โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แม่และเด็ก

Mom Brain : ทำไมมีลูกแล้วคุณแม่ถึงกลายเป็นคนขี้ลืม?!

Mood of the Motherhood

เผยแพร่ 23 พ.ค. เวลา 00.40 น. • Features

เมื่อก่อนคุณแม่อาจเคยเป็นคนที่สามารถจัดการอะไรได้ดี หน้าที่การงานไม่เคยตกหล่น นัดหมายไม่เคยพลาด แต่พอมีลูก กลับรู้สึกว่าตัวเองหลงลืมง่าย วางของไว้แป๊บเดียวก็ลืมว่าวางตรงไหน จะคิดจะทำอะไร ก็เผลอลืมไปซะเฉยๆหากคุณแม่มีอาการเช่นนี้ อาจเป็นสัญญาณของอาการ Mom Brain หรือ ภาวะแม่ขี้ลืม ที่คุณแม่หลายคนกำลังประสบปัญหาโดยไม่รู้สาเหตุ แม้ภาวะแม่ขี้ลืมจะไม่รุนแรงหรือเป็นอันตราย แต่ก็อาจทำให้คุณแม่สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง และมีเรื่องชวนให้หงุดหงิดใจมากขึ้นแล้วภาวะหลงลืมที่เกิดกับคุณแม่ คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง แล้วจะแก้ปัญหาให้ตรงจุดได้อย่างไร เรามีคำตอบมาให้ค่ะMom Brain คืออะไร

Mom Brain เป็นคำที่ใช้เรียกอาการหลงลืม ขี้ลืม หรือคิดอะไรไม่ค่อยออกที่มักเกิดขึ้นกับผู้หญิงตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด อาการนี้ไม่ได้เป็นโรคหรืออาการทางจิตเวช แต่เป็นภาวะทางสมองที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การนอนหลับไม่เพียงพอ และความเครียดสะสมจากบทบาทความเป็นแม่นั่นเองโดยทั่วไปแล้วภาวะนี้ไม่ใช่อาการอันตรายและจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อฮอร์โมนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ร่างกายได้พักผ่อนเพียงพอ และคุณแม่เริ่มปรับตัวกับชีวิตใหม่ได้ แต่หากอาการรุนแรง เช่น ลืมบ่อยจนกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน หรือมีอาการซึมเศร้าร่วม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการทำไมถึงกลายเป็นคนขี้ลืม

1. สมองปรับตัวเพื่อเลี้ยงลูกงานวิจัยจาก University of Barcelona พบว่า สมองของผู้หญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจดจำ การตัดสินใจ และอารมณ์ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้แย่ แต่เป็นการปรับตัวให้แม่พร้อมดูแลลูก เช่น มีความรู้สึกผูกพันกับลูกมากขึ้น ใส่ใจลูกมากขึ้น ทำให้พื้นที่การจดจำบางอย่างลดลง จึงทำให้อาการหลงลืมได้ง่าย2. การนอนหลับไม่เพียงพอเพราะการนอนหลับมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของสมองและการจดจำ แต่คุณแม่หลังคลอดกลับไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ทั้งการให้นมลูก ความกังวลเกี่ยวกับลูก ดังนั้นเมื่อนอนไม่พอ สมองจึงทำงานช้าลง และทำให้ขี้ลืมง่ายนั่นเอง3. ฮอร์โมนเปลี่ยนเมื่อคุณแม่คลอดลูก ระดับฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีบทบาทกับการทำงานของสมอง การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้สมองทำงานไม่เหมือนเดิม ช้า หรือหลงลืมได้ง่าย4. ภาระหน้าที่เพิ่มขึ้นหลังมีลูก ทำให้คุณแม่ต้องคิดเรื่องเลี้ยงลูก อาบน้ำ ป้อนนม จัดการเรื่องภายในบ้าน หรือแม้แต่ทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย ภาระงานและความรับผิดชอบเหล่านี้ทำให้สมองกักเก็บข้อมูลมากเกินไป ทำให้สมองก็ต้องเลือกเก็บสิ่งสำคัญและปล่อยบางเรื่องออกไป ซึ่งก็คืออาการลืมนั่นเองคุณพ่อก็เป็นได้!

งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า เมื่อผู้ชายกลายเป็นคุณพ่อ สมองของจะปรับตัวเพื่อรองรับบทบาทใหม่ช่นเดียวกับคุณแม่ แม้อาการจะไม่รุนแรงเท่าฮอร์โมนในร่างกายผู้หญิง แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นยกตัวอย่างงานวิจัยในปี 2022 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cerebral Cortex โดย Magdalena Martínez-García และคณะ พบว่า สมองของคุณพ่อในช่วงปีแรกหลังมีลูกมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสมองในบางส่วน โดยเฉพาะบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ทางสังคม คล้ายคลึงกับสมองของคุณแม่หลังคลอดแม้จะยังไม่มีชื่อเรียก Dad Brain อย่างเป็นทางการ แต่อาการเหล่านี้ก็พบได้ในคุณพ่อที่มีบทบาทดูแลลูกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงปีแรกของชีวิตลูก เช่น• ลืมสิ่งง่ายๆ เช่น ลืมกุญแจ ลืมของ ลืมนัด• เบลอ สมองมึนๆ จากการอดนอน• รู้สึกคิดอะไรไม่ค่อยออก เหมือนสมองประมวลผลได้ช้าลง• ไม่ค่อยมีสมาธิ โฟกัสได้ยากเมื่อมีเสียงรบกวนหรือความเครียดจากลูกเล็ก• อารมณ์แปรปรวนเล็กน้อยเพราะความเหนื่อยสะสมแล้วจะแก้ปัญหาขี้ลืมได้อย่างไร

• ยอมรับตัวเอง ไม่ตำหนิตัวเอง เพราะการเข้าใจและให้อภัยตัวเองคือก้าวแรกที่ดีที่สุด• ใช้ตัวช่วยให้มากขึ้น จดสิ่งสำคัญลงในสมุดหรือแอปฯ บนมือถือ ใช้ Post-it แปะเตือน หรือใช้ Reminder แจ้งเตือนในแต่ละวัน ช่วยลดความเครียดจากการต้องพยายามจำทุกอย่าง• พักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แม้ว่าการพักผ่อนเยอะๆ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องยากสำหรับคุณแม่หลังคลอด แต่ถึงอย่างนั้นการพักผ่อนก็ยังคงจำเป็นมากที่สุดอยู่ดี ลองหาเวลางีบสั้นๆ เมื่อมีโอกาส หรือแบ่งหน้าที่กับคนในครอบครัวให้ช่วยดูแลลูกบ้าง ก็จะช่วยทำให้พลังของคุณแม่กลับมาได้• อาหารบำรุงสมองก็สำคัญ การกินอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและร่างกาย ควรกินอาหารที่มีโอเมก้า 3 วิตามินบี12 ธาตุเหล็ก และโปรตีน เช่น ปลาแซลมอน ไข่ อะโวคาโด หรือถั่วต่างๆ ที่มีส่วนช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น• ออกกำลังกาย แม้จะไม่มีเวลามาก แต่การขยับร่างกายวันละนิด เช่น เดินเล่นกับลูก ยืดเส้นยืดสาย ก็ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและช่วยให้สมองปลอดโปร่งมากขึ้นอ่านบทความ: ลูกขี้ลืม: 6 เทคนิคที่จะช่วยให้ลูกเป็นเด็กจำเก่งมากขึ้นอ้างอิงtimeforbesoptumthisisneeded

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...