โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

หุ้นไทยวันนี้ (24 มิ.ย.) ปิดตลาดพุ่ง 37.23 จุด คลายกังวล 'ตะวันออกกลาง'

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 24 มิ.ย. เวลา 03.02 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. เวลา 09.47 น.

หุ้นไทยวันนี้ (24 มิ.ย.) ปิดตลาดหุ้นเย็นอยู่ที่ 1,100.01 จุด เพิ่มขึ้น 37.23 จุด หรือ 3.50% โดย ดัชนีหุ้นไทย เคลื่อนไหวผันผวนทั้งวัน ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,100.01 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,074.96 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 52,758.47 ล้านบาท

ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (24 มิ.ย.)

หุ้นไทยวันนี้ ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  • DELTA ราคาปิด 104.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.25 บาท หรือ 8.57% มูลค่าซื้อขาย 4,118.30 ล้านบาท
  • PTTEP ราคาปิด 111.00 บาท คงที่ 0.00 บาท หรือ 0.00% มูลค่าซื้อขาย 3,107.10 ล้านบาท
  • ADVANC ราคาปิด 278.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.46% มูลค่าซื้อขาย 2,966.96 ล้านบาท
  • PTT ราคาปิด 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.67% มูลค่าซื้อขาย 2,465.60 ล้านบาท
  • AOT ราคาปิด 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 5.17% มูลค่าซื้อขาย 2,380.54 ล้านบาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นสามสิบกว่าจุดในวันนี้ เนื่องจากปัจจัยบวกจากตลาดภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง ภายหลังจากความกังวลเรื่องความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ลดลง ส่งผลให้ความเสี่ยงในตลาดลดลง ราคาน้ำมัน และ ราคาทองคำ ปรับตัวลดลง ประกอบกับไม่มีปัจจัยลบในประเทศเพิ่มเติม นอกจากนี้ รัฐบาลและกระทรวงการคลังมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินหนึ่งแสนล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) อาจมีการปรับตัวลงบ้างภายหลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างแรงในวันนี้ โดยนักลงทุนควรจะติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) เพื่อดูทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งคาดว่าอาจมีการ "คงอัตราดอกเบี้ย" ไว้ก่อน โดยคาดว่าวันพรุ่งนี้แนวรับอาจอยู่ที่ 1,190 จุด และแนวต้านที่ 1,300 จุด

นายณัฐพลแนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ เนื่องจากไม่มีเงินใหม่เข้าตลาดประมาณหนึ่งไตรมาสแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากราคาหุ้นเหล่านี้ได้ปรับตัวลงมาอย่างมากแล้ว จึงมีโอกาสในการฟื้นตัวเมื่อมาตรการเริ่มมีผลบังคับใช้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...