“บะหมี่ฉางเล่อกั้งเมี่ยน” รสชาติความคิดถึงบ้านของชาวจีนโพ้นทะเล
สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ว่าเขตฉางเล่อในเมืองฝูโจว มีชาวจีนโพ้นทะเลมากกว่า 700,000 คน ที่นี่ขึ้นชื่อจากการเป็นบ้านเกิดของชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนมาก และมีบะหมี่ท้องถิ่นแสนเรียบง่าย เรียกว่า ‘บะหมี่ฉางเล่อกั้งเมี่ยน’ ( 长乐杠面 ) ซึ่งเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงประเพณีพื้นบ้านทั้งเทศกาลแข่งเรือมังกร ความอบอุ่นของมารดา และความคิดถึงบ้านของผู้ที่ต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิดตน
บะหมี่ทำมือเส้นหนานุ่มและยืดหยุ่นเหล่านี้ไม่เพียงเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นรหัสทางวัฒนธรรมที่สื่อถึงความทรงจำที่มีร่วมกันของชาวฉางเล่อ ทำให้บะหมี่ชนิดนี้กลายเป็นสายสัมพันธ์อันพิเศษ ระหว่างฉางเล่อกับชาวฉางเล่อผู้พเนจรไปโลก
ตามประเพณีพื้นบ้านของฉางเล่อ บะหมี่กั้งเมี่ยนและบ๊ะจ่าง ถือเป็นอาหารสำคัญสำหรับเทศกาลแข่งเรือมังกร ชาวบ้านกล่าวว่า บ๊ะจ่างมีรูปร่างคล้าย “เขามังกร” ส่วนบะหมี่กั้งเมี่ยนเปรียบเสมือน “หนวดมังกร” ดังนั้น การรับประทานทั้งสองอย่าง ในช่วงเทศกาลจึงสื่อถึง “มังกรที่อยู่ในหัวใจ” แสดงถึงความปรารถนาดีของผู้คนในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและภัยพิบัติ และขอให้มีสุขภาพแข็งแรง
วิธีการทำบะหมี่กั้งเมี่ยนแบบดั้งเดิม เป็นทักษะที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและประณีต ตั้งแต่การนวด รีดแป้ง จนถึงการตัดเส้น ทุกขั้นตอนล้วนทดสอบทั้งประสบการณ์และความอดทนของเชฟ บะหมี่ที่รีดด้วยมือจึงมีความเหนียวนุ่ม และไม่เละแม้ผ่านการต้มเป็นเวลานาน เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณที่ยืนหยัดและเข้มแข็งของชาวฉางเล่อ
เบสน้ำซุป คือ จิตวิญญาณของบะหมี่ฉางเล่อกั้งเมี่ยนต้นตำรับ โดยน้ำซุปปรุงจากซี่โครงหมูและลำไส้หมู เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ต้มรวมกับปู กุ้งแห้ง ปลาแห้ง หอยกาบ และอาหารทะเลอื่น ๆ การผสมผสานของวัตถุดิบเหล่านี้ทำให้น้ำซุปมีรสชาติสดใหม่ เข้มข้น และมีมิติที่หลากหลาย ครบทั้งรสจากภูเขาและทะเล บ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของชาวฉางเล่อ ซึ่งเปิดกว้าง ครอบคลุม และกล้าที่จะผจญภัยและมุ่งมั่น
ปัจจุบัน แม้บะหมี่กั้งเมี่ยนจะมีการปรับปรุงและสร้างสรรค์รูปแบบการรับประทานใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย แต่ศิลปะการทำแบบดั้งเดิมและคุณค่าทางอารมณ์ที่เป็นหัวใจสำคัญยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับชาวฉางเล่อที่ไปทำมาหากินที่ต่างแดน บะหมี่กั้งเมี่ยนได้ก้าวข้ามความเป็นอาหารไปนานแล้ว แต่กลายเป็นสัญลักษณ์แทนความรู้สึกที่คิดถึงบ้านเกิด.
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA