โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ดารารุ่นใหญ่ วัย 69 รู้ตัว! ทำให้คนทั้งวงการไม่กล้าเข้าใกล้ ได้สติเพราะพึ่งธรรมะ

The Bangkok Insight

อัพเดต 24 พ.ค. 2567 เวลา 03.39 น. • เผยแพร่ 24 พ.ค. 2567 เวลา 03.36 น. • The Bangkok Insight

ตุ๊ก ดวงตา ดารารุ่นใหญ่ วัย 69 รู้ตัว! ทำให้คนทั้งวงการไม่กล้าเข้าใกล้ ได้สติเพราะพึ่งธรรมะ และเปิดวิธีการเลี้ยงลูกชายของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว

2 นักแสดงตัวแม่ ตุ๊ก ดวงตา และดี้ ชนานา ควงกันมาเปิดเผยความสนิทกว่า 40 ปี ที่เคยปาร์ตี้ถึงขั้นขึ้นโรงพักกันมาแล้ว พร้อมเม้าท์วีรกรรม ตุ๊ก ดวงตา ที่เหวี่ยงวีนจนคนทั้งวงการไม่กล้าเข้าใกล้ และเปิดวิธีการเลี้ยงลูกชายของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทั้งสองคนที่หวงลูกชายหนักมากถึงขั้นขังไว้ในบ้าน ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร

ตุ๊ก ดวงตา ดารารุ่นใหญ่ วัย 69 รู้ตัว! ทำให้คนทั้งวงการไม่กล้าเข้าใกล้ ได้สติเพราะพึ่งธรรมะ

เห็นบอกว่าทั้งคู่สนิทกันมา 40 ปี ?

ตุ๊ก ดวงตา : เห็นนี่มาตั้งแต่หลุดจากกระโปรงนักเรียนมาใหม่ๆ แล้วกระแดะมาเดินแฟชั่นโชว์คู่กับเรา แล้วก็กลายเป็นลูกกระพรวนติดกันไปเลย รุ่นเดียวกันไม่คบมัน

ห่างกันกี่ปี ?

แม่ดี้ : 8-9 ปี ตอนที่เข้ามาในวงการใหม่ๆแล้วสมัยก่อนมีเดินแฟชั่นตอนกลางวันทุกเสาร์อาทิตย์แล้วก็มาเจอกันตลอด เราก็เกาะเขาเพราะว่าเขาเป็นพี่ที่ดูแลที่ดี ชุดไหนโป๊ส่งให้คนอื่น

ตุ๊ก ดวงตา : เป็นน้องรัก ถ้าไม่ใช่น้องรักก็จะบอกว่าเอาชุดนี้ๆ ชุดนี้เซ็กซี่มากลูกใส่ไปเลย บีกินีแบบตัวจิ๋วๆ ถ้าไม่ใช่น้องรักยุให้มันใส่โป๊ๆไป ถ้าน้องรักเอาแค่วันพีซพอ

แล้วทำไมคนมสนิทเราไม่อยากให้เขาโชว์ ?

แม่ตุ๊ก : ไม่ได้ต้องสงวนเนื้อ สงวนตัว

แม่ดี้ : เลยสนิทกันมาตั้งแต่ตอนนั้น

แสดงว่าสนิทกันตอนเล่นละครแล้วนอนด้วยกัน ?

แม่ดี้ : คือตอนนั้นแก้งพี่ตุ๊กคือแก้งนางฟ้าสมัยก่อนเลย

แม่ตุ๊ก : มีนวลปรางค์ มีลินดา มีวันทิพย์ ภวภูตานนท์ พี่แต้ม รุ่งนภา กิตติวัฒน์

แม่ดี้ : เขาสวยสะพรั่งมาแล้ว เขา 20 กว่า แต่เราเพิ่งจะ 10 ปลาย แล้วก็มาเกาะแก้งนางฟ้า พอหลังจากเป็นนางแบบแล้วเข้ามาวงการละคร พี่ตุ๊กเข้ามาก่อนแล้วเราก็เข้าตามมา เราก็ไม่มีเพื่อนคนอื่นเราก็เกาะคุณแม่ตามมายาวมาเลย

ถ้าถามอายุจะเป็นการเสียมารยาทมั้ย ?

