วิศวกรหนุ่มฟ้องบริษัท หลังโดนไล่ออกเพราะเข้าห้องน้ำบ่อยและนานเกินไป
วันนี้ (14 ธ.ค. 2568) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกรณีการฟ้องร้องระหว่างบริษัทผู้ว่าจ้างและวิศวกรคนหนึ่งในภาคตะวันออกของจีนซึ่งถูกไล่ออกเนื่องจากเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง และแต่ละครั้งก็ใช้เวลานานเกินกว่าหนึ่งชั่วโมง โดยอ้างว่าตนเองป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวาร
วิศวกรคนนี้แซ่หลี่ มาจากมณฑลเจียงซู เขาถูกเลิกจ้างหลังจากที่บริษัทพบว่าเขามีพฤติกรรมการเข้าห้องน้ำในวันทำงานถึง 14 ครั้ง ซึ่งครั้งที่นานที่สุดกินเวลานานถึงสี่ชั่วโมง ในช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2567
สหพันธ์สหภาพแรงงานเซี่ยงไฮ้เป็นผู้รายงานและเผยแพร่กรณีของวิศวกรรายนี้เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่เขาฟ้องร้องบริษัทในข้อหาเลิกจ้างโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
นายหลี่ได้แสดงหลักฐานการว่าป่วยจริง ได้แก่ ยาสำหรับโรคริดสีดวงทวารที่คู่ชีวิตของเขาซื้อทางออนไลน์ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนปีที่แล้ว รวมถึงบันทึกการเข้ารับการผ่าตัดในเดือนมกราคมปีนี้ เขาตัดสินใจฟ้องร้องบริษัท โดยเรียกร้องค่าชดเชย 320,000 หยวน (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) เพื่อชดเชยการยกเลิกสัญญาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ทางบริษัทก็ยื่นหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกการเข้าห้องน้ำของนายหลี่ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและกินเวลานาน ซึ่งศาลพิจารณาแล้ว เชื่อว่า เวลาที่นายหลี่ใช้ในห้องน้ำนั้น “นานเกินความจำเป็นทางร่างกาย" ไปมาก
นอกจากนี้ บันทึกทางการแพทย์ที่นายหลี่ยื่นต่อศาลนั้น เป็นบันทึกที่ครอบคลุมระยะเวลาหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เขาเข้าห้องน้ำบ่อยและนานไปแล้ว อีกทั้งนายหลี่ยังไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบเกี่ยวกับอาการป่วยของเขา หรือยื่นขอลาป่วยล่วงหน้าตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา
ในตอนแรก บริษัทได้ติดต่อนายหลี่ผ่านแอปพลิเคชันแชตเมื่อสังเกตเห็นว่า เขาหายไป แต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ ซึ่งตำแหน่งงานของนายหลี่นั้น จำเป็นต้องตอบรับคำขอให้ทำงานตลอดเวลา
ต่อมา เมื่อบริษัทตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ตัดสินใจไล่เขาออก
นายหลี่เข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2553 และได้ต่อสัญญาแบบไม่มีกำหนดระยะเวลาในปี 2557 ตามสัญญาว่าจ้างของเขา หากมีการละจากหน้าที่เป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการขาดงาน และหากมีการขาดงานรวมกันเป็นเวลาสามวันทำการภายใน 180 วัน จะนำไปสู่การยกเลิกสัญญาจ้างทันที ทั้งนี้ บริษัทได้ขออนุญาตจากสหภาพแรงงานก่อนที่จะไล่นายหลี่ออกแล้ว
หลังจากการพิจารณาคดีสองรอบ ในที่สุด ศาลอุทธรณ์ก็ไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายและโน้มน้าวให้บริษัทตกลงยุติคดีโดยการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่นายหลี่จำนวน 30,000 หยวน (ประมาณ 133,722 บาท) โดยคำนึงถึงผลงานที่เขาทำให้บริษัทและความยากลำบากของเขาหลังจากที่ตกงาน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทจีนเผชิญกับข้อพิพาทกับพนักงานโดยมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำ ในปี 2566 พนักงานชายคนหนึ่งจากเจียงซูก็ถูกไล่ออกเนื่องจากเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง โดยมีพฤติกรรมเข้าห้องน้ำที่นานที่สุดคือหกชั่วโมง ทำให้ศาลตัดสินคดีเข้าข้างบริษัทโดยใช้เหตุผลเดียวกับกรณีของนายหลี่
ในปี 2559 มีกรณีของพนักงานขับรถคนหนึ่งที่เข้าห้องน้ำเป็นเวลานานหกนาที ในขณะที่เขามีกำหนดจะต้องไปรับลูกค้า ทำให้เขาพลาดสายโทรศัพท์จากลูกค้าไปห้าสายและต้องยกเลิกคำสั่งเรียกรถไป บริษัทจึงไล่เขาออกและเรียกร้องให้เขาจ่ายค่าชดเชย 21,550 หยวน (ประมาณ 96,057 บาท)
ศาลตัดสินคดีนี้ว่า พนักงานขับรถมีส่วนรับผิดชอบต่อการสูญเสียคำสั่งซื้อบริการเป็นบางส่วน และให้เขาจ่ายค่าชดเชย 2,000 หยวน (ประมาณ 8,914 บาท)
ในขณะเดียวกัน บางบริษัทก็เผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัว เนื่องจากมีการติดตั้งอุปกรณ์จับเวลาในห้องน้ำเพื่อควบคุมเวลาพักเข้าห้องน้ำของพนักงาน ทั้งที่ตามกฎหมายแรงงานของจีน พนักงานมีสิทธิ์ที่จะได้รับการคุ้มครองด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในการทำงาน ซึ่งรวมถึงเวลาในการใช้ห้องน้ำที่เหมาะสมด้วย
ที่มา : scmp.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES