โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"ตม.สุวรรณภูมิ" แจงชัด ภาพคิวยาวช่วงพีกสิ้นปี ย้ำศักยภาพระบายผู้โดยสารภายใน 30 นาที มาตรฐานบริการ ความมั่นคงยังอยู่ครบ

สยามรัฐ

อัพเดต 50 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

">

จากกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊กด้านการท่องเที่ยวเผยแพร่ข้อความของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ซึ่งโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า “สิ้นปีแล้ว การเข้ากรุงเทพฯ ก็กลับมาติดขัดอีกครั้งที่สุวรรณภูมิ” พร้อมข้อความในภาพว่า “เข้ากรุงเทพฯ มหัศจรรย์มาก” สร้างความสนใจและข้อสงสัยต่อการให้บริการของด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น

วันที่ 31ธ.ค.68 บก.ตม.2 พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 และโฆษกกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวและเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยหนาแน่นที่สุดของปี

ในช่วงเวลา 13.00–14.00 น. ของวันดังกล่าว มีเที่ยวบินระหว่างประเทศเดินทางเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมกันมากถึง 30 เที่ยวบิน ส่งผลให้มีผู้โดยสารในช่วงเวลานั้นสูงถึงประมาณ 5,700 คน และตั้งแต่เวลา 10.00–17.00 น. ซึ่งเป็นช่วงพีกของเที่ยวบินขาเข้า ไม่มีชั่วโมงใดที่จำนวนผู้โดยสารต่ำกว่า 4,000 คนต่อชั่วโมง โดยตลอดทั้งวันมีผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 85,000 คน

อย่างไรก็ตาม ภาพความแออัดที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากลักษณะทางกายภาพของอาคารผู้โดยสาร โดยเฉพาะทางเดินสู่โถงหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีลักษณะยาวและค่อนข้างแคบ ทำให้เกิดมุมมองที่ดูหนาแน่นกว่าความเป็นจริง ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติ โดยทั่วไปบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองสนามบินสุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารหนาแน่นเป็นบางช่วงเวลาเท่านั้น มิได้หนาแน่นตลอดเวลา และด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถระบายผู้โดยสารผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองได้ทั้งหมดภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ พล.ต.ต.คธาธร คำเที่ยง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้วางไว้

โฆษกกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 กล่าวเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติงานดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พล.ต.ต.คธาธร คำเที่ยง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ที่ได้กำหนด “แผนน่านฟ้า” เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเต็มอัตรา งดลา งดขาด เพื่อเร่งระบายผู้โดยสาร พร้อมกับยังคงรักษามาตรฐานการคัดกรองด้านความมั่นคงของประเทศอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ผ่านระบบกล้องวงจรปิดและรายงานผลการระบายผู้โดยสารเป็นรายชั่วโมงตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกำชับให้มีการบริหารจัดการผู้โดยสารและกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ในทั้ง 3 โซนของด่านตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า เพื่อให้การให้บริการเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด

แม้ในช่วงเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีภารกิจสนับสนุนงานสำคัญอื่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหลายหน่วยงาน แต่เจ้าหน้าที่ทุกนายยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท ไม่ย่อท้อต่อภารกิจ เพื่อให้การเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความราบรื่นและปลอดภัย

พ.ต.อ.พงศ์ธร กล่าวว่า จากประสบการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การรอคิวผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในหลายประเทศใช้เวลานาน 1–2 ชั่วโมง หรือล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.68 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยโพสต์ผ่าน facebook group “เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง” ว่าติดหน้าด่าน ตม.สนามบินแห่งหนึ่งในยุโรปกว่า 8 ชั่วโมง ก็เกิดขึ้นมาแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ตม.ทั่วโลกต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบด้านความมั่นคงเป็นหลัก ดังนั้น การที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยสามารถรักษาสมดุลระหว่างมาตรฐานความมั่นคงและการให้บริการ โดยใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 30 นาที จึงสะท้อนถึงประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วโลกอย่างมืออาชีพ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...