โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

พบคนกัมพูชารุกเข้ามาสร้างบ้านเรือนและถากถางทำกินฝั่งไทย ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จริง

77kaoded

อัพเดต 17 มิ.ย. เวลา 00.20 น. • เผยแพร่ 16 มิ.ย. เวลา 17.03 น. • 77Kaoded

สระแก้ว – พบบ้านเรือนคนกัมพูชา รุกเข้ามาฝั่งไทย ต.ป่าไร่ จ.สระแก้ว จริง และตรวจสอบภาพทางอากาศ พบมีการรุกมาสร้างบ้านพักและถากถางทำกิน และปักเขตอยู่ฝั่งไทย จนถึงเขตพื้นที่ สค.1 คนไทยลูกหลานชาวบ้านน้อย ป่าไร่ ที่มีข้อพิพาทเรื่องเอกสารสิทธิ์ ปัจจุบันถูกทหารปิดพื้นที่ห้ามเข้า ทำให้ฝั่งเขมรสามารถดำเนินการได้ตามอำเภอใจ แม้ทหารจะอ้างว่า ได้ทำหนังสือประท้วงแล้ว แต่กัมพูชาไม่สนใจ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสื่อของไทยรายหนึ่ง นำภาพคลิปและภาพ กรณี ตชด.911 ของกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย เหตุเกิดพื้นที่ หมู่ที่ 8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระบุว่า ทหารกัมพูชาและ ตชด.กัมพูชา ฐาน911 ได้ล่วงล้ำยึดครองเข้ามาจากเส้นเขตแดนถึงสองกิโลเมตร ทำลายหลักเขตเดิม ทำลายป้ายหมู่บ้านหนองดอ จนหมดสิ้น ลุกล้ำเข้ามาถึงสองกิโลเมตรตามแนวชายแดน ตั้งวัดและชุมชนจนติดถนนศรีเพ็ญ ของจังหวัดสระแก้ว ตามยุทธศาสตร์ของฮุนเซ็น ที่ไม่ลดละความพยายามกินดินแดนราชอาณาจักรไทย โดยให้ลูกเมียของทหาร เข้ายึดครองที่ดินทำกินจากชาวบ้านป่าไร่ โดยฮุนเซนให้ทุกหน่วยงานของเขมร อ้างแผนที่ และ MOU ที่พนมเปญได้ประโยชน์ 1:200,000 นั้น

ทั้่งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบภาพและคลิปดังกล่าว เป็นคลิปและภาพที่ถ่ายในช่วงเดือน ก.ค.65 ซึ่งทีมข่าว 77 ข่าวเด็ด ได้ลงพื้นที่กรณี ตชด.ฝั่งกัมพูชารุกเข้ามาอ้างสิทธิ์และยิงปืนใส่ขาวบ้านคนไทย ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ สค.1 ที่ได้รับมรดกตกทอดในฐานะลูกหลานชาวบ้านน้อย ป่าไร่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกับบ้านหนองดอ ที่ต้องอพยพออกมาจากพื้นที่ในช่วงสงครามล้างเผ่าพันธ์เมื่อ 40 ปีก่อน ปัจจุบันชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิ์ สค.1 จึงพยายามเข้าไปทำกินในพื้นที่ของตนเอง แต่ถูกกีดกันจากทหารฝังกัมพูชา อ้างว่า พื้นที่ดินแดนกัมพูชามาถึงถนนศรีเพ็ญ

ขณะที่คนไทยซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ สค.1 ได้เข้าไปถากถางทำกิน จนเกิดความขัดแย้งกระทั่ง ผวจ.สระแก้ว มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการฯ เข้าแก้ไข มีกรมที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปรังวัด แต่ทำได้แค่ 1 หลังเขต ทหารกัมพูชานำกำลังมากดดัน จนต้องมีการหยุดไว้ชั่วคราว ตั้งแต่เดือน ก.พ.67 ที่ผ่านมา โดยทหารพรานที่ 12 และกองกำลังบูรพา สั่งให้ปิดพื้นที่ไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมา ทำให้ฝั่งกัมพูชาสามารถรุกล้ำและส่งชาวบ้านเข้ามาปลูกบ้าน และถากถางทำกิน รวมทั้งปักหลักเขตจนประชิดที่ดินของคนไทยที่มีเอกสารสิทธิ์ สค.1 ลึกจากถนนศรีเพ็ญเข้าไป 370 เมตร และกลายเป็นพื้นที่สีเทา ที่มีช่องทางการลักลอบนำเข้าของผิดกฏหมายและแรงงานเถื่อนในปัจจุบัน ตามที่นายวีระ สมความคิด เครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่น ออกมาเปิดโปง และเคยลงพื้นที่ แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ด้วย

นางกัณจนา สมมล เจ้าของเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สค.1 พื้นที่ดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า เอกสารที่ดินของตนเองระยะจากถนนศรีเพ็ญเข้าไป 370 เมตร แต่เขตแดนไทย-กัมพูชา ตามเส้น Mou43 ระยะจากถนนศรีเพ็ญประมาณ 500 เมตร ปัจจุบัน มีคนกัมพูชารุกเข้ามาปลูกสร้างบ้าน และถากถางทำกินเป็นแปลง หลายจุด จนมีการนำหลักเขตมาปักใกล้กับที่ดินของตนเอง เมื่อตรวจสอบสอบพบ ก็แจ้งให้ทหารพรานที่รับผิดชอบในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบ แจ้งว่า มีการถอนหลักออกไป และได้ทำหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชา แต่ก็ไม่ได้ผลอะไร ชาวกัมพูชาก็ยังรุกเข้ามาในฝั่งไทยเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงหลังเดียว ตอนนี้มีประมาณ 4-5 หลังแล้ว

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพจุดบริเวณดังกล่าวจากกูเกิล ซึ่งอัพเดทภาพเมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีบางจุดซึ่งอยู่ใกล้กับท้ายที่ดินของนางกัณจนาฯ มีชาวกัมพูชาเช้ามาตั้งบ้านเรือนหลายหลัง และถากถางทำกินอย่างชัดเจน จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบให้ชัดเจน โดยในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.68) ตัวแทนชาวบ้านน้อยป่าไร่ ซึ่งมีข้อพิพาทเรื่องที่ดินบริเวณจุดดังกล่าว รวมกว่า 500 ไร่ ที่มีเอกสารสิทธิ์ สค.1 จะเดินทางไปออกรายงานโทรศัพท์ในส่วนกลาง กรณีนี้ด้วย

https://www.77kaoded.com/wp-content/uploads/2025/06/160668คลิป-เขมรรุกล้ำแดนป่าไร่-1แฟ้มภาพปี65.mp4 ————————-

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...