แม่ตุ๊ก : ไม่ๆ ดิฉันภูมิใจ ดิฉัน 70 ปีนี้ค่ะ

แม่ดี้ : พี่ดี้ 61 ค่ะ

ถ้าย้อนกลับไปที่สนิทจริงๆคือตอนที่ถ่ายละครแล้วนอนด้วยกัน ?

แม่ดี้ : จริงๆก็ไม่ได้อยากจะนอนด้วยนะคะ แต่ว่าคนอื่นเขาก็ไม่อยากนอนด้วยมากกว่า

จริงมั้ยที่ในยุคนั้นหลาย ๆ คนไม่กล้านอนกับแม่ตุ๊กเพราะเขาเม้าท์กันว่าแม่ตุ๊กฤทธิ์เยอะ ?

แม่ดี้ : ไม่ต้องนอนหรอกแค่เดินเฉียดเขาก็ยังไม่อยากเดินเลย แล้วก็ช่างแต่งหน้าทุกคนกลัวมาก พี่ตุ๊กเดินผ่านต้นไม้ ต้นไม้ยังตายเลย เขาเป็นขนาดนั้น ออร่าอำมหิตรอบตัวค่ะ

แม่ตุ๊ก : แม่ดุ มีออร่าของความอำมหิตเยอะมาก เพราะแม่ตาดุแล้วเสียงแม่ก็ดุ แล้วเป็นคนพูดมึงมาพาโวย เอะอะโผงผางพูดตรงมาก ตรงซะจนแบบว่าคนบางคนกลัว

แม่ดี้ : ไม่ใช่คนบางคนกลัว คนทุกคนกลัวค่ะ เวลาไปถ่ายละครต่างประเทศ เขาก็มากระซิบละว่าพี่ดี้ๆ ไปนอนกับพี่ตุ๊กได้มั้ยคะ ทำไมต้องเป็นฉันวะ แต่ก็ไป เราก็หน่วยกล้าตายเพราะเรารู้จักเขามาตั้งแต่เราเป็นนางแบบ พอจับไปนอนด้วยกันก็มีวีรกรรมค่ะ

แม่ตุ๊ก : นางนี่ติดขนมจะต้องกินขนมกรุบกรอบตลอดเวลา แต่เราเป็นคนหูไวมากบอกว่าอย่าทำเสียงดังนะเพราะหูไวมากเลย นอนนิ่งๆนะ ตี 5 ตื่นขึ้นมาทะลึ่งอยากจะกินขนม มันก็กลัวเราตื่น มันก็เข้าห้องน้ำไปแอบกินขนม

แม่ดี้ : ไปอเมริกาขนมมันเยอะมาก แล้วจะมีเวลากินตอนไหน กลางวันก็ถ่ายละคร พอหัวค่ำคุณนายแม่นอนแล้ว อยากกินมากย่องไปกินในห้องน้ำ

อย่างนี้ไม่เรียกว่าฤทธิ์เยอะหรอกแค่มีความเป็นส่วนตัว ?

แม่ตุ๊ก : แต่เมื่อก่อนแม่ดุมาก แต่ไม่ใช่ระรานใครนะ เวลาแม่ดุหมายความว่าแม่เตือนแล้วแม่บอกแล้วแต่ยังทำอยู่

อย่างเช่นเรื่องอะไร ?

แม่ตุ๊ก : อย่างเช่นเรื่องแต่งหน้า คิ้วแม่โก่งให้แม่นิดนึงนะเพราะว่าคิ้วแม่ตรงนะเอาโก่งให้แม่นิดนึงแล้วเราก็หลับตาให้เค้าเขียนไป พอตื่นขึ้นมาคิ้วโค้งเป็นคันธนูเลย อย่างนี้ให้ด่ามั้ยล่ะ ก็บอกแล้วว่าให้โก่งๆหน่อยไม่ใช้โค้งเป็นแบบนี้ ทำไมไม่ฟังกัน แล้วก็เสียเวลาอย่างนี้ไม่ออกไปเล่นละครหรอกนะ แต่งใหม่

