โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ทีมกรุ๊ป แตกไลน์ทำธุรกิจใหม่ จาก บ.ที่ปรึกษาสู่ผู้ทวนสอบคาร์บอนฟุตพรินต์

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 14 ก.ค. 2567 เวลา 05.01 น. • เผยแพร่ 13 ก.ค. 2567 เวลา 03.02 น.

คาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) หรือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยตลอดวัฏจักรของผลิตภัณฑ์ หรือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร กำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องรู้ว่า ผลิตภัณฑ์ หรือ องค์กร ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาเท่าไหร่

โดยความจำเป็นที่จะต้องรู้ทุกสภาพบังคับทั้งโดยสมัครใจและโดยกฎระเบียบ เพื่อที่จะนำไปสู่ ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) หรือ ปริมาณการปล่อยคาร์บอนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ถูกดูดซับกลับคืนมา ซึ่งนับเป็นขั้นแรกในการนำไปสู่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emissions โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อที่จะชะลอปรากฏการณ์โลกร้อนตามเป้าหมายที่กำหนดร่วมกันไว้

โดยกระบวนการที่จะรู้ว่า ผลิตภัณฑ์หรือองค์กร มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ในระดับใด และจะปฏิบัติเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงนั้น จำเป็นที่จะต้องมีที่ปรึกษาที่ให้คำแนะนำในการจัดทำคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กรที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ส่งผลให้เกิดการประกอบธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดและตรวจนับปริมาณก๊าซเรือนกระจก

ซึ่ง บริษัททีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAM GROUP จัดเป็นบริษัทอันดับที่ 14 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบทานการแสดงข้อมูลปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากการดำเนินงานขององค์กร หรือ Carbon Footprint for Organization (CFO) รายล่าสุดของประเทศ

ธุรกิจใหม่ของ TEAM GROUP

ดร.สุพัฒนา วิชากูล รักษาการกรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจลงทุนนวัตกรรม-หน่วยธุรกิจตรวจสอบและให้การรับรองมาตรฐานของ TEAM GROUP กล่าวถึง ธุรกิจใหม่ของ TEAM GROUP ว่า ได้ตั้งหน่วยธุรกิจตรวจสอบและรับรองมาตรฐานขึ้นเมื่อต้นปี 2567 หลังจากที่ให้บริการเป็นที่ปรึกษาการจัดทำคาร์บอนฟุตพรินต์ในระดับองค์กรมาก่อนหน้านั้น โดย TEAM GROUP ได้อาศัยประสบการณ์จากการเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของประเทศผ่านโครงการสำคัญ ๆ ทั้งในระดับรัฐบาลและภาคเอกชน

มาเริ่มต้นธุรกิจให้คำแนะนำในเรื่องของคาร์บอนฟุตพรินต์ พร้อมกับขึ้นทะเบียนกับ อบก.เพื่อที่จะได้รับ License เป็นผู้สอบทานการแสดงข้อมูลปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากการดำเนินงานขององค์กร หรือ CFO ในที่สุด ซึ่งใช้เวลาในการขึ้นทะเบียนกับ อบก.นานถึง 2 ปี

“เฉพาะการขึ้นทะเบียนจริง ๆ เพื่อให้เราได้รับ Certificate ในการรับรองปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กร เราจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO 14065 ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับให้หน่วยตรวจสอบความใช้ได้และหน่วยทวนสอบก๊าซเรือนกระจกนำไปใช้ ทำให้เราต้องปรับกระบวนการภายในหน่วยธุรกิจตรวจสอบ กับ หน่วยธุรกิจให้คำปรึกษา เพราะเราจะไม่รับเป็นผู้สอบทานคาร์บอนฟุตพรินต์ให้กับบริษัทหรือองค์กรที่เราให้คำปรึกษาในการจัดทำหรือลดคาร์บอนฟุตพรินต์มาก่อนหน้านี้ มันต้องแยกออกจากกันเพื่อความเป็นกลาง ความโปร่งใส ในการดำเนินธุรกิจเป็นผู้สอบทาน” ดร.สุพัฒนา กล่าว

