โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภาพยนตร์

ต้องอ่าน! ประวัติศาสตร์เบื้องหลังของ Sisu เฒ่ามหากาฬล้างบางนาซี

Major Group

เผยแพร่ 27 มิ.ย. 2566 เวลา 17.00 น. • Majorcineplex
ต้องอ่าน! ประวัติศาสตร์เบื้องหลังของ Sisu เฒ่ามหากาฬล้างบางนาซี

ต้องอ่าน! ประวัติศาสตร์เบื้องหลังของ Sisu เฒ่ามหากาฬล้างบางนาซี

Sisu หรือ เฒ่ามหากาฬ เป็นภาพยนตร์สงครามฝีมือผู้กำกับสัญชาติฟินนิช ยาลมารี เฮแลนเดอร์ โดยมันเป็นภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยฉากแอคชั่นและความโหดเลือดสาด พร้อมกับฉากหลังอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของภูมิภาคแลปแลนด์ ประเทศฟินแลนด์ ในปี 1944 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่หลากหลายมุมมองเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองได้ถูกมองข้ามไป ทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งอันตรายในฟินแลนด์ระหว่างสหภาพโซเวียตและนาซีเยอรมัน การปะทะกันของสองมหาอำนาจทำให้ฟินแลนด์ได้รับความเสียหายเป็นอย่างหนักในช่วงปี 1939 จนถึง 1945

ด้วยความยาว 91 นาที เฒ่ามหากาฬ ไม่รีรอที่จะเริ่มที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับนักสำรวจทองลึกลับที่มีชื่อว่า อาตามิ คอร์ปิ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ เดอะ อิมมอทัล ที่สวมบทบาทโดย ยอร์มา ทอมมิลา โดยเขาเป็นทหารผ่านศึกที่เป็นผู้บัญชาการในสงครามฤดูหนาวระหว่างฟินแลนด์และโซเวียต ซึ่งสงครามดังกล่าวทำให้เขาต้องมาใช้ชีวิตอย่างสันโดษ หลังจากที่สูญเสียครอบครัวของเขาไป

ก่อนที่วันหนึ่งในปี 1944 ในขณะที่เยอรมันสูญเสียอำนาจในทวีปยุโรป อาตามิ ก็เหมือนกับถูกหวยครั้งใหญ่ เมื่อเขาพบเข้ากับขุมทองที่เขาจะต้องขนมันกลับไปขายในเมืองที่ถูกยึดครองโดยนาซี แต่โชคร้ายก็ตามมา เมื่อในระหว่างการเดินทางกลับไปยังเมืองที่ถูกถล่มพังไม่เป็นชิ้นดีจากสงคราม อาตามิ และทองที่ถูกซ่อนเอาไว้ของเขาก็ถูกพบโดยหน่วยทหารนาซี ที่พร้อมจะพลิกแผ่นดินเพื่อตามล่าเขา ซึ่งจะผลิกผันกลายมาเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของที่เหล่านาซีจะต้องเสียใจในภายหลัง

เมื่อย้อนไปในช่วงก่อนหน้านั้น หลังจากที่สงครามโลกครั้งสองเริ่มต้นขึ้น สหภาพโซเวียตก็ได้เข้าร่วมสงครามครั้งที่สองในฝั่งเดียวกันกับเยอรมนี ในตอนที่เริ่มมีการรุกรานโปแลนด์ในปี 1939 หลังจากที่ฟินแลนด์ไม่ยอมยกดินแดนที่เป็นเกาะใกล้กับเมืองเลนินกราดให้กับสหภาพโซเวียต กองทหารของสตาลินจึงเริ่มเข้ารุกรานประเทศและจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดขึ้น ก่อให้เกิดเป็นสงครามฤดูหนาวขึ้นมา ซึ่งก็เป็นสงครามเดียวกันที่ทำให้ อาตามิ ต้องสูญเสียครอบครัวของเขาไป