แม่ดี้ : แล้วเสื้อหัวยังไง

แม่ตุ๊ก : เมื่อก่อนนี้เล่นละครมักจะได้ใส่วิกหัวโตๆ ทรงคุณนายมันก็ถอดเสื้อยากเพราะฉะนั้นเสื้อควรจะเป็นผ่าหลังหรือไม่ก็ผ่าหน้าแล้วก็เอาเสื้อสวมหัวมาให้ใส่ ใส่ตัวสองตัวก็ไม่เท่าไหร่ใส่ทุกตัว แล้วบอกแล้วขอเสื้อผ่าหน้าหรือไม่ก็ผ่าหลังนะ บอกตั้งแต่ตอนฟิตติ้งแล้วนะอย่าเอาเสื้อสวมหัวมาให้แม่ใส่เพราะแม่ใส่วิกหัวโต มันก็ยังไม่ทำผ่าหน้าผ้าหลังมาให้ มันก็เอาเสื้อสวมหัวมาให้ ได้ ! ไม่เป็นไรฉีกเลยมันจะได้กว้างขึ้น จะได้ใส่ง่ายขึ้น

แล้วตอนนั้นทีมงานทำยังไง ?

แม่ตุ๊ก : ก็ลนลานซิลูก เพราะแม่บอกแล้วไม่ใช่ไม่บอก บอกตั้งแต่ฟิตติ้ง บอกดีๆด้วย แต่ก็ยังไม่ทำกัน อาจจะเห็นว่าใจดีเกินไปก็ต้องมีฤทธิ์เดชให้เห็นกันซะบ้าง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามีทั้งผ่าหน้า มีทั้งผ่าหลัง มีทั้งซิปข้าง

แต่เรื่องมารยาทเด็ก ๆ ?

แม่ตุ๊ก : อันนี้ไม่ได้เลย สมมุติแม่เตือนหนู ใครได้ หนูได้ถูกมั้ย แม่ไม่ได้ได้อะไรเลยแต่ว่าแม่เห็นว่าแม่เป็นรุ่นพี่ เป็นผู้ใหญ่กว่า แม่ก็จะบอกว่าวัฒนธรรมไทยดีๆมันเป็นยังไง สมมุติหนูเดินมาแล้วแม่นั่งอยู่ แม่หวัดดีอีกมือนึงเขาถือรองเท้า แม่ก็จะบอกเลยว่าไม่ต้องลำบากลูกไม่ต้องไหว้แม่ก็ได้ แต่ถ้าจะไหว้แม่วางของแล้วไห้วสองมือ แม่ก็จะบอกแบบนี้ แต่ด้วยวิธีการเราอาจจะพูดตรงเกินไปหรือหน้าเราอาจจะดุเกินไป มันก็จะคิดว่าเราเป็นคนวีน แม่เป็นคนขอบแก้ไขแก้ในสิ่งที่มันผิดให้มันถูกต้อง

แม่เคยเจอรุ่นใหม่ที่มาแล้วไม่ไหว้มั้ย ?

แม่ตุ๊ก : มี ไม่ไหว้ ไม่ไหว้ก็ไม่พูดด้วยทั้งวัน หันมาพูดกับกูกูก็ไม่พูดด้วย

แม่เคยสอนมั้ย ?

แม่ตุ๊ก : ไม่สอนเขาโดยตรงเพราะเด็กพวกนี้เป็นเด็กรุ่นใหม่ซึ่งแรง สอนไปแล้วอาจจะมีเรื่องกันภายหลัง ว่าพ่อแม่สอนเคยมั้ยมารยาทอ่ะ รู้จักคำว่ามารยาทมั้ย แล้วก็หยุดแค่นี้ แค่นี้มันก็สะอึกแล้ว

แสดงว่าสมัยอดีตอาจจะต้องมีวีรกรรมอะไรบางอย่างที่พี่ดี้จะต้องดึงให้แม่ลงมามั้ย ให้ใจเย็น?

