โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

TM ส่งซิกยอดขายอุปกรณ์การแพทย์ - อุปกรณ์ป้องกันไวรัส Q2 ฉลุย

Wealthy Thai

อัพเดต 08 ส.ค. 2566 เวลา 09.04 น. • เผยแพร่ 30 พ.ค. 2565 เวลา 08.37 น.

บมจ.เทคโนเมดิคัล (“TM”) ส่งซิกไตรมาส2/2565 ยอดขายอุปกรณ์การแพทย์ – อุปกรณ์ป้องกันไวรัส ส่อแววพุ่ง หลังการเปิดประเทศ หนุนนักท่องเที่ยว – ผู้ป่วย ต่างชาติ กลับมาท่องเที่ยวและใช้บริการทางการแพทย์มากขึ้น ส่วนการเปิดภาคเรียน กระตุ้นการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันการฆ่าเชื้อไวรัสต่อเนื่อง ขณะที่ 2 โบรกประสานเสียง แนะนำซื้อTM โดยให้ราคาเหมาะสม 3.40 – 3.46 บาท ต่อหุ้น พร้อมระบุ TM อนาคตยังสดใส
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ (“TM”) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส2/2565 ยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเปิดประเทศ ซึ่งก็เป็นปัจจัยหนุนให้กลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ป่วยชาวต่างชาติ มีโอกาสกลับมาท่องเที่ยวและใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณเชิงบวกต่อTM ในฐานะเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในกลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง และกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับโรงพยาบาลรัฐบาล โรงพยาบาลเอกชน คลินิกและบุคลากรทางการแพทย์ และลูกค้าทั่วไป รวมถึงอุปกรณ์สำหรับฆ่าเชื้อ – อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด -19 เนื่องจาก TM จะได้อานิสงส์บวกจากยอดขายอุปกรณ์และเครื่องมือผ่าตัดกลับมาฟื้นตัวอย่างโดดเด่นอีกครั้ง ประกอบกับการเปิดภาคเรียน ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ปกครองยิ่งต้องหาวิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ทำให้ผลิตภัณฑ์ป้องกันการติดเชื้อ และผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคไวรัสที่เกี่ยวกับโควิด ยังคงมีดีมานด์ความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯมุ่งนั่นในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ฯ รวมถึงอุปกรณ์ ฆ่าเชื้อฯ ผ่านช่องขายแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อเข้าถึงลูกค้า B2C จากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้า B2B ผ่านการ Live สด ใน Facebook ,YouTube เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ลูกค้า จนสามารถขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น และในช่วงปลายไตรมาส 2/2565บริษัทฯเตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริม รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากสมุนไพรไทยเพื่อดูแลสุขภาพ ที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกระท่อม กระเทียม น้ำมันกัญชง ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน และ กระชาย ภายใต้ แบรนด์ "TM Herb" เข้ามาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สำหรับในส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริม ที่มีส่วนผสมของใบข้าวอ่อนไทย (Chory)มีสารต้านอนุมูลอิสระ และ เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ทั้งยังช่วยให้นอนหลับสนิท อยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ทั้งนี้หากอย.ไฟเขียว บริษัทฯก็สามารถทำการตลาดได้ทันที
จากการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจของ TM ในปี2565 ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ประมาณ 700 - 750 ล้านบาท โดยจะมาจากสัดส่วนรายได้ยอดขายจากช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ จากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่จะเข้ามาส่งเสริมการขาย อยู่ที่ระดับ 30 ล้านบาท
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ “Pi” แนะนำ “ซื้อ” ให้มูลค่าพื้นฐาน 3.46 บาท โดยมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการที่คาดจะโตเฉลี่ยกว่าปีละ 30%ใน 3ปีข้างหน้า (2022 - 2024 )ที่ระดับ 1พันล้านบาท และโอกาสให้ผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยปีละ 4% จากปัจจัยภาพธุรกิจ 1.การจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์จะฟื้นตัวหลังโควิดชะลอลง มองว่าจะเป็นปัจจัย ผลักดันการเติบโตทั้งด้านรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโต หนุนจากยอดขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับการผ่าตัดที่เพิ่มขึ้นในโรงพยาบาลรัฐ เอกชน และ คลินิก ตามจำนวนเคสผ่าตัดที่เพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้โรงพยาบาลสามารถกลับมาให้บริการผู้ป่วยผ่าตัด และกรณีทั่วไปได้ตามปกติ
2.บริษัทฯขยายช่องทำงจำหน่ายผ่านออนไลน์จะช่วยหนุนรายได้ โดยคาดว่า กลยุทธ์เจาะกลุ่มตลาดออนไลน์ จะช่วยเพิ่มยอดขายในปี22 ได้ราว15 ล้านบาท และจะเติบโตเป็นสัดส่วนราว7%ของรายได้รวมใน3ปีข้างหน้า 3. การเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับสุขภาพจะช่วยขยายฐานลูกค้า โดยบริษัทเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ “TM Herb” เป็นสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เครื่องทำ น้ำด่าง ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ ผลิตภัณฑ์พืชสมุนไพรในรูปแบบแคปซูล รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ โดยจะทยอยจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ภายใต้ร้าน“TM CARE SHOP” ในช่วง 2Q22
และ 4.ธุรกิจโครงการใหม่สำหรับผู้สูงวัยจะเป็น upside ในระยะถัดไป ภายใต้ธุรกิจเพื่อการดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ ภายใต้ โครงการ “THE PARENT”และเตรียมที่จะเปิดให้บริการในส่วนของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ภายในช่วงท้าย 4Q22และคาดว่า จะเปิดดำเนินการโรงพยาบาลเฉพาะทางได้เต็มรูปแบบในปี 23
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียเวลท์ จำกัด แนะนำซื้อ ให้เหมาะสมที่ 3.40 บาทต่อหุ้น โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 %YoY โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10 %YoY โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ภาพรวมผลการดำเนินงานTM ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้มี Pent up demand ของเคสผ่าตัดที่ถูกเลื่อนออกไปในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับการเปิดประเทศ เป็นปัจจัยหนุนผู้ป่วยต่างชาติมีโอกาสกลับมาใช้บริการในประเทศมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ยอดขายอุปกรณ์และเครื่องมือผ่าตัดกลับมาฟื้นตัว รวมถึงประชาชนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ ส่งผลให้สินค้าเกี่ยวกับ COVID-19 ยังเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้TM ยังขยายช่องทางการขายออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้า B2C เพิ่มขึ้น จากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้า B2B นอกจากนี้ TM กำลังดำเนินโครงการ The Parents ซึ่งประกอบด้วย 3ธุรกิจ ได้แก่ (1) โรงพยาบาล ซึ่งคาดแล้วเสร็จในปี2567 (2) สถานดูแลผู้สูงอายุ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จในช่วง4Q65 และ(3) โรงเรียนสอนการบริบาล ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากสถานดูแลผู้สูงอายุในปี 2566

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...