โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เมื่อ 'วอดก้า' เป็นหนึ่งสาเหตุสู่การปฏิวัติรัสเซีย

Histofun Deluxe

เผยแพร่ 01 พ.ย. 2565 เวลา 10.06 น.
วอดก้าเครื่องดื่มขึ้นชื่อของรัสเซีย

ในเดือนกันยายน 1914 ระหว่างที่ซาร์นิโคลัสที่ 2 ทรงอยู่แนวหน้านำกองทัพรัสเซียเข้าสู่สมรภูมิสงครามโลกครั้งที่ 1 พระองค์ก็ได้ออกคำสั่งหนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือการสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนรัสเซียผลิต ทำการค้า หรือบริโภควอดก้าอย่างเด็ดขาด

พระเจ้าซาร์ไม่มีทางรู้เลยว่า การสั่งห้ามไม่ให้ชาวรัสเซียยุ่งเกี่ยวกับวอดก้าครั้งนี้ จะกลายเป็นหนึ่งชนวนที่นำไปสู่การปฏิวัติครั้งใหญ่ ที่จะทำให้พระองค์หลุดจากบัลลังก์

วอดก้าเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของรัสเซีย (แม้จะมีจุดกำเนิดที่โปแลนด์) ชาวรัสเซียมีความผูกพันกับวอดก้ามาเป็นเวลาช้านาน ถึงขึ้นที่ว่าชื่อวอดก้าในภาษารัสเซีย มีความหมายว่า 'น้ำ' เฉย ๆ

วอดก้ายังมีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจของจักรวรรดิรัสเซีย เพราะรายได้ทั้งหมดของประเทศในตอนนั้น 1 ใน 3 มาจากวอดก้า

แล้วอะไรที่ทำให้พระเจ้าซาร์ออกคำสั่งนี้ หลัก ๆ เกี่ยวข้องกับเรื่องประสิทธิภาพการสู้รบของทหาร เพราะย้อนกลับไปในปี 1905 เมื่อรัสเซียพ่ายแพ้สงครามต่อญี่ปุ่น วอดก้าได้ตกเป็นจำเลยว่า มีส่วนสำคัญต่อความพ่ายแพ้ เพราะมีบันทึกว่า ทหารเกณฑ์รัสเซียหลายคน ขาดประสิทธิภาพในการรบ เพราะพวกเขามีอาการติดเหล้าและมึนเมาขณะสู้รบ

สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1904-05

“ทหารญี่ปุ่นพบว่า ทหารรัสเซียหลายพันนายพากันเมามาย ทหารญี่ปุ่นใช้ดาบปลายปืนสังหารทหารเหล่านี้ได้ง่ายดาย เหมือนสังหารหมูจำนวนมาก” ข้อความบางส่วนจากหนังสือพิมพ์รัสเซีย

หนังสือพิมพ์ Neue freie Presse ของออสเตรีย ได้เคยกล่าวว่า ญี่ปุ่นไม่ได้เอาชนะรัสเซีย แต่เป็นแอลกอฮอล์ต่างหากที่ชนะ ประเด็นเกี่ยวกับแอลกอฮอล์และประสิทธิภาพของทหาร ไม่ได้เกิดขึ้นกับรัสเซียเท่านั้น เพราะในปี 1910 ไกเซอร์วิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมัน ก็เคยกล่าวว่า ในสงครามครั้งต่อไป ประเทศที่ดื่มสุราน้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะ

ดังนั้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มต้นขึ้น ซาร์นิโคลัสจึงออกคำสั่งแบนวอดก้าภายในประเทศ ไม่ใช่แค่เหตุผลเกี่ยวกับการทหารเท่านั้น เพราะพระองค์ยังเชื่อว่า คำสั่งดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรงในครอบครัว รวมถึงปัญหาสุขภาพของชาวรัสเซียได้

หลังจากออกคำสั่งไป ปรากฏว่าปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ก็มีอัตราที่ลดลงจริง แต่ในอีกมุมนึง เมื่อปราศจากรายได้จากวอดก้า เงินจำนวนมหาศาลก็ได้หายไปด้วย โดยเฉพาะในสภาวะสงครามที่ประเทศต้องการเงินทุน ส่งผลให้รัสเซียเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ และข้าวยากหมากแพงตามมา

และอย่างที่รู้ไม่ได้เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ชาวรัสเซียจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับวอดก้าหรือแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ในตอนนั้นชาวรัสเซียก็ได้คิดค้นแอลกอฮอล์ชนิดใหม่แทนที่วอดก้าอย่างเช่น มูนไชน์ (Moonshine) ที่ผลิตจากธัญพืช

มูนไชน์

ความต้องการมูนไชน์มีมากจนล้นตลาด ทำให้ธัญพืชจำนวนมากถูกนำไปผลิตเป็นมูนไชน์ ซึ่งมันก็ทำให้ปริมาณของธัญพืชที่จะนำไปผลิตเป็นขนมปัง มีจำนวนน้อยลงไปด้วย ประจวบกับยังเกิดภาวะแห้งแล้งธัญพืชปลูกไม่ขึ้น ขนมปังจึงมีราคาแพงและขาดตลาด กลายเป็นปัญหาปากท้องของประชาชน

สุดท้ายในเดือนมีนาคม 1917 ปัญหาปากท้องและความไม่พอใจต่อรัฐบาลพระเจ้าซาร์ที่ถูกซุกซ่อนมานาน ก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงและจลาจลภายในกรุงเปโตรกราดหรือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในตอนนั้น การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ (February Revolution) จึงเริ่มต้นขึ้น (รัสเซียใช้ระบบปฏิทินจูเลียนที่ช้ากว่าที่อื่น ทำให้ช่วงที่เกิดเหตุการณ์ตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ตามปฏิทินจูเลียน)

การปฏิวัติกุมภาพันธ์จบลงที่ซาร์นิโคลัสที่ 2 ทรงสละราชสมบัติ ระบอบกษัตริย์รัสเซียสิ้นสุดลง แต่ความวุ่นวายยังคงเกิดขึ้นต่อไป ก่อนที่ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน กลุ่มบอลเชวิกของวลาดิเมียร์ เลนิน จะก่อการปฏิวัตินำพาให้รัสเซียกลายเป็นรัฐคอมมิวนิสต์แห่งแรกของโลก

แม้จะแปรเปลี่ยนเป็นยุคคอมมิวนิสต์ แต่คำสั่งแบนวอดก้ายังคงถูกบังคับใช้ต่อไป และยังขยายไปถึงมูนไชน์และแอลกอฮอล์ชนิดอื่นด้วย เนื่องจากรัฐบาลคอมมิวนิสต์มองว่า การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วน ดังนั้นการนำธัญพืชไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์จึงถูกสั่งห้ามไว้

คำสั่งแบนวอดก้าดำเนินต่อเนื่องยาวนานถึง 11 ปี ก่อนที่จะยุติลงในปี 1925 ในยุคของโจเซฟ สตาลิน

อ้างอิง

• Time. Tsar Nicolas II Thought Vodka Was Hurting Russians—But Banning It Helped Destroy His Empire. https://bit.ly/3AWrwYb

• ResearchGate. The Russian Vodka Prohibition of 1914 and Its Consequences. https://bit.ly/3zaai8G

• Russia Beyond. When the Tsar banned booze. https://bit.ly/2YAeBFf

• All That Interesting. How Vodka Shaped The Course Of Russian History. https://bit.ly/3o7kHeU

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...