โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ทำไมยิ่งราคาไวน์แพง เรายิ่งคิดว่ามันอร่อย ? เพราะสมองเชื่อแบบนั้น

TODAY

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • TODAY

อยากลองตั้งคำถามเล่น ๆ ว่า ถ้ามียา 2 แบรนด์ที่รักษาโรคเดียวกัน แต่ยาจากแบรนด์ A ขายแพงกว่าแบรนด์ B ประมาณ 4 เท่า คิดว่ายาของแบรนด์ไหนจะมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคดีกว่า ?

เชื่อไหมว่าถ้าเลือกตอบว่ายาของแบรนด์ B จะมีโอกาสรักษาได้ดีกว่าจากราคาที่แพงกว่าไม่ใช่เรื่องผิดเลย

เพราะสมองของมนุษย์จะมีการใช้ “ราคา” มาตีเป็น “คุณค่า” ของสินค้าว่ามีมูลค่าเยอะหรือน้อย ดีกว่าหรือด้อยกว่าได้จริง ๆ

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ TODAYBizview จะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังแบบสนุก ๆ

นานมาแล้วมีทฤษฎีของนักจิตวิทยาชื่อ Hilke Plassmann บอกว่า ราคาของสินค้าจะมีผลกับการรับรู้คุณค่าของลูกค้า ได้จริง ๆ

เพื่อพิสูจน์ว่าเรื่องนี้ว่าจริงไหม ? Business Insider สำนักข่าวสายธุรกิจชื่อดังเลยได้ทดสอบความเชื่อนี้ผ่านช่อง Youtube ของตัวเอง ด้วยการทดลองให้อาสาสมัครกลุ่มหนึ่งมาทดลองชิมไวน์ที่มีราคาเท่ากัน 2 แบรนด์

โดยจะมีการติดป้ายราคาปลอมๆ เอาไว้ที่ไวน์แต่ละขวดให้แตกต่างกันโดยที่ไม่ให้ผู้เข้าร่วมทดลองรู้

สำหรับการทดลองจะแบ่งให้ผู้ร่วมทดลอง 2 กลุ่มออกมาชิมไวน์ทั้งหมด 2 รอบ เพื่อถามว่าชอบไวน์ขวดไหนมากกว่ากัน ?

รอบที่ 1

ไวน์ขวดแรก บอกว่ามาจาก Oregon แปะป้ายราคา 48 ดอลลาร์
ไวน์ขวดที่สอง บอกว่ามาจาก California แปะป้ายราคา 26 ดอลลาร์

รอบที่ 2

ไวน์ขวดแรก บอกว่ามาจาก Oregon แปะป้ายราคา 26 ดอลลาร์
ไวน์ขวดที่สอง บอกว่ามาจาก California แปะป้ายราคา 48 ดอลลาร์

ผลการทดลองก็คือ ผู้เข้าร่วมทดลองส่วนใหญ่จะบอกว่าไวน์ที่ถูกแปะราคา ไว้ “แพงกว่า” มีรสชาติดีกว่าทั้ง 2 รอบ

หมายความว่า “ราคา” สามารถมีผลต่อการรับรู้คุณค่าของสินค้าได้จริง ๆ นั่นเอง

สาเหตุที่เป็นแบบนี้เคยถูกอธิบายไว้ตั้งแต่ในการทดลองของ Hilke Plassmann ที่ตอนต้นของบทความนี้ว่า

การที่คนเรารับรู้ว่าราคาของสินค้า สูง/แพง จะทำให้สมองในส่วนที่เกี่ยวกับ “การให้รางวัล” และ “แรงบรรดาลใจ” ทำงานได้ดีกว่าปกติ

ทำให้เรามีแนวโน้มเชื่อว่าสินค้าที่มีราคาสูง เราจะยิ่งรู้สึกว่าสินค้านั้น ๆ เป็นของดีมีคุณภาพได้มากกว่าปกติตามไปด้วย

ที่น่าสนใจคือนี่คือปรากฏการณ์ที่เราเห็นนักการตลาดหลายๆ คนหยิบมาใช้เพื่อสร้างภาพจำดีๆ ให้สินค้า/บริการของตัวเอง

โดยหลายคนจะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Placebo Effect

เพราะปรากฏการณ์ตรงนี้จะคล้ายกับการใช้ยาหลอก (Placebo) ในทางการแพทย์เพื่อรักษาคนไข้

โดยคนไข้ที่ได้ยาหลอกไปจะไม่รู้ว่าตัวยาที่หมอให้ไม่ได้มีตัวยาสำคัญ เป็นแค่แคปซูลเปล่าๆ
แต่คนไข้หลายคนกลับรู้สึกดีขึ้นเพราะ “เชื่อว่า” ยาหลอกนั้นช่วยได้จริงนั่นเอง

ที่ผ่านมาก็แคมเปญดัง ๆ ที่ถูกพูดถึงว่าใช้ประโยชน์จาก Placebo Effect ตรงนี้ได้ดีมาก นั่นคือเคสของ Buckley’s แบรนด์ยาแก้ไอและหวัดจากประเทศแคนาดา

โดย Buckley’s ได้คิดค้นสโลแกนว่า “It tastes awful. And it works.” แปลตรงตัวว่า “รสชาติแย่ แต่ได้ผลดี”

การสื่อสารตรงนี้ทำให้คนที่เห็นเกิดความคาดหวังว่า ถ้ารสชาติที่แย่นั้นเป็นความจริง ดังนั้นส่วนของข้อความที่บอกสว่า “ได้ผลดี” ก็น่าจะได้ผลดีตามไปด้วยนั่นเอง

สุดท้ายนี้หลายคนก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าทำไมบางครั้งเราถึงคิดว่า ของแพงนั้นดีกว่าสินค้าทั่วไปได้จริงๆ

เพราะราคาไม่ใช่แค่ “ตัวเลข” แต่เป็น “ตัวเล่าเรื่อง” ให้สินค้าดูมีคุณค่าขึ้นตามกลไกการทำงานของสมอง

ทำให้เผลอๆ แล้ว ในบางครั้ง การขึ้นราคา อาจสร้างยอดขายได้
มากกว่าการลดราคาเสียอีก

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...