โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ทำไม “มะดัน” ทำให้ปลาแดดเดียวของชาวบ้านท่าทราย นครนายก มีรสอร่อยและปลอดภัยต่อสุขภาพ

เทคโนโลยีชาวบ้าน

อัพเดต 19 ส.ค. 2565 เวลา 04.17 น. • เผยแพร่ 03 ส.ค. 2565 เวลา 21.54 น.

ขึ้นชื่อว่า “นครนายก” จัดเป็นจังหวัดที่อุดมไปด้วยพืชผลการเกษตรสำคัญหลายชนิด มีผลไม้เด่นอย่าง “มะยงชิด” ที่ได้รับความสนใจมิใช่น้อย แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าจังหวัดนี้มี “มะดัน” ที่เป็น ไม้ผลเด่นอีกชนิดจนได้รับขนานนามว่า “เมืองมะดัน นครนายก”

เมื่อพูดถึง “มะดัน” ย่อมรู้สึกถึงความเปรี้ยว เข็ดฟันจี๊ดจ๊าดขึ้นมาทันทีแม้ยังมิได้ลิ้ม แต่ความเปรี้ยวของไม้ผลชนิดนี้ก่อให้เกิดประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ จึงถูกนำไปใช้ในด้านต่างๆ ไม่ว่าเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม ยา หรือแม้แต่ความงาม

มะดัน หรือส้มมะดัน หรือส้มไม่รู้ถอย เป็นไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ ผลมะดัน มีลักษณะรูปรีปลายแหลม มีสีเขียว ผิวเรียบเป็นมันลื่น มีรสเปรี้ยวถึงเปรี้ยวจัด มีวิตามินซีสูงด้วย จึงนิยมรับประทานทั้งสดโดยจิ้มกับพริกเกลือแล้วยังใช้แทนมะนาวสำหรับปรุงอาหาร หรืออาจแปรรูปเป็นมะดันแช่อิ่ม หรือมะดันดองแช่อิ่ม

เป็นที่น่าดีใจเมื่อกลุ่มชาวบ้านที่ตำบลท่าทราย นครนายก มองเห็นประโยชน์ของมะดันที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ จึงนำมาใช้ในกระบวนการทำปลาเค็มแดดเดียวขาย ช่วยสร้างความอร่อย มีกลิ่นหอม ลดความเค็ม แล้วยังปลอดภัยต่อสุขภาพ

กลุ่มที่นำมะดันมาใช้กับปลาเค็มแดดเดียวมีชื่อว่า “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาเค็มน้ำมะดัน หมู่ที่ 5 ท่าทราย” ตั้งอยู่เลขที่ 3/2 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก มี คุณอำไพ ช้างสุวรรณ ทำหน้าที่ประธานกลุ่ม

คุณอำไพ เล่าว่า ปลาเค็มแดดเดียวเป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวบ้านอยู่แล้ว ที่ผ่านมาต่างคนต่างทำ จนมาถึงตอนนี้เห็นว่าเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงคิดว่าควรรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มผลิตขายเพื่อให้เป็นระบบ

ปลาที่ใช้ทำแดดเดียวมีหลายชนิด เป็นปลาที่เลี้ยงในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นปลาช่อน ปลาดุก ปลาสลิด และปลานิล โดยแต่ละชนิดมีจำนวนมาก-น้อยไปตามฤดูกาล อย่างถ้าเป็นช่วงหน้าฝนปลาดุกและปลานิลมีมาก พอเข้าหน้าหนาวปลาช่อนกับปลาสลิดจะมีมากกว่า ส่วนปลาแม่น้ำจะมีเฉพาะช่วงที่ได้รับอนุญาตให้จับเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ปลาทุกชนิดมีขายตลอดทั้งปี

“มะดัน” เป็นไม้ผลที่มีตามธรรมชาติในจังหวัดนครนายก โดยเฉพาะตำบลท่าทรายมีจำนวนมาก ชาวบ้านกลุ่มนี้ร่วมกันคิดว่าควรนำมะดันมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการผลิตปลาแดดเดียว

คุณอำไพ ให้รายละเอียดว่า นำปลาสดมาตัดหัว ผ่าแล้วควักไส้ออก ล้างด้วยน้ำที่มีมะดันผ่าซีกจำนวน 2 ครั้ง เพื่อให้ความเปรี้ยวกำจัดเมือกและกลิ่นคาวให้หมด (จากเดิมใช้สารส้มล้าง) จากนั้นใช้เกลือละลายน้ำผสมกับมะดันที่ผ่าผลแช่ปลาทิ้งไว้สักพักก่อนนำขึ้นผึ่งให้สะเด็ดน้ำแล้วนำไปตากแดดในตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานจำนวน 10 หลัง แต่ละหลังสามารถตากปลาได้ 30-40 กิโลกรัม

