NDR เจาะฐานส่งออก สินค้าไฮมาร์จิ้นดันยอด
#NDR #ทันหุ้น – NDR เร่งเครื่องรุกส่งออก ปักหมุดสหรัฐ ยุโรป คาดออเดอร์ใหม่หนุนยอดเพิ่ม 20 ล้านบาท ฟากบิ๊กบอส “ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” ดันสัดส่วนรายได้ส่งออกขยับจาก 50:50 เป็น 55:45 เดินหน้าท้าชนเป้ารายได้ 1,000 ล้านบาท ลุยปั๊มมาร์จิ้นเข้าพอร์ต
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แผนธุรกิจปี 2569 บริษัทให้น้ำหนักการขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะสหรัฐ และยุโรป ที่มีแนวโน้มเติบโต ล่าสุดในยุโรปได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มอีก 2 ประเทศ
รุกส่งออก
ขณะที่ตลาดสหรัฐ อยู่ระหว่างทดสอบการส่งออก และยังมีออเดอร์บางส่วนอยู่ระหว่างรอการผลิต คาดแล้วเสร็จในปีหน้า ทำให้มีโอกาสเริ่มส่งมอบได้จริงในปี 2569 โดยประเมินเบื้องต้นว่าตลาดใหม่ในโซนสหรัฐ และยุโรปจะช่วยเพิ่มรายได้ราว 10–20 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บางประเทศในยุโรป เช่น สเปนและอิตาลี ยังอยู่ระหว่างการเตรียมการและยังไม่เริ่มส่งออก
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจะปรับเพิ่มขึ้น โดยปี 2568 อยู่ที่ราว 50 : 50 (ส่งออก : ในประเทศ) และคาดปี 2569 จะเพิ่มขึ้นเป็น 55:45 ขณะที่ภาพรวมปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 1,000 ล้านบาท แต่จากภาวะชะลอตัวของตลาดต่างประเทศบางส่วน ประกอบกับตลาดในประเทศยังไม่ฟื้นเต็มที่ และธุรกิจใหม่เดินหน้าช้ากว่าแผน ทำให้รายได้ปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อนและเติบโตไม่มาก
อย่างไรก็ตาม ในปี 2569 บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายรายได้ 1,000 ล้านบาทอีกครั้ง โดยงวด 9 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้ 680.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 10.29 ล้านบาท ขณะที่ปี 2567 บริษัทมีรายได้ 921.98 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 8.19 ล้านบาท
ปั๊มมาร์จิ้น
ด้านความสามารถทำกำไร ปี 2569 บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ราว 2% โดยมีแรงหนุนจากราคาวัตถุดิบที่อยู่ในระดับต่ำและทรงตัว รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าไฮมาร์จิ้น โดยเน้นทำตลาดสหรัฐ และยุโรปมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมมาร์จิ้นมีแนวโน้มดีขึ้นจากเดิม
นอกจากนี้ บริษัทย่อยของ NDR คือบริษัท เอ็กซ์โทรนิค จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และให้บริการเป็น Testing Center สำหรับอุปกรณ์ระบบ 5G อยู่ระหว่างรอผลการเจรจาร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจและผู้สนใจเข้ามาเป็นลูกค้า ซึ่งหากสำเร็จจะช่วยเพิ่มฐานรายได้และเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทมากขึ้น อย่างไรก็ดี บริษัทจะยังคงโฟกัสธุรกิจหลัก คือการผลิตยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D. Rubber ต่อไป