวัลอนาคตของซุปเปอร์สตาร์ รางวัลที่ 1 ที่ 2-3 ไม่ค่อยได้แต่ได้รางวัลนี้มา ถ้าถามว่าเวทีที่แจ้งเกิดในทีวี ก็ The Voice kids ค่ะ น่าจะเริ่มมีคนเห็นมากขึ้นน้องผมแกะ ผมเปีย
หลังจากนั้นโฆษณาแต่ละงานไม่ใช่แคสทีเดียวแล้วได้ ? อ๊ะอาย : คือถ้าหนึ่งงาน ถ้าผ่านรอบแรกก็ต้องมารอบสองต่อ คนก็จะลดลงเรื่อยๆ ตอนนั้นคนเยอะมาก ถ้าแคสหนึ่งร้อยงานก็ได้ประมานสิบงานค่ะ ถือว่าเยอะแล้วนะคะ
แล้วนอกจากโฆษณา ร้องเพลง ละครเวทีไปเล่นได้ยังไง? อ๊ะอาย : ละครเวทีนี่คือรู้จักกับเพื่อนที่ไปเดินแบบด้วยกัน แล้วคนนั้นเขาเคยเล่นละครเวทีเรื่องสี่แผ่นดิน และเหมือนจะมารีเมคอีกรอบหนึ่ง เขาเลยบอกให้เราไปลองแคสดูไหม ตอนนั้นก็ไปแคสบทแม่พลอยตอนเด็ก ก็จะได้เล่นแล้ว แต่ถูกเปลี่ยนมาเล่นเป็นลูกแม่พลอยแทน ตอนนั้นได้เล่นก็ดีใจแล้วค่ะ ถ้าถามว่าละครเวทียากไหม ก็ยากมากค่ะ คือมันเป็นการทำงานที่คนหลายๆ ส่วนทำโมเมนต์นั้นให้สำเร็จ ร้องด้วย แสดงด้วย แอ๊กติ้งด้วย ยากมากเลยค่ะ
ในที่สุดมาเป็นละครในทีวีแล้ว มาเล่นเรื่องแรกเรื่องอะไร? อ๊ะอาย : จริงๆ เคยเล่นละครมาแล้วตอนเด็กๆ ออกฉากสองฉากค่ะ แต่ซิทคอมก็เล่นของช่องวัน บางรักซอย9/1 รุ่นลูก รับบทแป้งหอม เล่นกับพี่แท่ง พี่อ้อม พี่ตงตง และก็พี่นนกุล ไปเจอเขาแล้วตื่นเต้น ยังจำได้อยู่เลยเพราะพี่คนที่มาแคสก็คุ้นหน้าคุ้นตา เราเหมือนเด็กเตี้ยคนหนึ่ง และเขาก็ปรับบทให้แป้งหอมเป็นบทที่คนในบ้านแซวตลอดว่าเป็นเด็กเตี้ย
มันก็มีจังหวะที่เราไม่มีงานเลยเหมือนกัน? อ๊ะอาย : ใช่ค่ะ มันเป็นช่วงที่เราไม่มีงานเลย หาบทที่เหมาะสมกับเราไม่ได้ ก็จะมีแหละ ที่ไปแคสแต่เขาไม่รู้ว่าจะเอาเราไปไว้ไหน (หลายคนบอกกลับไปเรียนไหม หรืออยากอยู่ในวงการต่อ?) ตอนนั้นก็ไม่ได้พักการเรียนหรือไปไหน ก็ได้มีโอกาสทำงานมากขึ้น และก็ถ่ายบางรักซอย 9/1 ที่ค้างมาประมาณ 2-3 ปีก็อยู่กองนี้ไปเรื่อยๆ
พอมีดาราเด็กก็จะมีคนเม้าธ์ว่าแม่บังคับมา อันนี้มาเองหรือแม่บังคับมา? อ๊ะอาย : หนูมาเองค่ะ หนูชอบมาก ถ้าให้เล่าส่วนใหญ่ จันทร์- ศุกร์ เราจะลุกไปโรงเรียนยากมาก แต่พอวันที่ไปทำงานเราลุกง่ายมาก
ผันตัวไปเป็นเกิร์ลกรุ๊ปยังไง? อ๊ะอาย : ก็ไปสมัครเกิร์ลกรุ๊ปครั้งแรกอายุ 14 ก็ชอบแบล็กพิงก์ มากค่ะ ชอบพี่ลิซ่า แล้วก็ติดตามวงเขาอยู่ตลอด แล้วก็อยากลองดูเลยลองไปออดิชั่นดู ถ้าถามว่าคัดศิลปิน 4eve กันนานแค่ไหน ก็นานอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะช่วงนั้นโควิดด้วย เรียนเต้นออนไลน์กัน สุดท้ายไม่ได้อะไรเลยเพราะเต้นไม่พร้อมกัน
ซื้อบ้านให้ครอบครัวได้แล้ว 13 ล้าน ให้เงินพ่อแม่กว่า 6 หลัก? อ๊ะอาย : จริงค่ะ บ้านหลังแรกที่เป็นบ้านของครอบครัวเราจริงๆ ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่นานเหมือนกัน ลองไปดูที่นั่นที่นี่ว่าดีมั้ย แต่ก็มาตัดสินใจที่นี่แหละ
ถามแม่ได้ไหม ว่า 6 หลักจริงมั้ย? แม่อ๊ะอาย : แม่ได้ 8 หมื่น พ่อได้ 5 หมื่น ถ้าถามว่าภูมิใจกับลูกคนนี้แค่ไหน ก็ภูมิใจมากค่ะ เขาทำเยอะมาก พยายามตั้งแต่เล็กๆ ตัวเราเองเห็นพัฒนาการเราตั้งแต่ 7 ขวบ