โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘ลายผิววิทยา’ ศาสตร์แห่งลายนิ้วมือที่ใช้วิเคราะห์สมอง ตัวช่วยพ่อแม่ดูทักษะของเด็ก

The Momentum

อัพเดต 21 มี.ค. 2562 เวลา 11.20 น. • เผยแพร่ 21 มี.ค. 2562 เวลา 11.20 น. • THE MOMENTUM TEAM

In focus

  • ศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา (Panyatara Potential Analysis Centre หรือ P-PAC) เปิดดำเนินการมานานกว่า 10 ปี มีลูกค้ารวมกว่า 38,000 คนแล้ว
  • ศาสตร์ ‘ลายผิววิทยา’ (dermatoglyphics) ที่ศูนย์ฯ นำมาประยุกต์ใช้นั้น ต่างจากการดูลายมือแบบโหราศาสตร์ เพราะลายผิววิทยา คือ ‘วิทยาศาสตร์เชิงสถิติ’ ของการศึกษาลายผิวหรือลายที่มีเส้นนูน-ต่ำอยู่ตามมือและเท้า 'ซึ่งก่อกำเนิดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับเซลล์สมอง'
  • จากเดิมที่ลูกค้ากลุ่มใหญ่เจาะไปที่องค์กรต่างๆ ปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มที่เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นสัดส่วนราว 60-70%
  • การวิเคราะห์ลายผิวของ P-PAC นั้น ใช้วิธีเทียบข้อมูลเชิงสถิติ ระหว่างลักษณะลายผิวของคนจำนวนมากที่รวบรวมไว้ในฐานข้อมูล (และปัจจุบัน ข้อมูลที่เก็บใหม่ก็ยังส่งต่อไปที่ไต้หวัน) กับลักษณะต่างๆ ของคนเหล่านั้น

สำหรับบางคน ชีวิตในศตวรรษที่ 21 นั้นมีหลายทางเลือกที่ชวนสับสน เชื่อไหมว่าเดี๋ยวนี้มีบริการให้คำปรึกษา ชี้แนวทางอาชีพในอนาคต ระบุทักษะและบุคลิกภาพที่โดดเด่นของเรา แต่ไม่ใช่ด้วยการทำแบบทดสอบ

ขอเพียงลายฝ่ามือและลายนิ้วมือทั้งสิบ ถ้าเป็นเด็กก็ขอลายฝ่าเท้าและนิ้วเท้าไปด้วยเลย

อันที่จริง ศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา (Panyatara Potential Analysis Centre หรือ P-PAC) เปิดดำเนินการมานานกว่า 10 ปีแล้ว พวกเขาบอกว่าศาสตร์ ‘ลายผิววิทยา’ (dermatoglyphics) ที่ศูนย์ฯ นำมาประยุกต์ใช้นั้น ต่างจากการดูลายมือแบบโหราศาสตร์ เพราะลายผิววิทยา คือ ‘วิทยาศาสตร์เชิงสถิติ’ ของการศึกษาลายผิวหรือลายที่มีเส้นนูน-ต่ำอยู่ตามมือและเท้า “ซึ่งก่อกำเนิดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับเซลล์สมอง”

จึงมากับมอตโตของ P-PAC ที่ว่า “ถอดรหัสสมอง เพื่อค้นหาศักยภาพในตัวคุณ”

เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณอมรรัตน์ ประทุมมา ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารปัญจภูมิ 1 ถนนสาทรใต้ ใจกลางเมือง ซึ่งให้ข้อมูลว่า P-PAC เป็นศาสตร์ลายผิววิทยาจากประเทศไต้หวัน มีอาจารย์เหลียนอี้ว์ชิง ผู้ก่อตั้งวิชานี้และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ลายผิววิทยาเป็นผู้วิจัย โดยศึกษาลายนิ้วมือคนมาแล้วเกินกว่าสี่แสนคน

และเมื่อทีมงานจากไต้หวันได้เดินทางมาเก็บตัวอย่างลายนิ้วมือของผู้เข้าแข่งขันในงานแข่งขันหมากล้อมระดับเอเชีย เมื่อ พ.ศ. 2550 และพบว่าผลวิเคราะห์ที่ได้นั้นเป็นข้อมูลที่วิเคราะห์ตัวตนของบุคคลได้แม่นยำ จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง P-PAC ขึ้นมา โดยได้ใบอนุญาตนำวิชานี้มาใช้งานวิเคราะห์ลายมือของคนไทย

ใครบ้างที่ใช้บริการ P-PAC

คุณอมรรัตน์ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ดำเนินการมามากกว่า 10 ปี นับแต่ปลาย พ.ศ. 2550 ศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารามีลูกค้ารวมกว่า 38,000 คนแล้ว จากเดิมที่ลูกค้ากลุ่มใหญ่เจาะไปที่องค์กรต่างๆ ปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มที่เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นสัดส่วนราว 60-70% อีกส่วน 40% เป็นองค์กรเล็กๆ หรือธุรกิจครอบครัวที่ต้องการระบุทักษะของสมาชิกครอบครัวแต่ละคนว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร

