สืบสวนภาค 2 ปฎิบัติการขยายผลจับคอกม้าขบวนการฟอกเงินแก๊งคอลฯ
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2(ผบก.สส.ภ.2) เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 นำกำลังจับกุม น.ส.ทิพย์ดารา หรือเจ๊ปู (สงวนนามสกุล) ชาว ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และนายไกรเดช หรือเดช (สงวนนามสกุล) ชาว ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สองสามีภรรยา ผู้สั่งการให้มารับคนที่หน้าด่านคลองลึก เพื่อพาส่งที่จุดลักลอบข้ามแดนบ้านยายหมู ชาวกัมพูชา บ้านวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อนำพาลักลอบ ข้ามแดนไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา นอกจากนี้แล้วยังพบผู้ร่วมกระบวนการเป็นธุระจัดหาฯ เพิ่มเติมคือนายพีระพัฒน์ (สงวนนามสกุล)ชาว อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา และ นางสุรัตน์(สงวนนามสกุล) ชาว อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา สองแม่ลูก เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ธีระชัย กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา บก.สส.ภ.2 ร่วมกันจับกุมนายชอบ (สงวนนามสกุล) ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสาธารณะทะเบียนป้ายดำ รับส่งบัญชีม้า และรับผลประโยชน์ นายปราชญ์ปรัศว์ หรือเต้ (สงวนนามสกุล)ชาวจังหวัดปราจีนบุรี ทำหน้าที่สั่งการ , ประสานงานการรับ-ส่งต่อไปยังจุดข้ามแดนช่องทางธรรมชาติ (ช่องเจ๊หมู) (สนับสนุนยานพาหนะ และรับผลประโยชน์จากการนำพาบุคคลข้ามแดนไปทำงานที่ออฟฟิศแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประเทศกัมพูชา) และนางแจ่มใส(สงวนนามสกุล) ชาวจังหวัดสระแก้ว (ทำหน้าที่สั่งการ , ประสานงานการรับ-ส่งต่อไปยังจุดข้ามแดนช่องทางธรรมชาติ (ช่องเจ๊หมู) ชาวกัมพูชา บ้านวังวน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สนับสนุนยานพาหนะ และรับผลประโยชน์จากการนำพาบุคคลข้ามแดนไปทำงานที่ออฟฟิศแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประเทศกัมพูชา) พร้อมด้วยของกลางสมุดบัญชีม้าจำนวนหนึ่ง โดยกล่าวหาว่าร่วมกันเป็นธุระจัดหาบัญชีม้า ต่อมาจึงรวมพยานหลักฐานและประสานงานกับ สภ.คลองลึก ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 4 คนในการจัดหาและนำพาบัญชีม้าเพื่อข้ามแดนไปทำงานสแกนหน้ ข้อหาร่วมกันเป็นธุระจัดหาบัญชีม้า
ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่าเดิมบัญชีม้าจะถูกนำพาข้ามไปทำงานที่ออฟฟิศสแกนใบหน้า ฝั่งเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ขบวนการจัดหาบัญชีม้ามีลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งการจัดหาบุคคลไปเปิดบัญชีธนาคาร , แท็กซี่หรือรถยนต์รับจ้างป้ายดำ รับ-ส่ง บัญชีม้าจากต้นทางไปถึงปลายทาง และจะมีคนท้องถิ่นมารับต่ออีกทอดหนึ่ง ลักลอบนำพาข้ามแดนไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา ปัจจุบันด้วยภาวะความตรึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการซีลชายแดน ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำงานได้ยากขึ้น ต้องเปลี่ยนแผนการเอาเงินออกจากบัญชีโดยกดเอทีเอ็มหรือถอนหน้าเคาน์เตอร์ หรือใช้บัญชีม้าจีนถอนเงินออกแล้วบินออกไป จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนทุกคนว่า บัญชีม้าถือเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการจัดหาบัญชีม้ามีความผิดฐาน เป็นธุระจัดหาบัญชีม้า มีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี ปรับ 500,000 บาท ผู้เปิดบัญชีม้า มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 300,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาศาลลงโทษจำคุกเกือบทุกราย ขอให้ประชาชนอย่าเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งการจัดหาบัญชีม้า และเป็นผู้เปิดบัญชีม้า หรือนำพาบัญชีม้าข้ามแดน นอกจากนี้แล้ว หากบัญชีม้ามีเงินจากการฉ้อโกง หลอกลวงโอนเข้าบัญชีจะมีความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งข้อหาฟอกเงิน และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อีกส่วนหนึ่งด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สืบสวนภาค 2 ปฎิบัติการขยายผลจับคอกม้าขบวนการฟอกเงินแก๊งคอลฯ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th