แม่ดี้ : คุณคะ ดึงไม่ได้หรอกค่ะ เอาไม่อยู่หรอก เขามักจะเรียกดิฉันให้ไปอยู่ในเหตุการณ์อะไรประหลาดๆ ช่วงแกเลือดจะไปลมจะมา บางทีก็มีงานโชว์ตัว เปิดผับ อันนี้ผับของคุณแม่เองอาจะฤทธิ์ได้เยอะนะคะ แต่ก่อนแกเปิดผับลาติน แกไม่พอใจดีเจหรืออะไรไม่รู้ แกเล่นลาตีนเลย กระโดถีบฝรั่งเลยอย่างนั้นเลยค่ะ

แม่ตุ๊ก : โมโหมาก เราเป็นเจ้าของผับมันเป็นผู้จัดการ วันเกิดเราเราเอาเหล้าไปเปิดมันจะมาคิดค่าเปิดขวดเรา เราเป็นเจ้าของร้าน จะบ้าหรือเปล่า

แม่ดี้ : แล้วคุณแม่ก็กระโดดถีบแบบลืมตัว จากผับลาตินเป็นลาตีนค่ะ กระโดดถีบโดนกระจกแล้วก็ร่วงลงมาขาเคล็ด

แม่ตุ๊ก : แต่ถีบไม่โดนมัน โดนกระจกแล้วเป็นไง ขาเคล็ดไปสามวัน

แม่ดี้ : แล้วก็มีตอนเลือดจะไปลมจะมาคนเขาเชิญไปดูโชว์พัทยาแกก็อุ้มลูกไปด้วยตัวเล็กๆ (ลูกหมา) แกก็เดินจูงไป เขาก็บอกว่าเข้าไม่ได้คุณดวงตาเพราะว่าหมาเดี๋ยวเห่า “เห่าอะไรคะลูกฉันไม่ร้องซักกะแอะนึง ลูกฉันไม่พูดลูกฉันเรียบร้อย” แต่ไม่ได้ครับมันมีบอมบ์ด้วยเดี๋ยวหมาคุณเห่า “ฉันบอกว่าไม่เห่าก็ไม่เห่าซิ เดี๋ยวคอยดูนะถ้าลูกคนมันเข้าไปได้นะแล้วมันแหกปากร้องนะ ฉันจะเหวี่ยงให้” คุณว่าดิฉันสามารถไปปรามอะไรเขาได้มั้ยคะ

แม่ตุ๊ก : ไม่ให้เข้าก็ไม่เข้า ไม่ให้เข้าก็ไม่ดู(หัวเราะ)

คนเผาเขาเนี่ยก็วีรกรรมไม่แพ้กันนะ แม่ดี้เองก็เหมือนกันนะ ?

แม่ดี้ : ไม่ใช่ดิฉันค่ะ ก็ตามคุณแม่เขาไปค่ะ ดิฉันจะรู้เรื่องอะไรล่ะ เรื่องคุณแม่ทั้งนั้น

แม่ตุ๊ก : เรื่องของเรื่องก็คือ พี่ตุ๋ย นวลปรางค์ เขาจะไปเมืองนอกจะไปแต่งงานก็เลี้ยงส่งกันบ้านพี่น้อย ฉวีวรรณ ก็ชวนเพื่อนมากินข้าวกัน เครื่องตุ๋ยออกตอนเช้าทำยังไงล่ะ กะจะฆ่าเวลาก็เล่นไพ่กัน เล่นฆ่าเวลารอส่งพี่ตุ๋ยขึ้นเครื่อง ปรากฎว่าแต่ละคนที่ไปก็รวยๆกันทั้งนั้นก็ขับรถกันไปคนละคัน จอดหน้าบ้านพี่น้อยแบบยาวเฟื้อยเลย จะเช้าแล้วมันยังไม่กลับบ้านกันเลย แล้วก็เสียงดังกัน คนแถวนั้นก็คงได้ยินเสียงก็ไปแจ้งตำรวจ ตำรวจมาเป็นคันรถเลย

แม่ดี้ : เราก็เพิ่งแต่งงาน เล่นไพ่ก็ไม่เป็นไปนั่งดูเป็นผีข้างบ่อน เขาก็มาฝากถือ

แม่ตุ๊ก : ที่ตำรวจเข้าบ้านได้เป็นเพราะเจ้าของบ้าน พอเปิดประตูเท่านั้นแหละตำรวจสวนเข้ามาเลย

