โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

10 คุณประโยชน์เน้นๆ จากแครอท

Campus Star

เผยแพร่ 30 ม.ค. 2562 เวลา 19.39 น.
แครอทอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย อาทิ เบตาแคโรทีน วิตามินเอ ซี อี ฯลฯ - 10 คุณประโยชน์เน้นๆ

แครอทอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย อาทิ เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ฯลฯ เป็นผักที่หาทานได้ง่าย นำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย อยู่ในอาหารจานหลักหลายชนิด และยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างน้ำแครอทปั่นได้อีกด้วย

10 คุณประโยชน์เน้นๆ

วันนี้แคมปัส-สตาร์มี 10 คุณประโยชน์เน้นๆ ของเจ้าแครอท มาฝากกันค่ะ ประโยชน์เยอะขนาดนี้ต้องหาแครอทมาติดตู้เย็นไว้ในบ้านบ้างแล้วล่ะ

ประโยชน์จากเบต้าแคโรทีน

แครอทอุดมไปด้วย‘เบต้าแคโรทีน’ ทำหน้าที่เสมือนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) โดยปกติร่างกายสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนให้ไปเป็นวิตามินเอได้ ซึ่งวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา บำรุงผิว จากการศึกษาพบว่าเบต้าแคโรทีนยังช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ด้วย อาทิ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคไฟโบรมัยอัลเจีย เป็นต้น

ช่วยในการระบบย่อยอาหาร

ร่างกายต้องการแร่ธาตุ วิตามิน ใยอาหาร และเป็นไซม์ที่จะเป็นในกระบวนการย่อยอาหาร แครอทมีเส้นใยอาหารที่ช่วยผลักดันอาหารเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร ส่วนเบต้าแคโรทีนจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการทำงานของเม็ดเลือดขาว เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคที่เกิดจากอาหาร นอกจากนี้แครอทยังมีแคลเซียมและโพแทสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายอาหารผ่านทางเดินอาหารได้สะดวกมากขึ้น

ปรับสมดุลความเป็นด่างในร่างกาย

การทานอาหารที่มีกรดมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ แครอทสามารถช่วยปรับสมดุล pH ของร่างกายให้อยู่ในระดับปกติได้ ร่างกายต้องการอาหารทั้งที่เป็นกรดและเป็นด่างเพื่อความสมดุล แต่อาหารในปัจจุบันมีความเป็นกรดสูง ทำให้ควรที่จะทานอาหารที่เป็นด่างเพิ่มขึ้นคิดเป็น 80% ของการทานอาหารต่อวัน

ลดความเสี่ยงโรคไต

แร่โพแทสเซียมจะทำงานร่วมกับโซเดียม เพื่อปรับสมดุลของระดับของเหลวภายในร่างกาย ซึ่งลดความเสี่ยงของโรคไตและความดันโลหิตสูง แต่เราได้รับแร่ธาตุโซเดียมมากเกินไป เนื่องมาจากอาหารแปรรูปในปัจจุบัน ดังนั้นจึงควรทานแครอทเพื่อให้ระดับของโพแทสเซียมและโซเดียมมีปริมาณเท่าๆ กัน

ช่วยดูแลสุขภาพฟัน

แครอทสามารถช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันได้หลายวิธี เริ่มจากการเคี้ยวเปลือกแครอทเพื่อลดและกำจัดแบคทีเรียที่ถูกสะสมในช่องปาก การทานแครอทเพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำลาย ซึ่งจะช่วยกักเก็บแบคทีเรียไว้ และยังช่วยปรับสมดุลค่า pH ในช่องปากอีกด้วย

ช่วยรักษาบาดแผล

วิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ในแครอทสามารถช่วยเร่งการรักษาบาดแผลได้ เพราะวิตามินซีเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผิวหนัง ส่วนเบต้าแคโรทีนจะช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งจะช่วยรักษาสมานแผลได้เร็วขึ้น

Phytonutrients

Phytonutrients (ไฟโตนิวเทรียน) เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ พบเฉพาะในพืชและมีประโยชน์มากมาย ไฟโตนิวเทรียนที่พบในแครอทเรียกว่า ‘ฟอคารินอล (falcarinol)’ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และมีประโยชน์ต่อลำไส้ใหญ่อย่างมาก แต่จริงๆ แล้วไฟโตนิวเทรียนท์ (รวมสารต้านอนุมูลอิสระ) ที่อยู่ในแครอทช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งได้แทบทุกชนิด

ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน

แครอทมีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า ‘Carotenoids’ ซึ่งช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นแครอทที่อุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์สามารถลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้

ช่วยกำจัดไขมันเลว

ไฟเบอร์ นอกจากจะช่วยในเรื่องกระบวนการย่อยอาหารแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการกำจัดไขมัน LDL (Low Density Lipoprotein) หรือไขมันเลว เป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย ทำให้ลดการเกิดการอุดตันในเส้นเลือดและมีลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

สร้างเซลล์ใหม่/ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์

สารอาหารในแครอท อาทิ วิตามินเอ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่และชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรง ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูอ่อนวัย ลดการเกิดสิว

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก foodprevent.com

บทความแนะนำ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...