สงคราม ส่ง(มท.1 คืน)ด่วน

ชาวไทยเราช่วงนี้ ไม่ว่าจะเสพข่าวจากสื่อ หรือเลื่อนฟีดในโซเชียลมีเดีย คงได้เจอกับเรื่องราวเกี่ยวกับ “สงคราม” ในทุกหมวดข่าว

ข่าวระดับโลก เจอการปะทุดุเดือด “สงครามรัสเซียบุกยูเครน” รอบนี้รัสเซียเจอเซอร์ไพรส์ ยูเครนส่งโดรนราคาถูกติดระเบิดแอบเข้าไปโจมตี ทำลายเครื่องบินรบราคาแพงของรัสเซียเสียหายไป 40 กว่าลำ

ข่าวในประเทศก็เจอกับข่าวการปะทะของทหารไทย-กัมพูชา พร้อมๆ กับกองเชียร์แต่ละฝ่ายยั่วยุกันไปมาให้ก่อ “สงคราม” ใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกันแบบเต็มรูปแบบ เกลื่อนฟีดไปหมด

แม้แต่ข่าวบันเทิงช่วงนี้ต้องยกให้ซีรีส์เรื่องดัง “สงคราม ส่งด่วน” ที่กำลังได้รับความนิยมมากขณะนี้ โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันต่อสู้ของ “สงครามธุรกิจสตาร์ตอัพขนส่งพัสดุ”

ส่วนข่าวการเมืองไทยวันนี้ “สงครามอำนาจ” ระหว่าง “ขั้วแดง-น้ำเงิน” เคลื่อนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ “ผู้นำฝ่ายสีแดง” ประกาศรุกคืบ เตรียมริบอำนาจกระทรวงสำคัญคืนจาก “ขั้วน้ำเงิน”

หลังทำ “สงครามภายใน” พรรคร่วมรัฐบาลต่อเนื่องกันมายาวนาน สัปดาห์นี้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณแห่งพรรคเพื่อไทย เรียกเสียงฮือฮา วิจารณ์การทำงานของกระทรวงมหาดไทย อย่างตรงไปตรงมาว่าทำงานได้ไม่เต็มที่ นโยบายไม่ถึงประชาชน ต้องให้เพื่อไทยเข้าไปทำบ้าง ทั้งยังแสดงความมั่นใจว่าภูมิใจไทยจะไม่ถอนตัว

ตามมาด้วยเสียงตอบรับของแกนนำเพื่อไทยหลายคน แม้จะไม่ได้พูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่ปฏิเสธ เห็นด้วยว่ากระทรวงมหาดไทยมีความสำคัญ กระทั่งมีข่าววางตัวรัฐมนตรีคือนายประเสริฐ จันทรรวงทอง

ขณะที่ฝั่งภูมิใจไทยมีการคุยระดับแกนนำหลังรับรู้แล้วว่าเพื่อไทยจะเอากระทรวงมหาดไทย จึงแก้เกมขั้นแรกด้วยการขอให้พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำ “รื้อใหญ่” ใหม่ทั้งหมดทุกกระทรวง โยนความปวดหัวจะกลับมาตกอยู่ที่ขั้วสีแดง

แม้จะยังไม่ชัดเจน เพราะยังอยู่ระหว่างต่อรอง แต่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ครม.แพทองธาร 2 ใกล้จะได้เห็นแล้วในเวลาไม่นานจากนี้ และกระทรวงมหาดไทย จะกลับมาอยู่กับเพื่อไทย

มีคำถามต่อมาว่าทำไมเพื่อไทยจึงเปิดเกมรุกเร็วเอาคืนภูมิใจไทยในระดับ “เดินหน้าชน” ตรงไปตรงมา

1. ต้องไม่ลืมว่าในอดีต รัฐบาลภายใต้การนำของตระกูล “ชินวัตร” ตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงรัฐบาลเพื่อไทยยุคยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เคยปล่อยให้กระทรวงมหาดไทยอยู่ในมือคนอื่น เกือบ 2 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลเพื่อไทย พิสูจน์แล้วว่าต้องเอาคืน หลังปล่อยให้ขั้วสีน้ำเงินยึดครอง