“จุดเด่นของเราคือเรื่องสัมพันธภาพภายในครอบครัว บางคนบอกว่ามันเปลี่ยนชีวิตเขา ทำให้เขาได้รู้จักลูกตัวเอง 14 ปีที่เลี้ยงมา ไม่เคยรู้จักเขาดีขนาดนี้ …มันไม่ใช่แค่ความแม่นยำแล้ว แต่เป็นเรื่องว่าเขานำผลที่ได้ไปทำอะไรกับชีวิตเขาต่างหาก”

“มันไม่เกี่ยวกับว่าลูกจะเรียนอะไร ตรงไม่ตรง แม่นไม่แม่น มันเป็นเรื่องสัมพันธภาพในครอบครัวเขามากกว่า ถ้าเราทำให้ครอบครัวเขาเข้าใจกันได้ นั่นคือเป้าหมายสูงสุดของ P-PAC”

แม้ว่าในแผ่นพับ P-PAC จะระบุว่าประโยชน์ของศาสตร์นี้ยังใช้เพื่อ “วางบุคลากรให้ตรงกับตำแหน่งงาน” สอดคล้องตามที่คุณอมรรัตน์กล่าวว่า “Put the right man on the right job.” แต่คุณอมรรัตน์ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมายังไม่มีบริษัทไหนใช้เพื่อคัดเลือกผู้สมัครงานหน้าใหม่ เป็นเพียงการนำศาสตร์ลายผิววิทยาไปวิเคราะห์บุคลากรที่อยู่ในองค์กรอยู่แล้วแต่มีปัญหาขัดข้องในการทำงานมากกว่า และการคัดเลือกคนเข้าทำงานยังต้องดูที่วัฒนธรรมองค์กรที่ต่างกันด้วย ซึ่งเป็นเรื่องซับซ้อน

นอกจากการให้บริการที่ศูนย์ P-PAC แล้ว เจ้าหน้าที่ยังให้บริการเดินสายไปตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อสแกนลายผิวของเด็กๆ เป็นการเข้าไปค้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่เพื่อชี้แนะแนวทางให้พ่อแม่

“พ่อแม่ส่วนใหญ่ที่มา เขาชอบให้เราบอก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีนะ บางคนได้รับผลวิเคราะห์มาว่าลูกเขาเก่งเปียโน ก็เลยจับแยกห้องจากเพื่อนๆ จากเดิมที่เรียนกัน 3 คน แต่น้องเขาเป็นนกกระจอกเทศ (บุคลิกภาพ) เขาต้องการมีกลุ่มสังคม มีเพื่อนช่วยกันทำ เขาเพิ่ง 7 ขวบเอง ก็เลยรู้สึกกดดันแล้วอยากเลิกเรียน เพราะมันไม่สนุกแล้ว เพราะฉะนั้นมันมีปัจจัยอย่างอื่นในความเป็นมนุษย์ มากกว่าสิ่งที่เราบอก อย่าเชื่อเรา 100%”

แม้ว่า P-PAC จะเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา แต่ความจริงแล้วที่นี่ได้รับความนิยมมาก ทุกวันนี้มีลูกค้ามาใช้บริการเฉลี่ยราว 300-400 คนต่อเดือน การขอใช้บริการจะต้องโทรนัดล่วงหน้าเพื่อสแกนลายผิวเป็นรายบุคคล ทั้งนี้จะมีค่าใช้จ่ายต่อคนและต้องรอนัดอีกรอบเพื่อเข้าฟังผลวิเคราะห์ซึ่งผ่านมือและสายตาของ ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ถึง 3 คน และใช้เวลาฟังผล 1 ชั่วโมงเต็ม 

ขอมือเธอหน่อย

สำหรับขั้นตอนการสแกนลายผิว เราต้องเริ่มจากการกรอกข้อมูลส่วนตัวซึ่งละเอียดพอสมควร ตั้งแต่ชื่อ-สกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเกิด ฯลฯ

ต่อจากนั้นจึงเป็นการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเจอห้องแล็บวิทยาศาสตร์ที่น่าเกรงขาม เพราะเจ้าหน้าที่จะนั่งรอด้วยรอยยิ้มอยู่ที่โต๊ะสำนักงานเรียบง่าย มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและเครื่องสแกนลายนิ้วมือเครื่องเล็กๆ เชื่อมกับคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนนี้ใช้เวลา 30-45 นาที เจ้าหน้าที่จะสแกนนิ้วของเราทีละนิ้วอย่างละเอียด หนึ่งนิ้วจะต้องหมุนสลับมุม 3 ด้าน (ซ้าย-กลาง-ขวา) เพื่อให้เก็บรายละเอียดลายนิ้วมือได้ครบถ้วน เนื่องจากต้องนับจำนวนเส้นบนนั้นเพื่อใช้วิเคราะห์ด้วย ทั้งแบบใช้คอมพิวเตอร์นับให้และใช้สายตาของคนไปจิ้มเคอร์เซอร์ในจอเพื่อนับทวนอีกที ป้องกันความผิดพลาด และเจ้าหน้าที่สามคนในสามขั้นตอนจะต้องยืนยันผลการนับเส้นให้ตรงกันด้วย จึงจะเป็นผลที่ใช้ได้

