โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

สรุปประเด็นควรรู้ "ทักษิณ ชินวัตร"

ทันหุ้น

อัพเดต 17 ก.ค. เวลา 23.41 น. • เผยแพร่ 17 ก.ค. เวลา 23.41 น.

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์และปาฐกถาพิเศษเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในหลายประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศไทย ทันหุ้นสรุปให้ดังนี้

ประเด็น การแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่

◦ นายทักษิณยืนยันว่า ขณะนี้ทราบว่าได้มีการเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ได้แล้ว และกำลังจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่จะถึงนี้ ซึ่งตนไม่รู้เรื่องว่าเป็นใคร

◦ เดิมมีกำหนดจะนำเข้า ครม. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่มีการเลื่อนออกไปเพื่อตรวจสอบประวัติให้เรียบร้อยก่อน

◦ เมื่อถูกถามถึงชื่อของผู้ว่าฯ คนใหม่ว่าจะมีการเปลี่ยนชื่อหรือไม่ หรือจะเป็นชื่อขึ้นต้นด้วย "ว." หรือ "ร." นายทักษิณได้ปฏิเสธที่จะตอบและโยนให้ไปถาม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ

◦ นายทักษิณยังเล่าถึงประสบการณ์ในอดีตสมัยที่ตนเป็นนายกฯ ใหม่ๆ ว่ารองผู้ว่าแบงก์ชาติจะต้องเข้ามาอธิบายเรื่องเศรษฐกิจเดือนละครั้ง และเคยมีการทำนาย GDP ทั้งที่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องการใช้งบประมาณ โดยที่นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าทายผิดก็ทายใหม่ได้

ประเด็น มาตรการลดค่าครองชีพและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย: นายทักษิณเน้นย้ำถึงความสำคัญของการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยระบุว่าโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้มากขึ้น

▪ เขาเป็นผู้เสนอให้สร้างรถไฟฟ้า 10 สาย และเห็นว่าปัจจุบันคนยังใช้ไม่มากนักเนื่องจากขาดระบบขนส่งเชื่อมต่อ (feeder)

▪ เสนอให้มีการเปลี่ยนรถเมล์ให้เป็นระบบ feeder เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จและลดจำนวนรถบนท้องถนน

▪ นอกจากนี้ ยังเสนอให้ทำ ถนนชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charging Roads) เหมือนในต่างประเทศ เพื่อนำเงินส่วนนี้มาอุดหนุนผู้ใช้บริการรถสาธารณะ

▪ นายทักษิณเร่งรัดให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 2-3 เดือน

โครงการแลนด์บริดจ์: นายทักษิณแสดงความเบื่อหน่ายที่กฎหมายยังไม่เข้าสู่สภาฯ และเปรียบเทียบกับเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาท ที่เขาเคยพูดว่าเรื่องเร่งด่วนควรออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ได้ แต่ก็มักจะถูกร้องเรียนอยู่ดี

การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน: นายทักษิณกล่าวว่าการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนจะมีลักษณะคล้ายกับ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) โดยเล่าถึงสมัยที่ตนเคยเรียกเจ้าของธนาคารมาคุยเพื่อขอซื้อสินทรัพย์ 50% ซึ่งได้รับการตอบรับ

การกระตุ้น GDP: เขาเน้นย้ำว่าหาก GDP เติบโต สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ก็จะลดลง โดยคาดว่าหนี้สาธารณะควรอยู่ที่ 50-60% หาก GDP โตตามที่ควรจะเป็น

รัฐวิสาหกิจซื้อหุ้นคืน: รัฐวิสาหกิจกำลังจะเริ่มซื้อหุ้นของตัวเองคืน เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพของตนเอง และเพิ่งมีการยกเว้นภาษีในเรื่องนี้

บทบาทของนายทักษิณและสถานการณ์ทางกฎหมาย

คดีมาตรา 112: นายทักษิณ เชื่อว่า คดีมาตรา 112 ของเขาจะ สิ้นสุดลงในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ หลังจากไปให้ข้อมูลกับศาลแล้ว

