โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รุ่ง-วิทัยชิงธปท. 1.15แสนล.ฉลุย ดันจีดีพีโต0.4%

ไทยโพสต์

อัพเดต 25 มิ.ย. เวลา 00.10 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. เวลา 17.01 น.

นายกฯ ชี้สถานการณ์อิหร่าน-อิสราเอล กระทบเจรจาภาษีทรัมป์ "ครม." ไฟเขียวงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้าน เน้นด้านโครงสร้างพื้นฐาน 8.5 หมื่นล้าน คาดเม็ดเงินช่วยให้ ศก.ขยายตัวเพิ่มร้อยละ 0.4 เคาะ 2 รายชื่อชิงดำเก้าอี้ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ จับตา “รุ่ง-วิทัย” ผ่านตัดเชือก ชง “พิชัย” พิจารณา

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 24 มิ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สถานการณ์ต่างๆ ระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ย่อมมีผลขยายวงกว้างออกไป ส่งผลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และยังไม่มีกรอบระยะเวลาที่แน่นอนว่าจะจบเมื่อไหร่ อย่างไร ส่งผลต่อการเจรจากับหลายๆ ประเทศต่อนโยบายภาษีศุลกากรสหรัฐอเมริกา ซึ่งกรอบระยะเวลาการเจรจาตอนแรกกำหนดไว้ 90 วัน ในช่วงต้นเดือน ก.ค. ซึ่งฝ่ายไทยเริ่มเจรจากับสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกา (USTR) แล้วหนึ่งรอบ

ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรอบการเจรจาการค้าและภาษีกับสหรัฐอเมริกาว่า สหรัฐฯคงดูอยู่ว่า ข้อเสนอมีความน่าสนใจหรือไม่ และถ้าหากพิจารณาว่า ให้ขยายเวลา ก็คงเสนอกลับมา ซึ่งคงต้องรอดู เพราะเราเพิ่งส่งรายละเอียดให้สหรัฐฯไม่กี่วัน ส่วนกำหนดในการเจรจาที่ชัดเจนที่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีประเทศไหน บอกได้เลย และยังไม่มีประเทศใดจบจริงๆ จังๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการผ่อนผันมาตรการภาษีตอบโต้ซึ่งมีกำหนด 90 วันนั้น จะครบกำหนดในวันที่ 8 ก.ค. 68

นายพิชัย กล่าวว่า ในครม.มีมติเห็นชอบข้อเสนอโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท (ข้อเสนอโครงการฯ) ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 50 หน่วยรับงบประมาณ จำนวน 481 โครงการ (8,939 รายการ) ภายในกรอบวงเงิน 115,375 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ได้ผลในระยะยาว นอกจากจะช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจอย่างทั่วถึงผ่านการสร้างงานแล้ว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับประเทศไทยในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังผันผวนด้วย

นายพิชัยกล่าวว่า แผนการขับเคลื่อนฯ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยการเร่งรัดการใช้จ่ายผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจ้างงาน กระจายรายได้ และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยเม็ดเงิน 115,375 ล้านบาท จะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในทุนมนุษย์และการปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เอื้อต่อการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพิ่มผลิตภาพแรงงาน และวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว

วันเดียวกัน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ ครั้งที่ 4/2568 เมื่อวันอังคารที่ 24 มิ.ย.2568 ได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

โดยให้ผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติเข้ารับการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. และเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 18.30 น. หลังจบการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัคร คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้พิจารณาสรุปบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จำนวน 2 รายชื่อ เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เป็นการเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกฯ

ทั้งนี้ รมว.การคลังจะพิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ ยืนยันว่าคุณสมบัติผู้เข้าสมัครทุกคนใกล้เคียงกันมาก ถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถทั้งหมด ส่วนการพิจารณาคัดเลือกฯ นั้น เป็นการลงคะแนนลับ ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ มีอิสระในการพิจารณา

“ประเด็นทางการเมืองต่างๆ นั้น ยืนยันว่าคณะกรรมการคัดเลือกฯ มีความเป็นอิสระ และการพิจารณาไม่ได้มีการคำนึงถึงเรื่องการเมือง ดังนั้นก็ต้องให้เกียรติคณะกรรมการคัดเลือกฯ ทุกคนด้วย” นายสถิตย์กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังระบุว่า 2 รายชื่อที่ผ่านการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ คาดว่าเป็นนางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. และนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน นำข้อเสนอของกระทรวงพลังงาน เรื่องการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานทดแทนด้วยมาตรการทางภาษี เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเป็นอีกแนวทางในการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานทั้งของผู้บริโภคและของประเทศในภาพรวม โดยที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงพลังงาน ซึ่งประกอบด้วย 2 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.การส่งเสริมการลงทุนและการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานด้วยมาตรการทางภาษี และ 2.การส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี โดยสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 200,000 บาท นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังเตรียมนำร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เข้าสู่การประชุมของ ครม.ภายใน 1-2 สัปดาห์หน้าด้วย.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...