โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

"ช.การช่าง" เข้าซื้อหุ้น "หลวงพระบาง พาวเวอร์" ลุยศึกษาทำโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 12 พ.ย. 2563 เวลา 04.28 น. • เผยแพร่ 12 พ.ย. 2563 เวลา 04.28 น.
ภาพ : เว็บไซต์ ช.การช่าง

“บริษัท ช.การช่าง” เข้าซื้อหุ้น “หลวงพระบาง พาวเวอร์” ลุยศึกษาทำโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ 1,460 เมกะวัตต์

บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ “CK” แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 11/2563 เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2563 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนกับบุคคล และหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท

โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญ บริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด (LPCL) จาก บริษัท พีที จำกัดผู้เดียว (PTS) ซึ่งเป็นพันธมิตรในการร่วมพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) จำนวน 415,000 หุ้น ในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.24 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นสัดส่วน 10% ของทุนจดทะเบียนของ LPCL คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 99,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเทียบเท่าจำนวน 3,137, 400 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง (โครงการ LPHPP) ที่แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว

ทั้งนี้ บริษัทมีภาระผูกพันต่อการชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นในอนาคต เมื่อการศึกษาและพัฒนาโครงการ LPHPP แล้วเสร็จ หรือมีความชัดเจนต่อการลงทุน

สำหรับโครงการ LPHPP เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำประเภทฝายทดน้ำขนาดใหญ่บนแม่น้ำโขง สปป. ลาว ด้วยการยกระดับน้ำให้สูงขึ้น โดยไม่มีการผันน้ำออกจากแม่น้ำโขงและไม่มีการกักเก็บน้ำเหมือนเขื่อนที่มีอ่างเก็บน้ำทั่วไป มีกำลังผลิตติดตั้งประมาณ 1,460 เมกะวัตต์ สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เฉลี่ยประมาณปีละ 6,854 ล้านหน่วย และระยะเวลาสัมปทานประมาณ 32 ปี นับจากวันจ่ายไฟน้ำเชิงพาณิชย์

ปัจจุบันโครงการ LPHPP อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการ โดยในเบื้องต้นการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ LPHPP ทั้งด้านเทคนิค การเงิน และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และ ได้ผ่านกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้า (PNPCA) แล้ว

ขณะนี้อยู่ระหว่างการเริ่มเจรจาสัญญาหลักของโครงการ ได้แก่ สัญญาซื้อขายไฟฟ้า สัญญาสัมปทาน สัญญาสินเชื่อ และสัญญาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จทั้งหมดภายในกลางปี 2564

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...