คาร์บอนฟุตพรินต์

บังคับรายงานคาร์บอนฟุตพรินต์

TEAM GROUP ได้รับ License จาก อบก.ในการเป็นผู้สอบทานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ CFO ใน 8 ธุรกิจ เพื่อรองรับความตื่นตัวขององค์กรในเรื่องของคาร์บอนฟุตพรินต์

ให้บริการ 8 ด้าน สาขาและขอบข่ายการทวนสอบก๊าซเรือนกระจกระดับองค์กร :

  • 1.การผลิตพลังงาน และการจัดการพลังงานไฟฟ้า(Power Generation and Electric Power Transactions)
  • 2.อุตสาหกรรมการผลิตทั่วไป(General Manufacturing Industries)
  • 3.อุตสาหกรรมการผลิตสารเคมี(Chemical Production)
  • 4.การดักจับและเก็บก๊าซเรือนกระจก(Carbon Capture Storage )
  • 5.การขนส่ง (Transport)
  • 6.การจัดการและกำจัดของเสีย(Waste handling and disposal)
  • 7.การเกษตร ป่าไม้ และการใช้ที่ดิน (Agriculture, Forestry and Other Land Use
  • 8.กิจกรรมการบริการทั่วไป (General)

ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องทำทั้งจากการถูกบังคับโดยกฎหมายและการทำโดยความสมัครใจ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.สุพัฒนา กล่าวว่า การถูกบังคับให้ทำคาร์บอนฟุตพรินต์จากกฎระเบียบหรือมาตรการจากประเทศคู่ค้าได้เริ่มดำเนินการแล้ว

จากปัจจุบันที่มีหลายประเทศกำหนดมาตรการนำเข้าสินค้าโดยพิจารณาจาก คาร์บอนฟุตพรินต์ของสินค้าเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่าง

Carbon Border Adjustment Mechanism หรือ มาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป จะเก็บภาษีคาร์บอนจากสินค้าที่นำเข้าจากประเทศนอก EU ที่ไม่มีมาตรการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้มงวดเท่ากับสหภาพยุโรปในปี 2026 กับสินค้าประเภทเหล็ก, อะลูมิเนียม, ปุ๋ย, ซีเมนต์ และ ไฟฟ้า

นอกจากนี้ยังมีมาตรการภาคสมัครใจจากประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ที่จะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและการสนับสนุนทางด้านการเงินกับอุตสาหกรรม เช่น Climate Change Agreement CCAs ของอังกฤษ, Output-Based Prieing System หรือ OBPS การลดปล่อยก๊าซในอุตสาหกรรมของแคนาดา, Clean Energy Standard หรือ CES ในหลายรัฐของสหรัฐ ไปจนกระทั่งถึง Japan Greenhouse Gas Emissions Reporting and Reduction ที่บังคับองค์กรขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นในรายงานการปล่อยก๊าซ และ Zero Carbon Act ของนิวซีแลนด์

“มาตรการของประเทศคู่ค้าเหล่านี้จะไปบังคับโดยตรงกับองค์กรหรือบริษัทในประเทศของเขา แต่บริษัทไทยก็จะได้รับผลกระทบทางอ้อมที่จะถูกบริษัทคู่ค้าให้รายงานคาร์บอนฟุตพรินต์ทั้งในส่วนของ Product และ องค์กรโดยรวม ไม่อย่างนั้นเราก็จะค้าขายกับเขาไม่ได้ อันนี้เป็นสภาพบังคับจากกฎระเบียบของต่างประเทศ แต่ในประเทศไทยเรากำลังจะมี พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่บังคับให้ บริษัทนิติบุคคลควบคุม

ซึ่งก็คือ บริษัทที่ใช้พลังงานแยะและมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาก ๆ มีหน้าที่ต้องรายงานคาร์บอนฟุตพรินต์ด้วย ถ้าไม่ทำมีบทปรับ ทำผิดก็ปรับ และถ้าตั้งใจส่งข้อมูลเป็นเท็จก็มีบทลงโทษ เมื่อ พ.ร.บ.ผ่านเป็นกฎหมายมีผลบังคับใช้ การสอบทานข้อมูลปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร หรือ CFO จึงเป็นเรื่องที่บริษัทจะต้องดำเนินการเพื่อให้การรับรองทันที” ดร.สุพัฒนากล่าว

