โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อ้างเป็นความลับ ฟ้อง‘ฮุนเซน’อืด!

ไทยโพสต์

อัพเดต 09 ส.ค. เวลา 21.55 น. • เผยแพร่ 09 ส.ค. เวลา 17.01 น.

เป็นความลับ! “มาริษ” เผยความคืบหน้าฟ้องกัมพูชากับองค์กรระหว่างประเทศ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและศึกษาเคสตัวอย่างจากคดีที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ หวั่นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยก่อนเดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ และการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ถึงความคืบหน้าการรวบรวมพยานหลักฐานที่จะฟ้องร้องผู้สั่งการฝ่ายกัมพูชาในส่วนขององค์กรระหว่างประเทศ และภายในประเทศว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน วันนี้จึงลงพื้นที่ร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะรวบรวมหลักฐาน

โดยในส่วนการฟ้องร้องภายในประเทศ จะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายในประเทศ ในส่วนการฟ้องร้องในองค์กรระหว่างประเทศอยู่ระหว่างการศึกษาเคสต่างๆ เนื่องจากมีหลายเคสที่มีการฟ้องร้องในลักษณะเดียวกัน ซึ่งการฟ้องร้องในองค์กรระหว่างประเทศมีหลายระดับ และมีขั้นตอนอีกมาก แม้เราจะมีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว แต่ยังมีกรอบที่องค์กรระหว่างประเทศ ที่เขาจะใช้ประกอบการพิจารณาคดีประเภทอาชญากรรมสงคราม (Criminal of War) จึงต้องรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด พร้อมย้ำว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษา และมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานในประเทศเพื่อกำหนดขั้นตอนต่อไป เนื่องจากแต่ละคดีมีความใกล้เคียงหรือแตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงต้องดูให้ดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นเคสของประเทศใดบ้าง เนื่องจากจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างการประสานงานในการเตรียมการนำคณะผู้แทนกาชาดสากล หรือ ICRC ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ระหว่าง 11-14 ส.ค.นี้ เพื่อเยี่ยมและสัมภาษณ์ประชาชนไทย รวมถึงสถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีพื้นที่เป้าหมายที่เป็นพลเรือนของกัมพูชา
สำนักงาน คปภ.ออกมาตรการ “ค่าสินไหมทดแทนกรุณา” เพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา

ด้าน น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ขอให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยเร่งสำรวจความเสียหาย และหารือกับบริษัทประกันภัยเกี่ยวกับแนวทางการตีความเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยให้ชัดเจน เพื่อพิจารณาการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยเร็ว จากเหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พลเรือนไทยได้รับความเสียหายทั้งต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย และทรัพย์สินนั้น

ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. พร้อมเป็นคนกลางเข้าร่วมเจรจากับบริษัทประกันภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนตามความเหมาะสม โดยเบื้องต้นสำนักงาน คปภ.เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายคำว่า “สงคราม (war)” แต่หากบริษัทเห็นว่าเข้าข้อยกเว้นอื่นใดเพิ่มเติมที่จะไม่คุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย ต้องพิจารณาถ้อยคำตามกรมธรรม์ประกันภัยและข้อเท็จจริงเป็นรายกรณีไป

โดยหากปรากฏว่าเข้าข้อยกเว้นอื่นใดตามกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทสามารถช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน โดยพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในลักษณะ “ค่าสินไหมทดแทนกรุณา” ได้

“รัฐบาลบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเยียวยาประชาชน โดยจะคุ้มครอง ดูแล และชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อให้สิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้ ได้กำชับให้บริษัทประกันภัยเร่งดำเนินการด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ และเป็นธรรมในการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนในแต่ละรายกรณี

ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าสำนักงาน คปภ.จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้วยความเป็นกลาง รอบคอบ และเคร่งครัด เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนผู้เอาประกันภัย” น.ส.ศศิกานต์กล่าว.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...