แม่ดี้ : แล้วพี่หันหลังให้ประตูคนอื่นวิ่งไปหมดแล้ว นี่ก็ยังนั่งเรียงไพ่อยู่ เหมือนในละครเลย ตำรวจก็มาสะกิดไหล่เรา ก็บอกว่าเดี๋ยวซิพี่ยังเรียงไม่ได้เลย พอเงยมาหายไปไหนกันหมดแล้ว ดิฉันโดนมือหนึ่งเลยถืออยู่คามือเลย ต้องไปโรงพัก

แล้วพวกแม่หนีไปไหนกัน ?

แม่ตุ๊ก : วิ่งไปหลังบ้าน พี่หน่อย วันทิพย์ ปีนรั้วขึ้นไป ตกลงไปในทุ่งน้ำคลำ เหมือนในหนังเลย เข็ดเลยไม่เอาแล้ว ตอนนั้นเล่นไม่ได้เอาตังค์จริงจัง เล่นฆ่าเวลา

กี่ปีมาแล้ว ?

แม่ดี้ : 30-40 ปีมาแล้ว ยังไม่มีลูก เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ

เปรี้ยวกันมากแต่ก็มีจุดเปลี่ยนเรียกว่าจุดหักจนทำให้แม่ตุ๊กใจเย็นเป็นแม่พระเลย ?

แม่ตุ๊ก : มีเพื่อนที่หวังดี เขาเห็นเราวี๊ดบึ้มๆ แล้วก็ได้ยินจากคนนอก ๆ มาพูด เขาก็มาเตือนเรา ก็บอกว่านี่แก แกแรงไปแล้วนะ ใครเขากลัวไปหมดแล้ว เหมือนเรามองไม่เห็นตัวเอง ก็ฟังเพื่อน เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนรักมาก เขาก็เตือนเรา เราก็ฟังเขา แล้วก็มานั่งมองตัวเองก็จริงนะ เพราะว่าเวลาที่เราโกรธหรือวี๊ดบึ้มไปทุกครั้งที่วี๊ดบึ้มไปแล้วแม่จบนะ

แม่ไม่มีต่อเนื่องมานะคือจบ ณ ขณะนั้นเลย แต่ว่าทำแบบนี้ทุกครั้งก็เสียใจทุกครั้งว่าเราไม่น่าพูดแรงขนาดนี้ ทำไมเราไปพูดแบบนี้ใส่เขา ไม่น่าเลย ก็คิดตลอดเวลา จนกระทั่งมีเวลาได้ไปเข้าวัดด้วย พระบอกว่าไปเข้าวัดไม่ต้องแก้ไขใครเลยแก้ไขตัวเองมารปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง พอได้เข้าวัดมันก็ดีขึ้น 20 ปีหลังแม่ฤทธิ์หมดแล้ว คือยังมีฤทธิ์อยู่แต่ไม่ค่อยแสดงฤทธิ์เดชเท่าไหร่

เข้าวัดหลายรอบมั้ยกว่าที่เรารู้สึกว่าเราเบาลงแล้ว ?

แม่ตุ๊ก : พอดีปีนั้นเป็นปีที่ว่างงาน ตกงาน ก็เลยได้ไปวัดบ่อยมาก ไปวัดแทบจะทุกเดือนเลย

แม่ตกงานจากอะไร ?

แม่ตุ๊ก : ตกงานจากไม่มีงานอะไรเลย อาจจะไปวี๊ดบึ้มมาก อาจจะนิสัยส่วนตัวเราด้วยก็ได้ เป็นพิธีกรอยู่ 5 รายการก็โดนเอารายการคืนไปมั่ง โดนเปลี่ยนพิธีกรบ้าง เลิกรายการบ้าง 5-6 รายการ มันประดังหมดเลยในเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้เราได้กลับมาพิจารณาตัวเองว่าเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวเราด้วยหรือเปล่า

แต่สุดท้ายแม่ก็กลับมาเป็นที่รักของทุกคนเหมือนเดิม ?

