โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

แรงบันดาลใจ ใจบันดาลแรง - อั๋น ภูวนาท

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 06 ธ.ค. 2563 เวลา 17.00 น. • อั๋น ภูวนาท
ภาพโดย Derek Thomson / unsplash.com

 

“สิ่งที่เรียนรู้จากการทำรายการคลับฟรายเดย์โชว์มาเกือบ 5 ปีที่พี่อั๋นอยากบอกต่อที่สุดคืออะไร”

 

คำถามสุดท้ายจากนักศึกษาใน Session ที่ผมได้ไปเป็นอาจารย์พิเศษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ผมเงียบไปพักก่อนจะตอบออกไปว่า

 

“ความรักคือ แรงบันดาลใจที่ทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างน่ามหัศจรรย์”

 

ผมเคยอ่านเจอเรื่องจริงเรื่องนึงที่เกิดขึ้นในเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาของผู้ชายที่ใครหลายคนอาจเคยได้ยินข่าวคราวและข่าวคาวของ “อัล คาโปน” มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ที่ทั้งค้ายา ของเถื่อน โสเภณี ฆาตกรรมมาครบ แต่ไม่เคยจบที่ติดคุกจากความผิดใดที่เค้าก่อเลยแม้เพียงสักครั้ง เพราะเค้ามีทนายชื่อ “เอ็ดเวิร์ด โจเซฟ” ที่เก่งที่สุดในด้านการพลิกแพลงใช้ช่องโหว่ทางกฏหมายคอยดูแล แลกกับทรัพย์สินเงินทองมากมายมหาศาลระดับที่เรียกว่าเกินมาตรฐานมหาเศรษฐีใหญ่ของเมืองชิคาโกหลายคนด้วยซ้ำไป

ท่ามกลางชีวิตที่สุขสบายนี้ แต่เอ็ดเวิร์ดกลับมีปมใหญ่ยิ่งในหัวใจเค้า นั่นคือ “ลูกชาย” เด็กชั้นประถมที่อาจจะมีของเล่นมากที่สุดในโรงเรียน เสื้อหรูหราไว้สวมใส่ และรถคันใหญ่คอยรับส่ง แต่กลับไร้แรงบันดาลใจที่ดี จากการที่ต้องเติบโตมาพร้อมกับชื่อเสียงที่เป็นชื่อเสียของพ่อตัวเอง ขาดตัวอย่างที่สมควรจะเอาเยี่ยงอย่างให้ดำเนินรอยตามได้อย่างภาคภูมิใจ

เอ็ดเวิร์ด เจ็บปวดทรมานกับทุกข์ในใจนี้อย่างแสนสาหัสมายาวนาน จนวันหนึ่งโดยไม่มีใครคาดคิด เค้าตัดสินเข้ามอบตัวกับตำรวจพร้อมหลักฐานเปิดโปงความชั่วทุกอย่างของอัล คาโปนและขบวนการ แน่นอนว่าเค้ารู้ดีว่านี่คือการฆ่าตัวตายแท้ๆ แต่เค้าตั้งใจทำเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกได้เห็นและภูมิใจว่าศักดิ์ศรี ความซื่อสัตย์ และการเป็นคนดีนั้น เป็นสิ่งที่มีค่าสูงยิ่งกว่าชีวิตเสียอีก

 

เอ็ดเวิร์ดถูกยิงตายอย่างโหดเหี้ยมหลังจากนั้นไม่นาน กลางถนนในเมืองชิคาโก แต่ได้ทิ้งแรงบันดาลที่ยิ่งใหญ่ไว้ในหัวใจของลูกชาย และเป็นตำนานให้กับผู้คนในเมืองได้กล่าวขานว่าความรัก สามารถทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงจากร้ายกลายเป็นดีได้จริงๆ

 

