“หลวงพ่อโต” วัดป่าเลไลยก์ ที่สุพรรณบุรี แสดงปางป่าเลไลยก์ตั้งแต่แรก ไม่ใช่ปางประทานปฐมเทศนา?
“หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์” พระประธานวิหาร วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ. สุพรรณบุรี สรุปแล้วเป็น “ปางป่าเลไลยก์” ตั้งแต่แรก หรือเดิมทีคือ “ปางปฐมเทศนา” กันแน่?
หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์
เรื่องนี้ สุจิตต์ วงษ์เทศผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ได้อธิบายและชี้ชัดว่า พระประธานของ “หลวงพ่อโต” แสดงปางป่าเลไลยก์มาตั้งแต่แรกไม่ใช่ปางประทานปฐมเทศนาเหมือนพระพุทธศิลาขาว ที่วัดพระเมรุ จ. นครปฐม อย่างที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเคยสันนิษฐานและบันทึกไว้ ว่า
“สังเกตดูลักษณะพระป่าเลไลองค์นั้น (คือหลวงพ่อโต พระประธานวิหาร วัดป่าเลไลยก์ -ผู้เขียน) ดวงพระพักตร์เป็นแบบทวารวดี และทํานั่งห้อยพระบาทเหมือนอย่างแบบพระทวารวดีที่พระปฐมเจดีย์ (ภาพด้านล่าง-ผู้เขียน)”
“สร้างในสมัยเมื่อนับถือแบบทวารวดี และของเดิมคงทําเป็นพระปางปฐมเทศนา คือจีบพระหัตถ์ข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างที่ตรงพระอุระ เหมือนอย่างพระประธานในพระอุโบสถวัดพระปฐมเจดีย์เพราะสมัยนั้นยังไม่มีพระพุทธรูปปางป่าเลไลเช่นเรานับถือกัน ชั้นหลังมีรูปช้างและรูปลิง ของเดิมที่วัดพระป่าเลไลที่เมืองสุพรรณบุรีก็ไม่มี แต่พระพุทธรูปองค์เดิมนั้นทิ้งชํารุดมาช้านานจนพระกรและพระหัตถ์หักพังหายไป ผู้ไปปฏิสังขรณ์ทีหลังไม่รู้ว่าพระหัตถ์ของเดิมเป็นอย่างไร จึงทําใหม่แปลงเป็นอย่างปางพระป่าเลไล สมัยชั้นหลัง”
หลักฐานที่สุจิตต์นำมาเสนอ คือ “ภาพพิมพ์ดินเผา” หลักฐานที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงไม่เคยพบเห็น มีอายุหลัง พ.ศ. 1300 ปัจจุบันเรียกกันว่าสมัยทวารวดี ซึ่งมีอายุตรงกับ“หลวงพ่อโต”ในภาพพิมพ์ดินเผานั้นปรากฏรูปช้างกับลิงที่เป็นเครื่องยืนยันและแสดงให้เห็นว่าเป็นปางป่าเลไลยก์
ขณะเดียวกันหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ก็มีส่วนประกอบเหมือนกันคือมีช้างและลิงกำลังถวายสิ่งของ จึงทำให้คาดเดาได้ว่า พระประธานองค์นี้เดิมน่าจะเป็นปางป่าเลไลยก์ตั้งแต่แรก
แม้สุนทรภู่และเสมียนมี กวีสมัย ร.3 ผู้เห็นหลวงพ่อโต ปางป่าเลไลยก์ ก่อน สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จะเขียนในโคลงนิราศ ถึงพระประธานองค์นี้ว่า พระป่าเลไลยก์ “ยอกรหย่อนบาท”หรือยกมือและนั่งห้อยพระบาท โดย “ยอกร” ที่ว่าคือการยกขึ้นทำปางอย่างใดอย่างหนึ่งตามประเพณีที่มีมาก่อน และปางที่ว่าก็เป็นได้หลายปาง เช่น เทศนา ประทานพร เป็นต้น ซึ่งในโคลงนิราศสุพรรณของสุนทรภู่ อาจระบุว่าปาง “ยอกร” ที่หมายถึง ยกพระหัตถ์ (ทำปางปฐมเทศนา)
แต่ขณะเดียวกัน สุนทรภู่ได้เขียนระบุไว้อีกด้วยว่า มีรูปลิงเผือกกับช้างเผือกถวายของ ส่วนเสมียนมี ก็พรรณาไว้ในกลอนนิราศสุพรรณว่า พระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาทแขนหักทั้งซ้ายขวา มีลิงกับช้างหมอบข้างละตัว
จึงทำให้สันนิษฐานได้ว่า แม้พระองค์จะยอกรหรือยกพระหัตถ์ทำปางปฐมเทศนาก็จริง (ซึ่งพระพิมพ์ดินเผาก็ทำทำท่ายอกรเหมือนปางปฐมเทศนาเช่นเดียวกัน) แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้และทำให้ชี้ชัดได้ว่า “หลวงพ่อโต” เป็นปางป่าเลไลยก์ ตั้งแต่ต้น ก็คือ การมีลิงและช้างขนาบข้างทั้ง 2 องค์ นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม :
- ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อโสธร “องค์จำลอง” เป็นที่ศรัทธาล้ำหน้า “องค์จริง”
- “หลวงพ่อคอหัก” หรือ “พระสุริยมุนี” พระพุทธรูปศิลาปางนาคปรก ศิลปะทวารวดี
- พระพุทธรูปที่ลพบุรี อาจสร้างขึ้นครอบ “ไม้กางเขน” โบราณของชาวคริสต์
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
https://www.matichon.co.th/columnists/news_4349119
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 ธันวาคม 2566
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “หลวงพ่อโต” วัดป่าเลไลยก์ ที่สุพรรณบุรี แสดงปางป่าเลไลยก์ตั้งแต่แรก ไม่ใช่ปางประทานปฐมเทศนา?
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com