โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘วีรพัฒน์’ ย้ำไทยเหนือกว่าด้านเหล่าทัพ ชี้รัฐต้องรักษาความชอบธรรมกันประเทศที่ 3 เข้ามา

เดลินิวส์

อัพเดต 10 ธันวาคม 2568 เวลา 23.04 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
‘วีรพัฒน์’ ย้ำไทยเหนือกว่าด้านเหล่าทัพ ชี้ ต้องรักษาความชอบธรรม-กันประเทศที่ 3 เข้ามา แนะรัฐบาลอย่าชูแต่ ‘การทหาร’ เพราะยังมีทางเลือกด้าน ‘การทูต-การเจรจา’

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) 2543-2544 ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในมุมมองของนักวิชาการ มองว่ารัฐบาลได้เปรียบหรือควรจะปรับทีการแสดงออก ว่า หากพิจารณาในเชิงยุทธศาสตร์ ไทยมีศักยภาพทางทหารเหนือกว่าอยู่แล้ว ทั้งด้านขีดความสามารถ อาวุธยุทธโธปกรณ์ และความพร้อม จึงไม่ควรคิดว่ากัมพูชามีความได้เปรียบทางทหาร แต่เมื่อไทยได้เปรียบด้านนี้ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เสียเปรียบด้านอื่น เช่น เรื่องความชอบธรรม หรือการใช้กลไกทางการทูต ไทยมีสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศที่จะปกป้องตนเองและตอบโต้เมื่อถูกรุกราน

นายวีรพัฒน์ กล่าวต่อว่า หากไทยดำเนินการเกินกรอบ ก็อาจเปิดช่องให้ถูกตีความว่าใช้กำลังเกินสมควร ซึ่งอาจทำให้ไทยเสียเปรียบในเชิงกฎหมาย เช่น กัมพูชาอาจกล่าวอ้างว่าไทยไม่ได้ปกป้องตนเอง แต่ตั้งใจทำลายกัมพูชาไม่ให้มาโจมตีเพิ่ม ดังนั้น แนวทางที่ควรยึดคือปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด คือทำให้ชัดว่าไทยมีสิทธิป้องกันตนเองเมื่อถูกรุกราน แต่การตอบโต้ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็ควรกลับเข้าสู่กระบวนการหยุดยิง แม้ปัจจุบันรูปแบบความขัดแย้งมักเกิดการยิงและหยุดยิง วนซ้ำเช่นนี้

นายวีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า เพื่อไม่ให้สถานการณ์นำไปสู่การปะทะซ้ำซาก จึงจำเป็นต้องมีบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู), คณะกรรมาธิการร่วม หรือหารือทวิภาคี เพื่อป้องกันการใช้กำลังอย่างต่อเนื่อง ย้ำว่าปัญหาการปะทะในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดจากพื้นที่ แต่เกิดจากบริบทการเมืองที่เปลี่ยนไป การแก้ปัญหาจึงไม่ใช่การใช้กำลังเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพึ่งพากลไกทางการเมืองและรักษาความชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศให้มั่นคง

นายวีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า เมื่อประเทศมหาอำนาจมองเหตุขัดแย้งไทย-กัมพูชา เขาไม่ได้ให้ความสำคัญเท่ากรณีใหญ่ระดับโลก แต่มีแรงจูงใจจะแสดงบทบาทผู้นำ เช่น กรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศจะโทรฯ หาไทยและกัมพูชา ซึ่งเป็นการแสดงบทบาทเป็นมหาอำนาจ ไทยจึงต้องระมัดระวังไม่ให้การสื่อสารหรือการตอบโต้เปิดช่องให้ประเทศที่ 3 เข้ามามีบทบาทจนไทยเสียเปรียบ

นายวีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ยากที่สุดคือการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจเหตุการณ์ ว่าความขัดแย้งเกิดจากอะไร และจะป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอย่างไร คนไทยไม่ต้องการให้คนกัมพูชาเสียชีวิต และคนกัมพูชาก็คิดไม่ต่างกัน แต่ผู้นำการเมืองต้องตอบให้ได้ว่าเหตุปะทะเกิดขึ้นซ้ำได้อย่างไร และจะป้องกันอย่างไร ขอเตือนว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ต้องระวังเรื่องการสื่อสารโดยไม่ควรพูดเฉพาะทางเลือกด้านการทหาร เพราะไทยยังมีทางเลือกด้านการทูตและการเจรจาอีกด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...