ตลท.ลั่น บจ.ใหญ่ยังสนใจ IPO ไทย แม้หลายบริษัทขยายเกมสู่ตลาดหุ้นตปท. เร่งปรับองค์ประกอบให้มีความรวดเร็วมากขึ้น
ตลท. ลั่นยังมี IPO ขนาดใหญ่หลายรายที่สนใจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย พร้อมเร่งปรับองค์ประกอบให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นาย สรวิศ ไกรฤกษ์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ และสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีหลายบริษัทที่เลือกเข้าไประดมทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ต้องยอมรับว่าทางตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยจำนวนมาก
แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะพยายามที่พูดคุยแนวทางที่จะปรับปรุงอย่างไร โดยเฉพาะกระบวนการ IPO และทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว บริษัทเอกชนจะเลือกตัดสินใจอย่างไร ถือเป็นทางเลือกของบริษัทเอกชน
อย่างไรก็ตาม ยังมี IPO ขนาดใหญ่หลายรายที่สนใจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย แต่เวลาที่เจ้าของกิจการตัดสินใจจะเข้าหรือยังไม่เข้านั้น จะดู 3 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย ปัจจัยแรก สภาวะตลาด หากจะเข้าช่วงนี้จะตอบโจทย์หรือไม่ และสามารถระดมทุนที่พอเพียงต่อการลงทุนหรือไม่
ปัจจัยที่สอง จะดูเรื่องของ Sentimentนักลงทุนช่วงนั้นว่าคึกคักแค่ไหน และปัจจัยที่สาม กระบวนการเตรียมตัวเข้า IPO ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าของกิจการจะอยากได้ระยะเวลาที่คาดเดาได้ว่าจะใช้ระยะเวลานานแค่ไหน และไม่นานเกินไป
ดังนั้นทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าว ถือเป็นเหตุผลที่ไม่ว่าจะกิจการเล็ก หรือใหญ่ ต้องมาตั้งพิจารณา แต่หากเป็นกิจการขนาดเล็กจะมีทางเลือกที่น้อยกว่า และไม่สามารถไปจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศได้ แต่ถ้าเป็นกิจการขนาดใหญ่ก็เลือกได้ว่าจะเข้าไปจดทะเบียนที่ไหน
อย่างไรก็ตาม ด้วยตลาดต่างประเทศช่วงนี้ จะมีศักยภาพที่สูงกว่า ซึ่งถือเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ อีกทั้งตลาดต่างประเทศยังมี Equityที่สูงและคึกคักว่า รวมทั้งมีขั้นตอนที่เร็วกว่า ดังนั้นสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์จะทำได้ คือ ปรับองค์ประกอบให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
โดย ตลท.อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการเสนอปรับเกณฑ์ IPO ใหม่ โดยเฉพาะองค์ประกอบบางส่วนที่ต้องปรับเพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วขึ้น โดยทางเลขา ก.ล.ต. ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะหันมาเปิดเผยข้อมูลในบางส่วนมากขึ้น (Disclosure Check) ซึ่งในความหมายนั้นบางเรื่องอาจใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารให้น้อยลงและให้มีการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็จะช่วยลดระยะเวลาดำเนินการของ IPO ได้
ขณะที่สาเหตุที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์และฮ่องกงมีแรงจูงใจบริษัทเข้าไปจดทะเบียนมากกว่าตลาดหุ้นไทยมี 3 เหตุผลหลักๆ ได้แก่ 1.ดัชนีหรือราคาที่ผู้ออกหลักทรัพย์จะได้รับ เนื่องจากตลาดต่างประเทศมีระดับ P/E ที่สูงกว่าตลาดหุ้นไทย, 2.สภาพคล่องของตลาดหุ้น และ3.กระบวนการเข้า IPO ที่สั้นหรือเร็วกว่าของไทย เนื่องจากตามกฎของไทยกระบวนการอนุมัติการเสนอขายหุ้น IPO ของ ก.ล.ต.และ ตลท. จะใช้เวลาดำเนินการรวมประมาณ 120 วัน ซึ่งแตกต่างจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ต่ำกว่าหรือประมาณ 90 วัน