โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ปริญญา แนะคนดีที่รับเงินหลายทาง เอาอย่าง ‘อ.ป๋วย’ ขรก.ผู้ซื่อสัตย์สุจริต ไม่คิดหาประโยชน์ใส่ตัว

MATICHON ONLINE

อัพเดต 10 มี.ค. 2566 เวลา 10.20 น. • เผยแพร่ 10 มี.ค. 2566 เวลา 10.18 น.
แฟ้มภาพ

ปริญญา เปิดเหตุผล ‘ป๋วย’ เป็นอมตะ คารวะ ขรก.ผู้ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยคิดหาประโยชน์ใส่ตัว แนะคนดีที่รับเงินหลายทาง เอาอย่าง

ในวาระครบรอบ 107 ปี ชาตกาล ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาชิกขบวนการเสรีไทย ผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะในปี พ.ศ.2508 ซึ่งยูเนสโก เคยยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปีชาตกาล (9 มี.ค.2559) นั้น

เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อเขียนรำลึกผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระบุถึงเหตุผลที่ ศ.ดร.ป๋วย เป็นอธิการบดีที่ผู้คนจดจำมากที่สุดว่า

ทำไมอาจารย์ป๋วยจึงเป็นอมตะ?

ข้อเขียนในวาระวันเกิดอาจารย์ป๋วย

อาจารย์ป๋วยเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพียงแค่ 2 ปี เพราะเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ทำให้อาจารย์ป๋วยต้องลี้ภัยไปต่างประเทศจวบจนสิ้นอายุขัยในปี 2542

แต่อาจารย์ป๋วยกลับเป็นอธิการบดีธรรมศาสตร์ที่คนจดจำมากที่สุด อาจจะไม่เป็นรองอาจารย์ปรีดีซึ่งเป็นผู้ประศาสน์การด้วยซ้ำ เหตุผลสำคัญที่สุดคือความเป็นคนเก่งที่ซื่อสัตย์สุจริต และทำงานให้แก่ส่วนรวมโดยไม่เคยหาประโยชน์ใส่ตนแม้เพียงสักครั้ง ซึ่งก็เหมือนอาจารย์ปรีดี และเป็นคุณงามความดีของอาจารย์ป๋วยมาตั้งแต่ก่อนจะเป็นอธิการบดี

อย่างในตอนที่เป็น ‘ผู้ว่าการธนาคารชาติ’ แล้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เชิญให้มาเป็น ‘คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์’ ในปี 2507 ระเบียบราชการขณะนั้นคือ ถ้ารับตำแหน่ง 2 ที่ จะต้องเลือกรับเงินเดือนตำแหน่งหนึ่งเพียงครึ่งเดียว เงินเดือนผู้ว่าแบงค์ชาติคือ 50,000 บาท ส่วนเงินเดือนคณบดีเศรษฐศาสตร์คือ 8,000 บาท แทนที่จะเลือกรับเงินเดือนคณบดีครึ่งเดียว อาจารย์ป๋วยกลับเลือกรับเงินเดือนผู้ว่าแบงค์ชาติครึ่งเดียว ผลคือทำงานเพิ่มเป็นสองที่แต่ได้เงินเดือนน้อยลง คือจากที่เคยได้ 50,000 บาท เหลือแค่ 33,000 บาท

คนถามอาจารย์ป๋วยว่าทำไมจึงไม่เลือกรับเงินเดือนครึ่งหนึ่งในตำแหน่งคณบดีเศรษฐศาสตร์? อาจารย์ป๋วยตอบว่า “ผมทำงานให้แบงค์ชาติเหลือครึ่งเดียว ผมจะรับเงินเดือนเต็มได้อย่างไร”

แล้วในตอนที่อาจารย์ป๋วยพ้นตำแหน่งผู้ว่าแบงค์ชาติแล้วลาไปทำวิจัยที่เคมบริดจ์ อาจารย์ป๋วยก็ทำหนังสือถึงมหาวิทยาลัย ขอไม่รับเงินเดือนที่คณะเศรษฐศาสตร์ “เพราะไม่ได้ทำงาน”

นี่แหละคืออาจารย์ป๋วยของชาวธรรมศาสตร์ ข้าราชการผู้ซื่อสัตย์สุจริตที่ไม่เคยคิดหาประโยชน์ใส่ตัว และนี่แหละที่ทำให้ที่ทำให้อาจารย์ป๋วยเป็น ‘อมตะ’ ในวาระที่วันเกิดอาจารย์ป๋วยเวียนมาอีกครั้งในวันที่ 9 มีนาคม ผมจึงขอคารวะอาจารย์ด้วยบทกวีที่ผมแต่งไว้ตอนที่อาจารย์ป๋วยเสีย โดยขอยกมาเฉพาะในท่อนสุดท้ายว่า

“จากไปแล้วแต่จากไปเพียงกายา คุณธรรมสันติประชาไม่อาสัญ ป๋วยจักอยู่คู่ปรีดีที่แดนธรรม์ ไม่มีวันตายจากไปจากใจชน!”

ในยุคสมัยที่มีคนจำนวนไม่น้อยชอบอ้างตนว่าเป็นคนดี หรืออ้างว่าทำเพื่อประชาชน แต่กลับทุจริต มีประโยชน์ทับซ้อน หรือรับเงินเต็มสองสามทาง เราจึงต้องยกย่องและเอาอย่างอาจารย์ป๋วย คือ ทำงานให้ประชาชนโดยไม่แสวงหาประโยชน์ใส่ตน! ขอคารวะอาจารย์ป๋วยครับ

ด้าน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ก็ได้โพสต์ข้อความรำลึกด้วยว่า

9 มีนาคม วันป๋วย อึ๊งภากรณ์ ในปี 2566 นี้ครบ 107 ปีชาตกาลของ ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
ศ.ดร.ป๋วย ยังเป็นอธิการบดีคนสำคัญของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นผู้มีคุณูปการอย่างยิ่งในการวางรากฐานการพัฒนาประเทศ ทั้งในเรื่องการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และการบริหารบ้านเมือง

“…ผมต้องการอากาศบริสุทธิ์สำหรับหายใจ น้ำดื่มบริสุทธิ์สำหรับดื่ม…
…เมื่อจะตาย ก็ขออย่าให้ตายแบบโง่ๆ อย่างบ้าๆ คือตายในสงครามที่คนอื่นก่อให้เกิดขึ้น ตายในสงครามการเมือง ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ ตายเพราะน้ำ หรืออากาศเป็นพิษ หรือตายเพราะการเมืองเป็นพิษ….”

อ่านข่าว : ชาญวิทย์ ชี้ ‘ป๋วย อึ๊งภากรณ์’ คือเหยื่อการเมือง เหมือน ‘ตะวัน-แบม’

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...