แม่ตุ๊ก : ก็หลังจากเข้าวัดได้ปรับปรุงตัวเอง เมื่อเราปรับปรุงตัวเองได้ กลายเป็นว่าคนเข้าหาเรามากกว่าเมื่อก่อน ซึ่งเมื่อก่อนนี้คนหนีเราซึ่งเราก็ไม่รู้ตัวแต่พอคนเข้าหาเรามากขึ้นมันไม่เหมือนเมื่อก่อนนะมันดีกว่าเมื่อก่อนเยอะมากเลย แม่ก็เลยไม่มีฤทธิ์ไม่มีเดช

เรื่องผู้ชาย คู่นี้มีอะไรคุยกันหมดทุกเรื่อง ?

แม่ตุ๊ก : 2 คนนี้คุยกันไม่มีสูงกว่าสะดือเลย ต่ำกว่าสะดือตลอด

หาหนุ่มให้กันมั้ย ?

แม่ตุ๊ก : มี ๆ ไอ้นี่ก็พยายามจะหาให้ แม่บอกแม่มีไม่ได้ แม่แห้งผากไปหมดแล้วลูก ตั้งแต่หมดประจำเดือนแม่ก็แห้งผากเลย แล้วแม่ก็ไม่มี ผ. เลย เพราะฉะนั้นมันจะไปฉ่ำแฉะอยู่ได้ยังไงล่ะ มันไม่ได้ มันแห้งไปหมดแล้ว

แม่ดี้ : แต่วันดีคืนดีนางไปดูเรื่อง 50 Shades แล้วก็โทรมาว่า “ นังดี้ฉันดูเรื่องนี้ฉันชักเริ่มมีปริ่มๆ”

ตุ๊ก ดวงตา : คิดว่าตัวเองหมดแล้ว(หัวเราะ)

แม่ดี้ : ชอบโซ่แซ่กุญแจมือก็ไม่บอก แต่ต้องเข้าใจว่าอันนั้นพระเอกหล่อ แต่ในชีวิตจริงหาในประเทศไทยก็ไม่ได้

แม่ตุ๊ก : เขามีเพื่อนเป็นฝอเยอะ พยายามจะหาฝอให้ บอกไม่เอาฉันไม่เอา จริงๆฉันแค่ต้องการเพื่อนคุยจะฝึกภาษาอังกฤษเท่านั้นเอง แต่นังนี่เป็นคนอยู่คนเดียวไม่ได้ต้องมีใครอยู่เคียงข้างตลอดเวลา เวลามันมีใครนะพี่เชื้อมันไม่เห็นหัวเลย หายไปกับ ผ. มันเลย

ทุกวันนี้อายุ 60 ก็ยังเป็นแบบนี้หรอ ?

แม่ตุ๊ก : เป็นอย่างนี้ ทุกวันนี้ถ้าเขามีแฟนไม่เห็นหัวพี่เลย ไม่มีใครในโลกนี้ มันอยู่กับ ผ.สองคนเลย มันอยากมีแฟนเพราะมันไม่อยากอยู่คนเดียวแล้วเขาก็ยังสวยฉ่ำอยู่ แม่ไม่มีปัญญาหาให้แล้วไงเพราะว่าแม่ไม่มีสังคมที่จะไปเจอผู้ชายที่ไหน

แสดงว่าพี่ดี้ยังเปรี้ยวอยู่ ?

แม่ดี้ : ตะขาบของเขามีสองตัว ถ้าตะขาบความเปรี้ยวส่งมาทางนี้ ถ้าตะขาบความดุส่งไปให้รัญญา

หนิง : แต่ตอนนี้เขาไม่ดุแล้วนะ แม่หนูตอนนี้พุทโธ ธัมโม สังโฆ ทำกับข้าวกินทั้งวัน

แม่ตุ๊ก : แฟนคนปัจจุบันเจอกันในวัดค่ะ แม่อยู่ในเหตุการณ์ค่ะ ทิ้งทุกอย่างไปอยู่ลำพูนเลย

ขอไปโหมดคุณแม่หวงลูกบ้าง คุณแม่เปรี้ยวขนาดนี้แต่มีลูกชายทั้งคู่ ?

