โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

สมช. แถลงการณ์หากไทยถูกรุกรานอีกมีสิทธิป้องกันตัว ส่วน JBC จะมีขึ้นหลังได้รัฐบาลใหม่

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

สมช. ออกแถลงการณ์ หากไทยถูกรุกรานอีกครั้ง มีความจำเป็นและสิทธิอันชอบธรรมป้องกันตัว จี้กัมพูชาเร่งรัดเก็บกู้ทุ่นระเบิด และอยากให้ร่วมมือปราบสแกมเมอร์ บอก JBC จะมีขึ้นหลังได้รัฐบาลใหม่

วันที่ 31 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกคำแถลงการณ์ประเด็นสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีเนื้อหาสรุป 7 ข้อ ว่า 1. สมช. ยินดีกับแถลงการณ์ร่วมจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สะท้อนให้เห็นความจริงใจของไทยในการแก้ความขัดแย้งด้วยสันติวิธีผ่าน

2. สมช. ขอยืนยันว่าการลงนามในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว เป็นผลจากการพิจารณาและตัดสินใจร่วมกันของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ที่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองชีวิตและความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่และประชาชนในกรณีที่ประเทศไทยถูกละเมิดอธิปไตยหรือถูกรุกรานอีกครั้ง ประเทศไทยมีความจำเป็นและมีสิทธิอันชอบธรรมในการใช้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักความจำเป็นและได้สัดส่วน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ

3. ประเด็นการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา สมช. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนอย่างเหมาะสม

4. ประเด็นด้านมนุษยธรรม ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการคุ้มครองชีวิต ศักดิ์ศรี และความปลอดภัยของบุคคลที่ไม่เข้าร่วมการสู้รบเป็นหลัก จึงนำมาซึ่งการปล่อยตัวเชลยศึกกัมพูชาจำนวน 18 คนในวันนี้ (31 ธันวาคม 2568) ตามมติ สมช. ครั้งที่ 18/2568 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมและพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ประเทศไทยคาดหวังให้กัมพูชาแสดงท่าทีและบทบาทอย่างเป็นรูปธรรมในการปฏิบัติตามหลัก กฎหมายระหว่างประเทศ และหลักมนุษยธรรมในลักษณะเดียวกัน เช่น การคุ้มครองสวัสดิภาพและอำนวยความสะดวก คนไทยในกัมพูชาให้กลับประเทศได้อย่างปลอดภัย การป้องกันอันตรายจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งนี้ กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจในการร่วมมือและเร่งรัด การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่อย่างจริงจัง

5. ประเด็นการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 17-18 ธันวาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศของไทยร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) จัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วน ระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยได้จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อความร่วมมือในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติรวมถึงการหลอกลวงทางไซเบอร์และการค้ามนุษย์ร่วมกับกัมพูชา แต่การดำเนินการยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก จึงต้องการเห็นกัมพูชาร่วมมือในการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าวอย่างเด็ดขาดและเป็นรูปธรรมเพื่อความมั่นคงของภูมิภาค

6. ประเด็นเขตแดน การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะดำเนินการภายใต้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา ซึ่งไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง และยึดถือตาม แผนที่ 1 : 50,000 เป็นหลัก เนื่องจากมีความชัดเจน ถูกต้องแม่นยำ การประชุม JBC ที่จะมีขึ้นในอนาคตจำเป็นต้องคำนึงถึงเงื่อนไขและห้วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในอนาคตที่จะพิจารณาการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป ซึ่งอาจมีการทบทวน บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (MOU 2543) จึงต้องคำนึงถึงเงื่อนไขในอนาคตด้วย

7. สุดท้ายนี้ยืนยันว่าประเทศไทยจะดำรงการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมฯ ตราบเท่าที่กัมพูชาจะดำเนินการตามแถลงการณ์ร่วมฯ ดังกล่าวเช่นเดียวกัน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทหารจะดำรงความพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจนความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ.

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สมช. แถลงการณ์หากไทยถูกรุกรานอีกมีสิทธิป้องกันตัว ส่วน JBC จะมีขึ้นหลังได้รัฐบาลใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...