จนกระทั่งปีเดือนมีนาคม 1940 สงครามฤดูหนาวก็ยุติลงด้วยสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างสหภาพโซเวียตและฟินแลนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สนธิสัญญามอสโก โดยข้อตกลงดังกล่าวทำให้ฟินแลนด์ต้องสูญเสียดินแดนไปกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ความสุญเสียจากสงครามในครั้งนี้ของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันเป็นอย่างมาก เพราะว่าฟินแลนด์สูญเสียทหารไปประมาณ 25,000 นาย ในขณะที่สหภาพโซเวียตสูญเสียทหารไปกว่า 200,000 นาย ในช่วงเวลาของความขัดแย้งยาวนาน 103 วัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ก็เป็นที่มาของชื่อภาพยนตร์ Sisu ที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับความคิดของชาวฟินแลนด์เกี่ยวกับความมุ่งมั่นขั้นสูงสุดในความขัดแย้งครั้งใหญ่ ซึ่งจะสะท้อนออกมาผ่านทางตัวละครนำอย่าง อาตามิ ที่เขาไม่หยุดยั้งที่ลุกขึ้นมาจะต่อสู้กับนาซีครั้งแล้วครั้งเล่า ในแบบเดียวกันกับชาวฟินแลนด์ที่ต่อต้านรัฐบาลทรราชในสงครามฤดูหนาว

ต่อมาเมื่อเยอรมนีเกิดเปลี่ยนท่าทีมารุกรานสหภาพโซเวียตในปี 1941 ฟินแลนด์จึงเข้าร่วมกับฝ่ายเยอรมนี ด้วยเหตุผลเรื่องความโกรธแค้นหลังจากที่สหภาพโซเวียตทำการขูดรีดทางเศรษฐกิจจากฟินแลนด์อย่างต่อเนื่องในช่วงของสนธิสัญญามอสโก โดยสงครามครั้งใหม่ที่มีชื่อว่า สงครามต่อเนื่อง จะยาวนานไปอีกเป็นเวลา 3 ปี ในช่วงปี 1941 ไปจนถึงปี 1944

การต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ และฟินแลนด์ก็ได้เริ่มยึดคืนดินแดนบางส่วนที่สูญเสียไปให้กับสหภาพโซเวียตได้ จนกระทั่งเริ่มมีสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าเยอรมนีและฟินแลนด์ไม่สามารถยึดครองสหภาพโซเวียตได้ จึงได้มีการเกิดขึ้นของ การสงบศึกมอสโก ขึ้นมาโดยแลกกับการที่ฟินแลนด์ต้องมอบดินแดนทางยุทธศาสตร์ให้กับสหภาพโซเวียต พร้อมกับยุติความสัมพันธ์ทางการเมืองทุกอย่างกับเยอรมนี

การสงบศึกมอสโก นำไปสู่การเกิดขึ้นของ สงครามแลปแลนด์ ที่เป็นการต่อสู้ระหว่างฟินแลนด์และนาซีเยอรมัน ในขณะที่ชาวฟินแลนด์ต้องขับไล่และปลดอาวุธเหล่าทหารนาซีที่ล่าถอยกลับไปทางตะวันตก ถึงแม้ว่าสงครามในครั้งนี้จะยาวนานแค่ 7 เดือน แต่มันได้สร้างความเสียหายอย่างสาหัสให้กับประเทศฟินแลนด์ เพราะเหล่านาซีได้ใช้กลยุทธ์ผลาญภพ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ล่าถอยที่อาศัยวิธีการทำลายเส้นทางคมนาคมและวางทุ่นระเบิดเพื่อชะลอและทำลายกองทหารฟินแลนด์ ตลอดจนทำลายสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ จนทำให้พื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของภูมิภาคแลปแลนด์ ซึ่งเป็นภูมิภาคเดียวกันกับที่ภาพยนตร์ เฒ่ามหากาฬ ได้ให้ความสนใจในด้านภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของมัน

โดยนับตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้ทำรายได้ไปแล้ว $6.5 ล้านเหรียญ รวมกับรายได้ในประเทศอื่น ๆ จนตัวเลขทั้งหมดรวมกันออกมาที่ประมาณ $10 ล้านเหรียญ

Sisu หรือ เฒ่ามหากาฬ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 6 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก Collider

เช็ครอบฉายและซื้อตั๋วราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...