แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC โชว์โรดแมปขับเคลื่อนธุรกิจ เตรียมขายไอพีโอ 79 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรด SET ภายในปี 68
MASTEC ผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรม โชว์โรดแมปขับเคลื่อนธุรกิจ 6 ด้าน พร้อมเดินหน้าเตรียมขาย IPO 79 ล้านหุ้น ระดมทุนลุยขยายธุรกิจ คาดเข้าเทรด SET ได้ภายในปี 68
นายดุษฎี มีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมสเทค ลิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือMASTEC เปิดเผยว่าบริษัทฯเป็นผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่ายที่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมากว่า 25 ปี โดยปัจจุบัน บริษัทฯ นำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่าย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย
1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบระบบทำความเย็นขนาดใหญ่ด้วยน้ำ (Chiller) และทำความเย็นด้วยน้ำยา (Refrigerant), อุปกรณ์ประกอบระบบระบายความร้อนออกจากเครื่องทำความเย็นด้วยน้ำ (Water Cooled)เป็นต้น
2.กลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบระบบดับเพลิงอัตโนมัติด้วยน้ำทั้งระบบ
3.กลุ่มผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบระบบบำบัดและฆ่าเชื้อโรคในน้ำสำหรับสระว่ายน้ำโดยไม่ใช้สารเคมีเพื่อทดแทนระบบคลอรีนหรือคลอรีนจากเครื่องเกลือ ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก NSF สหรัฐอเมริกา และ Cooling Tower ปลอดสารเคมีเพื่อกำจัดตะไคร่และเชื้อ legionellosis ที่ทำให้ปอดอักเสบเฉียบพลัน เป็นต้น
“สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ 1-2 ถือเป็น Cash Cow ของบริษัทฯ ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ 3 ถือเป็นธุรกิจดาวเด่นที่บริษัทฯ มุ่งหวังที่จะให้เป็น New S-Curve จากการเพิ่มช่องทางจำหน่ายในอนาคต ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ MATEC โดดเด่นและน่าสนใจ คือ 1. การขายโซลูชั่นที่ไม่เพียงแค่การจำหน่ายสินค้า แต่ยังให้ความรู้และช่วยเหลือลูกค้าในการแก้ปัญหาตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเชื่อมั่นจากลูกค้า นำไปสู่การซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง ทุกโครงการที่มีการก่อสร้างอาคาร มีงานระบบอยู่ในนั้นทั้งหมด ฉะนั้น ส่งผลให้สินค้าของ MASTEC ที่เปรียบเสมือนเป็นปัจจัย 4 ทางด้านวิศวกรรมมีโอกาสขายได้ทุก ๆ โครงการ และ 3. หากไม่นับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นเจ้าของโครงการ ในส่วนของลูกค้าเดิมที่เป็นผู้รับเหมาก็มีการซื้อซ้ำ ทำให้มีรายได้ประเภทนี้เข้ามาอยู่ตลอด ซึ่งภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักทั้ง 3 กลุ่มนี้ จะช่วยให้ MASTEC ประสบความสำเร็จในการเป็นปันผลและหุ้นเติบโตได้อย่างที่ตั้งใจไว้”
ทั้งนี้ MASTEC ดำเนินธุรกิจผ่านกลยุทธ์สำคัญ 6 ด้าน ได้แก่
1.ปรับกลยุทธ์มาเป็นการเสนอโซลูชั่นที่ขายสินค้าพร้อมการบริการ ตั้งแต่การออกแบบ จัดหา วางแผน ติดตั้งแล้วเสร็จจนส่งมอบโครงการ
2.เพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการเพื่อให้สามารถขยายฐานลูกค้า และรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
3.ให้ความสำคัญกับการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ตลอดจนการรักษาคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการแก่ลูกค้า
4.พัฒนาบุคลากรของบริษัทในทุก ๆ ระดับและครอบคลุมทุกด้านอย่างสม่ำเสมอ
5.นำข้อมูล Big data ที่เก็บรวบรวมมาตลอด 25 ปี มาวิเคราะห์ พัฒนา จนได้เป็นองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาและเชื่อมโยงระบบงาน ตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร
6.กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน การดูแลบริหารภายในให้ถูกต้องตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ รวมถึงการดูแลลูกค้าอย่างเป็นธรรม
ขณะที่นายสมศักดิ์ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า MASTEC มีศักยภาพการเติบโตที่ดีจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 25 ปี ในธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่าย และการให้บริการโซลูชั่นที่ครอบคลุม ทำให้ MASTEC สามารถนำเสนอโซลูชั่นด้านวิศวกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในกลุ่มผู้รับเหมา กลุ่มเจ้าของโครงการ และกลุ่มร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายได้เป็นอย่างดี
ด้านนายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า MASTEC เตรียมพร้อมจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 79 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 26.33 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ภายในปี 2568
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อรองรับแผนรุกธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมสำหรับตลาดอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และเป็นเงินทุนสำหรับรองรับธุรกิจใน Synergy Products ของกลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัย รวมถึงขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ
ทั้งนี้ MASTEC มีนโยบายการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทและหลังหักสำรองต่างๆทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับบริษัทกำหนดไว้แต่ละปี