แม่ตุ๊ก : คนนี้ไม่เท่าไหร่เรื่องหวงลูก คนนี้เก่งมาก เขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เก่งมากเราชื่นชม มีลูกชายวัยรุ่นสองคนเอาลูกอยู่

ถ้าเราไม่ชอบแฟนลูกที่มาล่ะ ?

แม่ดี้ : ไม่เคยไม่ชอบเลย

แม่ตุ๊ก : แต่แม่มีวีรกรรม

แม่ดี้ : จะเล่าให้ฟัง “พี่ตุ๊กเมื่อไหร่ไอ้เตอร์มันจะแต่งงานมีเมีย” “มึงอย่ามาพูดคำหยาบนะ” อย่างนี้เลย ไม่ได้เลยนะองค์ลงเลย

เพราะอะไร ?

แม่ตุ๊ก : เพราะหวงไม่อยากให้ลูกแต่งงาน ไม่อยากให้ลูกไปจากชีวิตเรา สมัยก่อนเวลาลูกมีแฟน สมมุติหนิงมาบ้านแม่แล้วแม่ไม่ชอบหนิงแต่งตัวก็โป๊ “ดี้ สบายดีหรอลูก แม่ไม่เจอดี้นานแล้วนะ” จริงๆชื่อหนิง ตั้งใจเรียกผิดชื่อเลย เขาก็ไปทะเลาะกันไม่เกี่ยวกับเรา เวลาห้ามลูกเที่ยวกลางคืนดิฉันล็อกห้องลูกจากข้างนอกเลย เช้ามาแม่ก็ไขให้ไปเรียนหนังสือ

เห็นว่าถ้าผู้หญิงมาบ้านแล้วไปนั่งอยู่บนเตียง ?

แม่ตุ๊ก : เคยมีวันต้องไปเรียนหนังสือ เปิดเข้าไป อ้าว ! เตอร์ทำไมไม่ไปเรียนหนังสือหันเหลือบไปเห็น “อ้าวพ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไงนี่แม่ จะไหว้มั้ย ไหว้คนเป็นมั้ย พ่อแม่ไม่สั่งสอน แล้วเป็นผู้หญิงยังไงนุ่งกางเกางปิดจิ๋มนิดเดียวขึ้นไปนั่งอยู่บนเตียงผู้ชายแบบนี้ ทำไมไม่ใส่ชุดนักเรียนวันนี้มันเป็นวันเรียนหนังสือ ไปเดี๋ยวนี้เลย ออกไป” ไปเลยไม่กล้ากลับมาเลย หายเลย

แล้วพี่เตอร์เขาไม่งอนหรอ เขาไม่รู้สึกว่าอยากจะมีชีวิตส่วนตัว ?

แม่ตุ๊ก : ก็แม่ลูกก็ทะเลาะกัน

แต่สุดท้ายเขาก็อยู่กับเรา ?

แม่ตุ๊ก : อยู่ เพราะแม่บอกว่าสิ่งเดียวที่แม่ขอร้องเตอร์คืออย่าทิ้งแม่ไปไหน เพราะว่าแม่ไม่มีใครเรามีกันอยู่แค่สองคนนะลูก ลูกก็คิดดูแล้วกันเตอร์อยู่กับแม่มาตลอด เราไม่มีใครเรามีกันและกันเท่านั้น เพราะฉะนั้นเตอร์จะทิ้งแม่ไปไหนได้ยังไง แม่ก็ทิ้งเตอร์ไปไหนไม่ได้หรอก

แล้วลูกมีมาขอร้องแม่มั้ยคะ ?

แม่ตุ๊ก : ให้แผ่วลงหน่อย มีบ่อยลูก ตอนนี้แม่แผ่วลงมาก ตอนนี้เตอร์เขามีแฟนนะ คบกันมา 10 กว่าปีแล้วแม่ก็ไม่ได้อาละวาดใส่เขาเลย นานๆทีนึง ฤทธิ์เดชแม่ยังเต็มเปี่ยมแต่แม่รู้เดจักยับยั้งชั่งใจ รู้จักปล่อยวางมากขึ้น

แสดงว่าลูกสะใภ้แม่คนนี้ต้องมีอะไรดีถึงทำให้แม่เปิดใจ ?

