ฟ้องร้องนายจ้าง ถูกไล่ออกเพราะ "มาทำงานก่อน 40 นาที" คดีพลิกศาลเฉลยสาเหตุ
สาวสเปนร้องศาล ถูกไล่ออกเพราะ "มาทำงานก่อนเวลา 40 นาที" แต่คดีพลิกเมื่อศาลเผยสาเหตุที่แท้จริง
เรื่องราวสุดแปลกในโลกการทำงานเกิดขึ้นที่ประเทศสเปน เมื่อพนักงานหญิงรายหนึ่งตัดสินใจฟ้องร้องบริษัทหลังจากถูกเลิกจ้างด้วยเหตุผลหลักว่าเธอ "มาทำงานเช้าเกินไป" เป็นประจำ แต่เมื่อคดีถึงชั้นศาล ความจริงอีกด้านกลับถูกเปิดเผย และทำให้เหตุผลของการไล่ออกครั้งนี้ฟังดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที
ขยันผิดที่? มาเช้า 40 นาทีจนเจ้านายต้องเตือน
ตามรายงานระบุว่า หญิงรายนี้มักจะเดินทางมาถึงที่ทำงานในช่วงเวลา 06.45 - 07.00 น. ซึ่งเร็วกว่าเวลาเริ่มงานจริงที่กำหนดไว้ 07.30 น. ถึงประมาณ 40 นาที แม้หัวหน้างานจะตักเตือนเธอหลายครั้งทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษรว่า "ห้ามตอกบัตรหรือเริ่มงานก่อนเวลา" แต่เธอก็ยังเพิกเฉย
พฤติกรรมดื้อรั้นของเธอยังคงดำเนินต่อไป โดยพบว่าเธอฝ่าฝืนคำสั่งมาทำงานเช้ากว่ากำหนดอย่างน้อย 19 ครั้ง นอกจากนี้ บริษัทยังจับได้ว่าเธอพยายามล็อกอินเข้าระบบงานผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทตั้งแต่ยังเดินทางมาไม่ถึงออฟฟิศอีกด้วย ซึ่งสร้างความลำบากใจให้กับนายจ้างเป็นอย่างมาก
ฟางเส้นสุดท้าย: แอบขายของบริษัท
สิ่งที่ทำให้คดีนี้มีน้ำหนักไม่ใช่แค่เรื่องเวลาเข้างาน แต่บริษัทได้เปิดเผยความผิดร้ายแรงอีกข้อ คือเธอพยายาม "ขายแบตเตอรี่รถยนต์เก่าของบริษัท" โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งพฤติกรรมนี้สะท้อนถึงความไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์กรอย่างชัดเจน
ศาลเมืองอลิกันเต้ (Alicante) ได้พิพากษาเข้าข้างบริษัท โดยระบุว่าประเด็นสำคัญไม่ใช่ "ความตรงต่อเวลาที่มากเกินไป" (Excessive punctuality) แต่เป็นการ "ขัดคำสั่งเจ้านาย" และ "ขาดความซื่อสัตย์" ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 54 แห่งกฎหมายแรงงานสเปน ที่ให้อำนาจบริษัทในการเลิกจ้างได้หากลูกจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ
สรุปบทเรียนจากคดีคนขยัน(ผิดระเบียบ)
แม้ชาวเน็ตบางส่วนจะเห็นใจและมองว่าการมาเช้าไม่น่าจะเป็นความผิด แต่กรณีนี้ชี้ให้เห็นว่า การเคารพกฎกติกาขององค์กรและความซื่อสัตย์สุจริต เป็นคุณสมบัติที่สำคัญกว่าความขยันที่ไร้การควบคุม