โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

เปิด 5 โรคยอดฮิตปี 2568 ความดันโลหิตสูง ครองแชมป์

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากข้อมูลผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในปี 2568 โรงพยาบาลวิมุตระบุว่า 5 โรคหรือกลุ่มโรคที่มีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่

1.โรคความดันโลหิตสูง

2.โรคเบาหวาน

3.ภาวะไขมันในเลือดสูง

4.โรคหวัดและโรคทางเดินหายใจ

5.กลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรม

โดย 3 อันดับแรกเป็นกลุ่มโรค NCDs ซึ่งสะท้อนปัญหาสุขภาพจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไทยอย่างชัดเจน ทั้งการบริโภคอาหารที่ไม่สมดุล การออกกำลังกายน้อย และความเครียดสะสม ขณะที่โรคหวัดและภูมิแพ้มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับสภาพอากาศที่แปรปรวนและปัญหาฝุ่น PM2.5 ส่วน ออฟฟิศซินโดรม กลายเป็นโรคประจำตัวของคนวัยทำงานในยุคเศรษฐกิจเร่งรีบ ที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอเป็นเวลานานและขาดการเคลื่อนไหว

นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า “ปัจจัยที่ทำให้โรคทั้ง 5 กลุ่มนี้กลายเป็นโรคยอดฮิตในปี 2568 มาจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของสังคมไทย คนเมืองต้องใช้ชีวิตเร่งรีบ ทำงานหลายบทบาท มีเวลาพักผ่อนและดูแลตัวเองน้อยลง ขณะเดียวกันพฤติกรรมการกินยังคงพึ่งพาอาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป และเครื่องดื่มหวานเป็นหลัก ซึ่งเป็นตัวเร่งสำคัญของโรค NCDs ส่วนปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ฝนตกสลับร้อน และปัญหาฝุ่น PM2.5 ในช่วงฤดูหนาว ส่งผลโดยตรงต่อโรคระบบทางเดินหายใจและภูมิแพ้ ขณะที่ออฟฟิศซินโดรมสะท้อนต้นทุนสุขภาพของแรงงานยุคดิจิทัลที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอวันละหลายชั่วโมง และหากพฤติกรรมเหล่านี้ยังไม่เปลี่ยน แนวโน้มในปี 2569 โรคดังกล่าวจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และอาจพบผู้ป่วยในอายุน้อยลง”

“แม้โรคเหล่านี้จะพบได้บ่อย แต่สิ่งที่น่ากังวลคืออาการเริ่มต้นมักไม่ชัดเจน โรคความดัน เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง อาจไม่มีอาการในระยะแรก หรือแสดงเพียงอาการเล็กน้อย หากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจคัดกรอง อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและค่าใช้จ่ายด้านการรักษาที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ขณะที่โรคหวัดและภูมิแพ้ หากมีอาการไอ จาม น้ำมูกเรื้อรัง หรือแน่นหน้าอกบ่อยครั้ง อาจสะท้อนผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ ส่วนออฟฟิศซินโดรมที่เริ่มจากอาการปวดเมื่อยเล็กน้อย หากละเลย อาจพัฒนาเป็นอาการปวดเรื้อรัง และส่งผลต่อทั้งคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงาน”

ท่ามกลางความท้าทายดังกล่าว ปี 2568 ถือเป็นปีที่โรงพยาบาลวิมุตเร่งลงทุนและปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจสุขภาพอย่างจริงจัง ด้วยการเปิด 3 ศูนย์ความเป็นเลิศ (Excellence Centers) ได้แก่ ศูนย์สุขภาพปอด เพื่อรับมือโรคทางเดินหายใจจาก PM2.5 และภูมิแพ้ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด เพื่อรองรับภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดัน เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง และศูนย์กระดูกและข้อ เพื่อดูแลปัญหากล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ จากทั้งวัยทำงานและสังคมผู้สูงอายุ การเปิดศูนย์เหล่านี้สะท้อนทิศทางของวิมุตในการยกระดับการรักษาเฉพาะทาง ควบคู่กับการลงทุนด้านเทคโนโลยีและทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวินิจฉัย การรักษา และการฟื้นฟูสุขภาพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...