ส่วนอีกเรื่องนึงนั้น เป็นเรื่องของ บุช โอแฮร์ นักบินรบชาวอเมริกันคนหนึ่งที่ถูกส่งไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 ร่วมกับเรือรบ Lexington

ในภารกิจนึง เครื่องบินทั้งหมดถูกสั่งให้ออกปฏิบัติการกลางทะเล หลังจากบินออกไปไม่นาน โอแฮร์ก็พบว่าเครื่องบินของเค้ามีน้ำมันเหลืออยู่ไม่มากพอที่จะบินต่อได้จนเสร็จสิ้นภารกิจ แม้จะไม่เต็มใจแต่ไม่มีทางเลือกใดนอกจากต้องทำตามคำสั่งแล้วบินออกจากฝูงกลับไปเติมน้ำมันที่เรือรบ

ระหว่างทางบินกลับนั้นเอง เค้ากลับได้พบกับฝูงเครื่องบินรบญี่ปุ่นที่กำลังมุ่งหน้าเข้าโจมตีเรือรบ Lexington ที่กำลังเป็นเป้านิ่ง ด้วยเพิ่งส่งเครื่องบินรบทั้งหมดออกไปปฏิบัติภารกิจที่อยู่ไกลเกินกว่าจะบินกลับมาได้ทัน โอแฮร์ตัดสินใจในทันที แล้วบินเดี่ยวเข้าต่อสู้กับเครื่องบินรบญี่ปุ่นทั้งฝูง ก่อนจะระดมยิงโดยไม่คืดถึงแม่สวัสดิภาพของชีวิตตัวเอง ลำแล้วลำเล่าที่เค้าสามารถเอาชนะได้ จนกระทั่งกระสุนของเค้าได้หมดลง แต่โอแฮร์ก็หาได้หมดกำลังใจไม่ กลับยังมุ่งหน้าบินพุ่งเข้าใส่เครื่องบินของคู่ต่อสู้อย่างกล้าหาญ จนในที่สุดฝูงบินญี่ปุ่นทั้งฝูงต้องตัดสินใจยกเลิกภารกิจ และบินหนีกลับไป

 

ภาพการต่อสู้ทั้งหมดถูกบันทึกไว้ที่กล้องหางเครื่องบิน

 

บุช โอแฮร์ กลายเป็นวีรบุรุษสงครามคนแรกของสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับเหรียญกล้าหาญระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์

 

1 ปีหลังจากนั้น บุช โอแฮร์เสียชีวิต จากการออกรบด้วยวัยเพียง29ปีเท่านั้น

แต่ชาวเมืองชิคาโกบ้านเกิดของเค้า ต่างไม่ยอมให้เรื่องราวของวีรบุรุษนี้เลือนหายไปตามกาลเวลา จึงได้ตัดสินใจนำชื่อของเค้ามาตั้งเป็นชื่อของสนามบินที่กำลังสร้างขึ้นใหม่อย่างยิ่งใหญ่ในขณะนั้นว่า ”Chicago O’Hare International Airport”

 

อย่าเพิ่งรีบงงว่า แล้วอยู่ดี ๆ ผมมาเล่าเรื่อง 2 เรื่องนี้ทำไม

 

ทั้งเอ็ดเวิร์ด โจเซฟ

และบุช โอแฮร์

ไม่มีใครเป็นแขกรับเชิญในรายการคลับฟรายเดย์โชว์เลยสักคน

 

แต่บุช โอแฮร์ คือลูกชายแท้ ๆ ของทนายเอ็ดเวิร์ด โจเซฟ

คนที่กล้ากลับใจ เปลี่ยนความผิดพลาด แล้วกลับตัวมาแก้ไขความชั่วร้ายที่ตัวเองเคยทำไว้ได้ทันก่อนตาย

 

ความรักสร้างแรงบันดาลใจ

แรงบันดาลใจสร้างวีรบุรุษ

-

ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก อั๋น ภูวนาท ได้ทุกวันจันทร์ บน LINE TODAY

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...