2. เพื่อลดปัญหาการเมืองภายในของพรรคเพื่อไทย เพื่อคลี่คลายแรงกดดันภายในพรรค จึงจำเป็นต้องขยับกระทรวง กระทั่งรวมถึงการ “เคลียร์เก้าอี้” เพื่อแก้ปัญหาของพรรคเพื่อไทยเองที่อาจจะเจอจากปัจจัยภายนอก เช่นกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน โดนกลุ่มเครือข่ายแพทย์กำลังระดมพลเปิดศึกจากกรณีชั้น 14 อยู่ในตอนนี้

3. เพื่อตัดกำลังภูมิใจไทย เพราะการเลือกตั้งปี 2570 ขั้วสีน้ำเงินจะเป็นคู่แข่งตัวหลักกับ “การเมืองในแบบเพื่อไทย”

เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าขั้วสีน้ำเงินรวบอำนาจ วางขุมกำลังไว้ในกลไกมหาดไทยจนครบ ผลงานปรากฏในศึกเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา

ขณะที่วันนี้ขั้วสีแดงก็เดินเกมเอามีดปักหลังขั้วสีน้ำเงินสำเร็จผ่านการดำเนินคดี “ฮั้ว ส.ว.” เล่นกันแรงถึงขั้นร้องให้ยุบพรรค เอาผิดถึงบุคคลระดับสูงของพรรค

นั่นเท่ากับขั้วสีแดง “ดับห้าว” ขั้วสีน้ำเงิน สำเร็จระดับหนึ่ง

มาถึงจุดนี้ “บ้านใหญ่จันทร์ส่องหล้า” จึงเลือกแทงไพ่ประกาศเอาคืน “มหาดไทย” เพราะมั่นใจว่าถึงยังไงขั้วสีน้ำเงินก็ต้องอยู่ด้วยกัน ที่ผ่านมาเชื่อว่าสีน้ำเงินแค่ขู่ ไม่น่าจะทำอะไรมากกว่านี้ อย่างการโหวต พ.ร.บ.งบประมาณฯ แม้จะอภิปรายดุเดือด แต่ก็โหวตผ่านมาด้วยดี

กรอบการเจรจารอบนี้เป็นการเอา 2 กระทรวงขนาดกลางของเพื่อไทยไปแลก เช่น พาณิชย์และดีอี หรือจะเป็นการบีบให้กลับไปนั่งคุม “สาธารณสุข”

4. เพื่อสร้างผลงาน เพราะตอนนี้รัฐบาลเพื่อไทยนั่งอยู่ในอำนาจมากว่า 2 ปีแล้ว นโยบายเรือธงหลายเรื่องยังไม่เห็นผล หลายเรื่องต้องพักไว้ นายทักษิณรู้ดีว่าสร้างความเสียหายทางการเมืองอย่างหนัก เลือกตั้งครั้งหน้าแย่แน่

เพื่อไทยจึงหวังใช้มหาดไทยเป็นพื้นที่ในการแสดงฝีมือครั้งใหม่ อย่าลืมว่ามหาดไทยมีงบประมาณหลายแสนล้านที่จะใช้เป็นแต้มต่อทางการเมืองสำคัญได้ (ไม่นับรัฐวิสาหกิจในกำกับที่มีงบฯ มหาศาล)

5. ต้องรวบรัดปรับ ครม. เพราะเหตุการณ์วันที่ 13 มิถุนายนที่จะถึงนี้ จะเป็นการชี้ชะตาสำคัญของนายทักษิณในฐานะผู้มีอิทธิพลแห่งพรรคเพื่อไทย

หากผลออกมาเป็นบวก ก็เป็นที่ยินดีต่อฝ่ายสีแดง แต่ถ้าผลออกมาเป็นลบ การจัดตั้ง ครม.ใหม่ ยึดกระทรวงสำคัญคืนจากพรรคร่วมรัฐบาลไว้ก่อน อย่างน้อยผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทยก็จะได้วางใจได้ว่าพรรคพอมีช่องทาง “ไปรอด” รัฐบาลแพทองธารก็อาจประคองเรือแล่นไปถึงฝั่งได้

คําถามว่าภูมิใจไทย “ตอบโต้” การขยับทางการเมืองนี้ของขั้วสีแดงอย่างไร?