แผนการเดินทางไปต่างประเทศ: หากคดีสิ้นสุดลง เขาจะเดินทางไปพบเพื่อนคนหนึ่งเพื่อพูดคุยเรื่องการลงทุน โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ที่จะนำเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่เป็นภาระกับประชาชนผู้ใช้บริการในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้กำลังซื้อของคนไทยดีขึ้น

ไม่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี: นายทักษิณยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี รัฐบาลต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง

บทบาท "เสมียนของประเทศ": นายทักษิณกล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และเขาขออาสาเป็น "เสมียนของประเทศ" คอยรวบรวมปัญหาและแนวทางแก้ไขส่งให้ นายกฯ และรัฐมนตรีพิจารณา

ความคิดเห็นเกี่ยวกับการพักงานของ น.ส.แพทองธาร: เขารู้สึกเสียใจที่ น.ส.แพทองธาร ถูกพักงานด้วยเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ("เรื่องเฮงซวย") และเล่าว่าเพื่อนชาวสิงคโปร์เห็นแล้วบอกว่าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการแข่งขันกับไทยแล้ว ซึ่งเขาเห็นว่าไม่ควรทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระ ควรหันหน้าเข้าหากันเพื่อพัฒนาประเทศ

ประเด็นทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

การเมืองต้องได้รับการสนับสนุนและเดินหน้าได้: นายทักษิณกล่าวว่าการเมืองไม่สามารถรอการสนับสนุน 100% ได้ เพราะมนุษย์มีความเห็นที่แตกต่างกัน หากคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ก็ต้องอธิบายให้คนเข้าใจ และการเมืองต้องได้รับการสนับสนุนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ก็ต้องเดินหน้าได้ด้วย

ความขัดแย้งทางการเมือง: เขาย้อนรำลึกถึงสมัยที่เพิ่งเข้าสู่การเมืองว่านักการเมืองยังคงพูดคุยกันได้แม้จะด่ากันในสภาฯ แต่หลังจากพรรคไทยรักไทยเติบโตมากเกินไป ก็เริ่มคุยกันไม่เข้าใจและเอาเป็นเอาตายกัน ซึ่งเขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ยอมรับสภาพการเป็นผู้ชนะและผู้แพ้ในเกมการเมือง

เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และความปลอดภัย: เขาเน้นความสำคัญของการเร่งให้เมืองท่องเที่ยวเป็นสมาร์ทซิตี้ โดยการติดตั้งกล้อง AI ให้ทั่วถึง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย เขายังเล่าถึงเหตุการณ์ที่มีคนนำระเบิดควันมาทิ้งใกล้บ้านเขาในช่วงเช้ามืด และตำรวจสามารถติดตามหาภาพได้จากร้านสะดวกซื้อ ทำให้เห็นถึงความสำคัญของระบบกล้องที่ดี

ความสัมพันธ์กับกัมพูชา: นายทักษิณกล่าวว่าไม่ควรคุยกับคนที่คุยแล้วอัดเทป และเรื่องความสัมพันธ์กับกัมพูชาไม่ควรมีปัญหามากนัก เขาเชื่อว่าการพัฒนาร่วมกันไม่จำเป็นต้องใช้การแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน แต่เป็นเพราะการเมืองไทยไม่แข็งแรง เขายังปฏิเสธข่าวลือเรื่องการทำธุรกิจหรือทิ้งทองไว้ที่กัมพูชา

ความสัมพันธ์กับโดนัลด์ ทรัมป์ และภาษีนำเข้า: นายทักษิณกล่าวถึงเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าการรู้จักกันเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเจรจาว่าพอใจหรือไม่พอใจ ไม่ใช่การลดราคาพิเศษเพราะรู้จักกัน เขากล่าวว่าการพบปะ "ทีมไทยแลนด์" ที่บ้านพิษณุโลกนั้นมีการพูดคุยกับครอบครัวทรัมป์เพราะรู้จักกัน แต่ไม่มีอะไรดีไปกว่าการเจอหน้ากันโดยตรง

แนวโน้มสงครามโลก: เขาเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่จะเป็นเพียงสงครามในจุดเล็กๆ มากกว่า เนื่องจากหลายประเทศมีความมั่งคั่งสูงแล้ว

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...