นอกจากนี้ยังรวมไปถึง กฎเกณฑ์ของ ก.ล.ต.ที่ให้บริษัทใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งใน SET และ mai มากกว่า 900 บริษัทต้อง รายงาน One Report ซึ่ง 1 ใน One Report ที่จะต้องรายงานก็คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ที่จะต้องได้รับการสอบทานข้อมูลองค์กรหรือ CFO จากผู้สอบทานข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินต์อย่าง บริษัท TEAM และอีก 13 บริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อบก.เช่นกัน

ประโยชน์ของรายงานคาร์บอน

การให้บริการเป็นผู้สอบทานคาร์บอนฟุตพรินต์ในระดับองค์กรให้กับลูกค้าที่ต้องการทราบและรับรองปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หลังได้รับการรับรองแล้ว ลูกค้าหรือองค์กรจะได้รับใบ Certificate ที่ระบุ “ถ้อยแถลง” ว่า บริษัทหรือองค์กรได้จัดทำรายงานคาร์บอนฟุตพรินต์และ TEAM GROUP ในฐานะผู้สอบทานหรือ CFO ได้ตรวจสอบความถูกต้องเป็นไปตาม ISO 14065 แล้ว

ต่อจากนั้นบริษัทก็จะนำเอาถ้อยแถลงนั้นไปยัง อบก.เพื่อขอ “ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ระดับองค์กร” เพื่อแจ้งให้กับสาธารณะได้ทราบว่า บริษัทมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณเท่าใด ถ้าปีต่อไปบริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ก็จะได้รับ“ฉลากสีทอง หรือพรีเมี่ยม” อีกด้วย

โดยการสอบทานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะต้องทำปีต่อปี ดังนั้นการดำเนินธุรกิจสอบทานของ TEAM GROUP แม้จะทำรายได้ไม่มากนัก แต่จะเป็นการดำเนินธุรกิจที่มีความสม่ำเสมอ ที่นับวันจะมีลูกค้าเข้ามาขอรับการสอบทานเพิ่มขึ้นตามสภาพบังคับโดยกฎหมายทั้งภายในและภายนอกประเทศ ตลอดจนเป็นการเสริมสร้าง “ภาพลักษณ์” ขององค์กร ว่ามีส่วนช่วยในการลดโลกร้อนที่ปรากฏอยู่บนตัวผลิตภัณฑ์ได้มากน้อยแค่ไหนด้วย

การขยายงานในอนาคต

นอกเหนือไปจากการเป็นผู้สอบทานข้อมูลปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากการดำเนินงานขององค์กร หรือผู้สอบทานคาร์บอนฟุตพรินต์ (CFO) ก่อนหน้านี้ หน่วยธุรกิจตรวจสอบและให้การรับรองมาตรฐาน ยังได้ใบรับรองระบบงานเป็นหน่วยงานตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบ (Validation/Verification Body : VVR) ก๊าซเรือนกระจก ISO/IEC 17029:2019 และ ISO 14065:2020 (Greenhouse Gases-Requirement for Greenhouse Gas Validation and Verification Bodies Fort use in Accreditation or other forms Recognition) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)

และยังอยู่ระหว่างการขยายขอบข่ายการตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบในโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานประเทศไทยขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้ตรวจสอบและทวนสอบในโครงการ T-VER ได้ภายในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้

นับเป็นบริษัทไทยเพียงไม่กี่บริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบและผู้ทวนสอบจากทั้ง อบก. และ สมอ. ของกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นการยืนยันความพร้อมของการดำเนินธุรกิจใหม่ของ TEAM GROUP ในฐานะนิติบุคคลไทยตามมาตรฐานสากลในบทบาทของการเป็น หน่วยงานทวนสอบ (Verification) การรายงานการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก หน่วยงานตรวจสอบความใช้ได้ (Validation) โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทีมกรุ๊ป แตกไลน์ทำธุรกิจใหม่ จาก บ.ที่ปรึกษาสู่ผู้ทวนสอบคาร์บอนฟุตพรินต์

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...