ต้องยอมรับว่าช่วงนี้ “ระดับนำของขั้วน้ำเงิน” ลดเพดานการปะทะกับขั้วสีแดงลงเยอะ (เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา)

กรณีในศึกอภิปรายงบฯ ที่ผ่านมาก็ได้เห็นบทบาทแกนนำระดับสูงอย่าง ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ที่รับรู้กันดีว่าเขาเป็น “ตัวส่งสัญญาณการเมืองสำคัญของพรรค” ปราศรัยให้รัฐบาลเพื่อไทยแจกเงินหมื่น หากไม่ทำ นายกฯ เท้ง มาแน่

มองเผินๆ คล้ายโจมตี แต่อีกนัยยะหนึ่ง ชาดาและภูมิใจไทยกำลังเตือนเพื่อไทยว่า ถ้าไม่ทำอะไร ภารกิจที่เคยจับมือกันเพื่อสกัดส้ม จะพังพินาศในการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกด้วย เช่นเดียวกับไชยชนก ชิดชอบ ที่เคยแข็งกร้าวรอบก่อน รอบนี้ก็อ่อนลง

แต่กรณีการรุกคืบเอากระทรวงคืนนั้น ภูมิใจไทยเห็นสัญญาณนี้มานาน จึงต้องแก้เกมโดยใช้ “ระดับนำ” ออกศึก

เริ่มต้นแบบเบาๆ กับท่าทีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะแกนนำสีน้ำเงินไปออกรายการข่าวดังมีใจความสำคัญคือในอนาคตก็อาจจะหันไปจับมือกับพรรคส้มได้หากไม่มีนโยบายแก้ไข ม.112 ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับ ครม.และข่าวถูกยึดเก้าอี้ มท.1

ตามมาด้วยการทำสงครามผ่าน “ตัวแทน” ทั้งการเมืองในระบบและนอกระบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้ ส.ส.ออกมาขย่มรัฐบาลทางอ้อม ให้เห็นว่าขั้วสีแดงอ่อนประสิทธิภาพกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

หรือจะเป็นกรณี เสี่ยตือ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตนักการเมืองรุ่นใหญ่ บิดาของภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ และกรวีร์ ปริศนานันทกุล 2 ส.ส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความตั้งคำถามถึงประเด็นครอบงำพรรคของนายทักษิณ หลังจากเดือนก่อนเพิ่งจะโพสต์เชียร์ให้ขั้วน้ำเงินถอนตัวจากรัฐบาล

นี่คือตัวอย่างเกมกดดันโชว์ความ “เก๋าเกม” สไตล์สีน้ำเงิน เพื่อทำให้ทุกการขยับของค่ายสีแดง ไม่ได้ราบรื่นแบบที่หวัง

มีคำถามว่าเพื่อไทยจะอยู่กันไปแบบนี้ ไม่ปรับ ครม.ได้หรือไม่?

คำถามนี้แทบจะเห็นตรงกันในหมู่ผู้ติดตามการเมืองแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ด้วยบริบทของรัฐบาล และความจำเป็นทางการเมือง ยังไงเพื่อไทยก็ต้องดึงกระทรวงมหาดไทยคืนจากค่ายสีน้ำเงิน

แน่นอนการขยับครั้งนี้มีความเจ็บปวดเสียหายเกิดในขึ้นซีกรัฐบาล เพราะเป็นการกระทำ “รุกคืบ” ต่อภูมิใจไทย เพื่อไทยเองก็ “เสี่ยง” ภูมิใจไทยก็ “เข้าเนื้อ”

แต่ในมุมมองของผู้นำค่ายสีแดง ความเจ็บ-เสี่ยง ครั้งนี้ เพื่อหวังให้มัน “จบ” มากกว่าเดิม เพราะถ้าเป็นแบบเดิม มันเจ็บ “ยิ่งกว่า”

“สงคราม ส่ง(มท.1 คืน)ด่วน” จึงปรากฏขึ้นเซอร์ไพรส์คอการเมือง

ดังที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สงคราม ส่ง(มท.1 คืน)ด่วน

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th/weekly