การนำมะดันมาใช้ร่วมกับการผลิตปลาแดดเดียวนับว่าได้ประโยชน์สองต่อ โดยอย่างแรกช่วยนำทรัพยากรในท้องถิ่นมาใช้อย่างเหมาะสม แล้วยังปลอดภัยต่อผู้บริโภค กับทั้งยังเป็นการสร้างจุดขาย สร้างความน่าสนใจ กระตุ้นตลาด จึงทำให้ผลิตภัณฑ์จากแนวคิดนี้ขายดีเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ในชื่อ “ปลาเค็มน้ำมะดันแดดเดียว ม.5 ท่าทราย”

ผลิตภัณฑ์ปลาแดดเดียวน้ำมะดันมีขายตลอดทั้งปี มีออเดอร์จากลูกค้าประจำ ทั้งที่นำไปออกขายตามงานสำคัญต่างๆ ตลอดเวลา นอกจากนั้น ยังขายทางออนไลน์ด้วย แต่อาจจะยังส่งได้ในระยะทางไม่ไกลนักเนื่องจากปัญหาการเก็บรักษา

“ปลาเค็มน้ำมะดันแดดเดียว ม.5 ท่าทราย” มีจุดเด่นตรงที่ปลาไม่เค็มมาก เพราะใช้ความเปรี้ยวของมะดันมาแช่ร่วมกับน้ำเกลือ เพื่อช่วยลดความเค็มของเกลือให้น้อยลง จึงมีรสชาติแบบธรรมชาติเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ดูแลสุขภาพแล้วชอบรับประทานปลาแดดเดียวจะเหมาะมาก

นอกจากความอร่อยแล้ว กระบวนการผลิตยังใส่ใจเรื่องความสะอาดทุกขั้นตอน ตากปลาในตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้มาตรฐาน จึงปลอดภัยจากแมลงรบกวน แล้วทำให้แห้งเร็ว อีกทั้งการบรรจุภัณฑ์ในถุงสุญญากาศทำให้สามารถเก็บได้นานแม้จะไม่ได้ใส่สารกันบูดหรือกันเสีย ดังนั้น ลูกค้าจึงรับประทานได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยกำหนดราคาขายปลาดุกและปลานิลกิโลกรัมละ 120 บาท ครึ่งกิโลกรัม 60 บาท ปลาช่อนกิโลกรัมละ 160 บาท ส่วนปลาสลิดขายตามขนาดมีราคาตั้งแต่ 120-200 บาท

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหน้าฝนที่มีแดดน้อย ผู้ทำอาชีพปลาแดดเดียวอาจประสบปัญหาปลาแห้งยาก ดังนั้น “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาเค็มน้ำมะดัน ม.5 ท่าทราย” จึงส่งผลิตภัณฑ์ “ปลาดู” ขึ้นมาทดแทน ซึ่งปลาดูคือเมนูถนอมอาหารที่ทำจากปลาดุก ใช้น้ำมะดันล้าง แล้วจึงนำไปหมักเกลือ 1 คืน แล้วจึงนำมาล้าง ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ

ผลิตภัณฑ์ปลาดู สะอาด หอม อร่อย

จากนั้นนำมาคลุกกับข้าวคั่วแล้วหมักต่ออีกประมาณ 10-15 วัน จนมีรสเปรี้ยวและเค็ม มีรสกลมกล่อม นิยมนำไปทอดหรือย่าง แล้วซอยหอมแดงกับมะนาวหรือมะดันเป็นเครื่องเคียง จัดเป็นเมนูสุดยอดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มักมีลูกค้ามาซื้อจำนวนมากแล้วนำไปติดแบรนด์เอง โดยจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง ราคาขายปลีกกิโลกรัมละ 120 บาท

“ทุกครั้งที่คุณนึกถึงปลาเค็มแดดเดียว แล้วกำลังมองหาปลาเค็มแบบที่มีรสอร่อย เค็มน้อย สะอาดขอให้นึกถึงปลาเค็มน้ำมะดัน ม.5 ท่าทราย นครนายก เพราะไม่เพียงผ่านการผลิตที่สะอาด มีกลิ่นหอม แต่รสเค็มน้อยจากเนื้อปลายังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย” คุณอำไพ กล่าว

ต้นมะดันเป็นไม้ที่ทนน้ำท่วมขังได้ดีมากที่สุดชนิดหนึ่ง จึงเหมาะหากต้องปลูกไว้ในบริเวณที่อาจเกิดน้ำท่วม ต้นมะดันมีทรงพุ่มที่สวยงาม สามารถปลูกเป็นไม้ประดับสถานที่ได้ หากท่านสนใจจะหาต้นมะดันไว้ปลูกก็น่าจะดี เพราะผลมะดันไม่เพียงนำมาใช้ประโยชน์เรื่องการบริโภค แต่ทรงต้นยังสร้างความสวยงามและร่มเงาให้ด้วย

สอบถามรายละเอียดได้ที่ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาเค็มน้ำมะดัน ม.5 ท่าทราย” โทรศัพท์ 086-308-7871 เพจ ปลาเค็มน้ำมะดันแดดเดียว หมู่ 5 ท่าทราย และ fb : อำไพปลาเค็ม

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2563

สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ - Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...