แม่ตุ๊ก : เขาไม่มีฤทธิ์เดช เขาไม่มีอะไรที่จะทำให้เรารู้สึกไม่ชอบขี้หน้า เขาก็มาในยามที่เราแผ่วแล้วด้วย เพราะฉะนั้นเราก็ไม่จับผิดอะไรเขา เมื่อก่อนนี้นิดนึงก็ไม่ได้ คนนี้เราก็ปล่อยเขา พี่เตอร์รัก แล้วเขาก็ดูแลลูกเราดียามเจ็บไข้ได้ป่วยดูแลพี่เตอร์ดี เราไม่สบายเป็นโควิดเขาก็ดูแลเราดี รักเขาเหมือนเป็นลูกสาวคนนึง

แม่ดี้ : แล้วทำไมไม่เอาหลานที่เป็นคนคะ

แม่ตุ๊ก : เพราะว่าไม่ชอบเด็ก ไม่ชอบเลี้ยงเด็ก ไม่ชอบได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ไม่ไหวมันจี๊ดหัวใจและอีกอย่างไม่อยากหลงรักหลาน มันจะทำให้เราไปไหนไม่ได้ ไม่มีความเป็นอิสระ รักลูกยังแค่นี้แล้วรักหลานจะแค่ไหน

แม่ดี้ : รักหมาก็ไม่ธรรมดา

แม่ตุ๊ก : พี่ไก่ วรายุฑ บอกว่า “มึงอ่ะเลี้ยงหมาก็เสียหมา”(หัวเราะ)

มูแบบตัวแม่ที่บอกว่าปิดทองที่ของลับเป็นเรื่องจริง ?

แม่ตุ๊ก: แรก ๆ ก็ไปปิดที่หน้าก่อน ปิดที่หน้าก็ปิดทุกรูขุมขนเลยนะหันมาไม่รู้ว่าใครเป็นใคร รู้แต่ว่าทองเต็มไปหมดพาลูกไปแปะด้วย ไปปิดเพื่อความเฮงเป็นสิริมงคลมีเสน่ห์มหานิยม อันนี้เป็นพระปิดให้เป็นพุทธคุณ ไม่เล่นสายดำเลย แต่ว่ามีอยู่ทีนึงก็มีแม่หมอเขามาออกรายการ เราสัมภาษณ์เขาเราก็ศรัทธาในตัวเขา เขาก็ชวนไปที่อาศรมเขาซิเป็นนักแสดงต้องมีเสน่ห์กับผู้ชายกับใครต่อใครก็ไปเลย

ปรากฎว่าเขาบอกว่ามีสองชุดนะจะทำชุดใหญ่หรือชุดเล็กก็พาเพื่อนไปคนนึง เราเอาชุดใหญ่แล้วกันเพื่อนเอาชุดเล็ก ชุดใหญ่รู้สึกจะหมดไปหมื่นห้า ชุดเล็กก็ห้าพัน เขาก็ร่ายคาถาโน่นนี่แล้วเขาก็เอาทองมาแปะบนฝ่ามือเรา108 แผ่น ในมือนี่ทองไปหมดเลย พอปิดเสร็จเขาก็ท่องคาถา แล้วเขาก็บอกว่าให้ไปแปะที่กำเนิดบุตร เราก็อะไรนะคะ ไปแปะที่กำเนิดบุตรเราก็ชี้นี่หรอคะ

เราก็เข้าห้องน้ำก็ถู ๆ ๆ ถูเอง ทองอร่ามฟูฟ่องไปหมดเลย เราออกมาเราก็ไม่บอกเพื่อนว่าเราทำอะไร ไอ้นี่พอออกมาก็หัวเราะ อร่ามมั้ยมึง อร่ามมาก(หัวเราะ) พออกจากอาศรมไปเพื่อนคนนี้บอกว่า“มึงว่าเราโดนหลอกกันมั้ยวะ กูว่าป่านนี้แม่หมอไปกินหูฉลามแล้วหละ ของมึงหมื่นห้าของกูห้าพัน”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...