รัฐบาลทรัมป์ เริ่มไล่ออกเจ้าหน้าที่ CIA โดยพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการว่าจ้างภายใน 2 ปีที่ผ่านมา
นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เริ่มไล่ออกเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIAตามแผนปรับโครงสร้างและลดขนาดองค์กรครั้งใหญ่ของ ทรัมป์ โดยพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการว่าจ้างภายใน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนยังอยู่ในสัญญาทดลองงาน
แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ CIA ที่เพิ่งถูกจ้างมาหลายคนถูกเรียกตัวไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานใหญ่ของหน่วยงานในเมืองแลงลีย์ รัฐเวอร์จิเนีย โดยพวกเขาถูกขอให้คืนตราประจำตัวโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า การไล่ออกดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ CIA ที่เหลืออยู่เกิดความวิตกกังวล โดยบางคนหลีกเลี่ยงที่จะรับสายจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพราะกลัวว่าอาจเป็นรายต่อไป
โฆษกของ CIA ยืนยันกับนิวยอร์กไทมส์ว่า เจ้าหน้าที่ที่เพิ่งได้รับการว่าจ้างบางคนถูกไล่ออก แต่ไม่ได้ระบุว่ามีกี่คน
การไล่ออกดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของทรัมป์ในการลดจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเพื่อลด การใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองของรัฐ ระบบราชการ และการคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นแคมเปญที่นำโดยกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE) ภายใต้การนำของมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพของกำลังคน โดยกำหนดให้หน่วยงานภาครัฐลดตำแหน่งงานและจำกัดการจ้างงานเฉพาะตำแหน่งที่จำเป็นเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์ได้ดำเนินการปราบปรามหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ซึ่งเป็นกลไกหลักของวอชิงตันในการระดมทุนสำหรับโครงการทางการเมืองในต่างประเทศ โดยไล่พนักงานออกประมาณ 2,000 คน และสั่งพักงานพนักงานที่เหลือเกือบทั้งหมด
ตามรายงานล่าสุดของ Wall Street Journalทรัมป์เตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อยุบกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ซึ่งเขาวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่าเป็น “แหล่งรวมเรื่องหลอกลวงครั้งใหญ่”