เจ้าหน้าที่สแกนลายนิ้วมือคนนี้จึงต้องทำงานอย่างละเอียดมากๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ขั้นต่อไปสามารถวิเคราะห์ได้อย่างไม่ติดขัด บางครั้งเราจึงอาจต้องสแกนซ้ำนิ้วละ 3 หน หากผลบนจอยังน่ากังขา

เจ้าหน้าที่บอกว่า เนื่องจากผู้เขียนมีลายนิ้วมือที่เส้นละเอียดมาก สุดท้ายจึงยังต้องใช้หมึกทาที่นิ้วแต่ละนิ้ว เพื่อปั๊มลงกระดาษอีกที แต่ละครั้งที่ปั๊มลงไป เขาจะใช้แว่นขยายเล็กๆ ส่องดูเพื่อให้แน่ใจว่าลายเส้นบนนั้นปรากฏชัด

นอกจากจำนวนเส้น เจ้าหน้าที่จะวิเคราะห์ลักษณะของลายเส้นบนนิ้วว่าเป็นแบบไหน เช่น ลักษณะก้นหอย (whorl) ลายมัดหวาย (loop) ลายกระโจม (arch) ฯลฯ ซึ่งเชื้อชาติ พันธุกรรม และสภาพแวดล้อมก็มีผลต่อลวดลายเหล่านี้เช่นกัน

เมื่อพิมพ์ลายนิ้วมือเสร็จจนมือดำไปทั้งฝ่ามือ แต่สามารถล้างออกได้ง่ายมาก เราก็ได้รับใบนัดให้มาฟังผล พร้อมกับแฟ้มเอกสารที่เจ้าหน้าที่กำชับว่าให้ศึกษามาก่อน เพื่อจะได้ฟังผลเข้าใจในคราวเดียว

ภายในแฟ้มมีเอกสารอธิบายทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง แจกแจงศักยภาพที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด 10 ด้าน ทฤษฎีพหุปัญา (ถนัดเรื่องอะไร) และบุคลิกภาพ 5 ประการที่มีนกชนิดต่างๆ เป็นตัวแทน ได้แก่ เหยี่ยว นกยูง นกแก้ว นกกระจอกเทศ และห่านป่า

วิทยาศาสตร์เบื้องหลัง

การวิเคราะห์ลายผิวของ P-PAC นั้น ใช้วิธีเทียบข้อมูลเชิงสถิติ ระหว่างลักษณะลายผิวของคนจำนวนมากที่รวบรวมไว้ในฐานข้อมูล (และปัจจุบัน ข้อมูลที่เก็บใหม่ก็ยังส่งต่อไปที่ไต้หวัน) กับลักษณะต่างๆ ของคนเหล่านั้น

ส่วนการวัดผลสำเร็จในระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ ใช้วิธีสอบถามความพึงพอใจของผู้ที่เคยใช้บริการ ซึ่งชื่อ ‘ลายผิววิทยา’ หรือ dermatoglyphics นั้นเป็นวิทยาศาสตร์ และเป็นสิ่งที่เอฟบีไอศึกษาอย่างจริงจังเพื่อระบุตัวบุคคล อย่างที่ P-PAC ได้ให้ข้อมูล และนักวิทยาศาสตร์ยังใช้ศึกษาหาความสัมพันธ์เพื่อระบุตัวเด็กที่เป็นโรคพันธุกรรมกลุ่มอาการดาวน์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย

แต่การเชื่อมโยงลายผิวกับความสามารถทางด้านต่างๆ นั้น ยังไม่มีข้อมูลวิจัยที่ระบุได้ชัดเจนว่าทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาและพหุปัญญาของโฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) นั้นเกี่ยวข้องโดยตรงอย่างไรกับลายผิววิทยา นอกจากข้อมูลในเอกสารประกอบของ P-PAC ที่ระบุว่า “ลายผิวถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เซลล์สมองของตัวอ่อนเริ่มก่อตัวในครรภ์มารดา”

ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่สนใจศาสตร์นี้ อาจค้นข้อมูลประกอบเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจใช้บริการ

Fact Box

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม:

https://kkartlab.in/group/some-science/forum/topics/debate-between-scientists-and-people-who-practice-and-propagate-p

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...