กลาโหมประณามการเปิดฉากยิงของกัมพูชา ยัน ไทยโต้ตามกฎใช้กำลัง
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทยด้วยปืนเล็กยาว ในพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน จ.ศรีสะเกษ ในขณะที่ทหารไทยกำลังปฏิบัติภารกิจปรับปรุงเส้นทาง จากภูผาเหล็กไปยังจุดตรวจเพียงฟ้า เมื่อเวลา 14.15 น. ของวันที่ 7 ธ.ค. 2568 เป็นเหตุให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย โดยถูกยิงที่ขา 1 นาย และถูกยิงที่เสื้อเกราะบริเวณหน้าอก 1 นาย โดยมีรอยฟกช้ำ แน่นหน้าอก ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 นาย ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ และอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยแล้ว ต่อมาฝ่ายกัมพูชายังได้มีการใช้ปืนไร้แรงสะท้อนยิงเข้ามาในพื้นที่ของไทยอีก เป็นเหตุให้ฝ่ายไทยยิงโต้ตอบ ตามขั้นตอนของกฏการใช้กำลัง และหลักการสากลอย่างได้สัดส่วน จนสถานการณ์การปะทะได้ยุติลงเมื่อเวลา 14.50 น.
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.15 น. พล.อ. เตีย เซยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน และฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ยิงตอบโต้ ซึ่งเป็นการมุ่งใช้สื่อสังคมออนไลน์แจ้งข้อความที่เป็นเท็จ โดยปราศจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยรอบคอบ และขาดความรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่มีหลักฐานชัดเจนว่าทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการใช้อาวุธของทหารกัมพูชา
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวย้ำว่า กระทรวงกลาโหมขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่มีเจตนาสร้างสถานการณ์ความขัดแย้งให้ทวีความรุนแรง โดยฝ่ายกัมพูชาได้มีการยั่วยุในรูปแบบต่าง ๆ เป็นระยะ ๆ ตลอดตามแนวชายแดน ทั้งนี้ เหตุการณ์ล่าสุด ฝ่ายกัมพูชาได้มีการกระทำที่มุ่งหมายถึงชีวิตของกำลังพลฝ่ายไทย โดยกองทัพไทยพร้อมที่จะโต้ตอบตามขั้นตอนการปฏิบัติอย่างเต็มที่ อีกทั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำไปยังหน่วยในพื้นที่ ให้เพิ่มความระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัย และได้มอบหมายการปฏิบัติให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตลอดจนผู้บังคับหน่วยในทุกระดับให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยให้สามารถตอบโต้ได้ในทันที โดยยึดหลักตามกฏการใช้กำลัง
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในห้วงที่สถานการณ์ยังมีความละเอียดอ่อน ได้มีการอพยพประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงในแต่ละพื้นที่ เพื่อรอดูและประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยต่อไป กระทรวงกลาโหมขอยืนยันความพร้อมของหน่วยในพื้นที่ตามแนวชายแดนในการปฏิบัติเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและอธิปไตยของชาติอย่างเต็มขีดความสามารถ