เปิดผลวิจัย AI จะมาแย่งงาน VS เปิดทางให้มนุษย์มีมูลค่ามากขึ้น?
ในวันที่ เทคโนโลยี AI พัฒนาเร็วกว่าที่มนุษย์เคยเผชิญ หลายคนกังวลว่างานจะถูกแทนที่ แต่รายงานล่าสุดจาก PwC กลับชี้ให้เห็นแนวโน้มที่ตรงกันข้าม คำถามคือ…เราจะกลัว หรือจะกล้าปรับตัว?
วันที่ 6 มิถุนายน 2568 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า รายงานวิจัยฉบับใหม่จากบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกPwC ชี้ว่า แม้จะมีความกังวลว่า "ปัญญาประดิษฐ์" (AI) อาจเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์และกดค่าจ้างลง แต่ AI กลับทำให้คนมีคุณค่ามากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง
Joe Atkinson Global Chief AI Officer ของ PwC กล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้ผู้คนวิตกกังวลคือความเร็วของนวัตกรรมเทคโนโลยี ความจริงก็คือ นวัตกรรมกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในระดับที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน” พร้อมย้ำว่ารายงานแสดงให้เห็นว่า AI กำลังสร้างงาน ไม่ใช่ทำลาย
รายงาน 2025 AI Jobs Barometer ระบุว่าทั้งจำนวนงานและค่าจ้างกำลังเพิ่มขึ้นในแทบทุกอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยเฉพาะในอาชีพที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกอัตโนมัติ เช่น พนักงานบริการลูกค้า หรือนักพัฒนาโปรแกรม
Carol Stubbings, Global Chief Commercial Officer ของ PwC UK กล่าวว่า “เรารู้ว่าในทุกยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรม งานใหม่จะถูกสร้างมากกว่าที่หายไป ปัญหาคือทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคตนั้นต่างออกไปมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าจะมีงานหรือไม่ แต่เป็นคนพร้อมหรือไม่ที่จะรับตำแหน่งเหล่านั้น”
โดยรายงานวิเคราะห์ข้อมูลจากโฆษณารับสมัครงานกว่า 800 ล้านรายการ และรายงานการเงินของบริษัทหลายพันแห่งใน 6 ทวีป และท้าทาย 6 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อแรงงาน ดังนี้
1. เรื่องผลิตภาพ (Productivity)
ความเชื่อผิด : AI ยังไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน
ความจริง : ตั้งแต่ปี 2565 อุตสาหกรรมที่พร้อมใช้ AI มากที่สุด มีการเติบโตด้านผลิตภาพเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น กายภาพบำบัด กลับมีแนวโน้มลดลง
2. เรื่องค่าจ้าง (Wages)
ความเชื่อผิด : AI จะทำให้ค่าจ้างลดลง
ความจริง : พนักงานที่มีทักษะด้าน AI มีรายได้สูงกว่าผู้ที่ไม่มีทักษะนี้ถึง 56% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 25% เมื่อปีที่แล้ว และอุตสาหกรรมที่ใช้ AI มาก ค่าจ้างก็เพิ่มขึ้นเร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่นถึง 2 เท่า
3. เรื่องจำนวนงาน (Job Numbers)
ความเชื่อผิด : AI จะทำให้จำนวนงานลดลง
ความจริง : แม้กลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจาก AI จะเติบโตน้อยกว่า 38% แต่ก็ยังเติบโตอยู่ ขณะที่อาชีพที่ไม่เกี่ยวข้องกับ AI โตถึง 65% ระหว่างปี 2562–2567
4. เรื่องความเหลื่อมล้ำ (Inequality)
ความเชื่อผิด : AI จะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
ความจริง : รายงานพบว่าทั้งรายได้และการจ้างงานของงานที่สามารถใช้ AI เสริมได้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อีกทั้งความต้องการวุฒิการศึกษายังลดลงในกลุ่มอาชีพที่ใช้ AI เปิดโอกาสให้คนจำนวนมากเข้าสู่ตลาดงานใหม่ ๆ
5. เรื่องทักษะ (Skills)
ความเชื่อผิด : AI จะทำให้งานกลายเป็นงานง่าย ๆ และลดทักษะของคน
ความจริง : AI ช่วยให้คนมีเวลาไปทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น เจ้าหน้าที่ป้อนข้อมูลสามารถพัฒนาไปสู่บทบาทนักวิเคราะห์ข้อมูลได้
6. เรื่องอัตโนมัติ (Automation)
ความเชื่อผิด : งานที่ถูกอัตโนมัติจะมีค่าน้อยลง
ความจริง : ไม่เพียงแค่งานเหล่านั้นจะได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น แต่ AI ยังช่วยยกระดับให้เป็นงานที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์มากขึ้น
นอกจากนี้รายงานยังเสนอว่าในโลกที่หลายประเทศมีประชากรวัยแรงงานลดลง การเติบโตของงานที่ช้าลงแต่มั่นคง อาจเป็นเรื่องดี เพราะ AI สามารถสร้างตัวคูณของแรงงาน เติมเต็มช่องว่างที่ขาดแคลนได้
นอกจากนี้รายงานเสนอว่าองค์กรควรใช้ AI เป็นกลยุทธ์เพื่อการเติบโตแทนที่จะใช้เพียงเพื่อลดต้นทุนบุคลากร พร้อมทั้งพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อร่วมกันสร้างโอกาสใหม่ ขยายตลาด และรายได้
อ้างอิง : cnbc.com