โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ครม.รับทราบเพิ่มจุดผ่านแดนใหม่ 5 ด่าน ขนส่งผลไม้ไทย-จีน ในพิธีสารกักกันโรคฯ

การเงินธนาคาร

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ครม.รับทราบเพิ่มจุดผ่านแดนใหม่ 5 ด่าน ในพิธีสารกักกันโรคและตรวจสอบผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างไทย-จีน หนุนโลจิสติกชายแดน-ขยายช่องทางสู่ตลาดจีน

วันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวลา 14.24 น. นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมติรับทราบการเพิ่มจุดนำเข้าและจุดส่งออก จำนวน 5 ด่าน ในภาคผนวกของพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ

นางสาวอัยรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Customs of the People’s Republic of China: GACC) ได้มีการลงนามในพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564

โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับเงื่อนไขของใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกักกันโรคและการตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ไทยผ่านประเทศที่สามระหว่างไทยกับจีน ซึ่งจุดนำเข้าและจุดส่งออกสำหรับการขนส่งผลไม้ของทั้งสองฝ่ายจะถูกกำหนดลงในภาคผนวกของพิธีสารฉบับนี้ โดยไม่จำกัดเส้นทางในการขนส่งผลไม้ระหว่างกัน

ทั้งนี้ การลงนามพิธีสารเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเห็นชอบและอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการดังกล่าว ซึ่งในการประชุมหารือทางเทคนิคระหว่างกรมการกักกันพืชและสัตว์ GACC และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มจุดนำเข้าและจุดส่งออกทั้ง 5 ด่านของไทยและจีนในภาคผนวกของพิธีสารฯ โดยเห็นควรให้ภาคผนวก มีผลบังคับใช้ในเบื้องต้นภายในวันที่ 1 กันยายน 2568 ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายภายในประเทศ และตกลงจะแลกเปลี่ยนช่องทางติดต่อรวมถึงวันที่ด่านพร้อมดำเนินการต่อไป

นางสาวอัยรินทร์ กล่าวต่อว่า พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นการดำเนินการภายใต้บันทึกความเข้าใจร่วมกันว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน

ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2547 โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายละเอียดของใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกักกันโรคและการตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างไทยกับจีน ซึ่งจุดนำเข้าและจุดส่งออกสำหรับการขนส่งผลไม้ของทั้งสองฝ่ายจะถูกกำหนดลงในภาคผนวกของพิธีสารฉบับนี้ กรณีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเพิ่มเติมจุดนำเข้าและจุดส่งออกอื่นของทั้งสองฝ่าย สามารถเพิ่มเข้าไปในภาคผนวกของพิธีสารนี้ได้ผ่านการหารือเห็นชอบร่วมกัน

โดยในภาคผนวกของพิธีสารที่ได้มีการลงนามแล้วระบุ จุดนำเข้าและจุดส่งออกของสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 10 ด่าน ได้แก่ 1.) โหย่วอี้กว่าน 2.) โม่ฮาน 3.) ตงชิง 4.) สถานีรถไฟผิงเสียง 5.) สถานีรถไฟโม่ฮาน 6.) หลงปัง 7.) สุยโข่ว 8.) เหอโข่ว 9.) สถานีรถไฟเหอโข่ว และ 10.) เทียนป่าว

ขณะที่ จุดนำเข้าและจุดส่งออกของไทยมีจำนวน 6 ด่าน ได้แก่ 1.) เชียงของ 2.) มุกดาหาร 3.) นครพนม 4.) บ้านผักกาด 5.) บึงกาฬ และ 6.) หนองคาย ซึ่งปัจจุบันจุดนำเข้าและจุดส่งออกของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ระบุในพิธีสารฯ จำนวน 1 ด่าน ได้แก่ สถานีรถไฟเหอโข่ว ยังไม่เปิดนำเข้าผลไม้จากไทยเนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก

โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ GACC ได้เห็นชอบร่วมกันในการเพิ่มเติมจุดนำเข้าและจุดส่งออกในภาคผนวกของพิธีสารดังกล่าว โดยขอเพิ่มจุดนำเข้าและจุดส่งออกของสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 2 ด่านในมณฑลยูนนาน ได้แก่ 1.) เมิ่งคัง และ 2.) ตำลั่ว

และขอเพิ่มจุดนำเข้าและจุดส่งออกของราชอาณาจักรไทย จำนวน 3 ด่าน ได้แก่ 1.) ทุ่งช้าง จังหวัดน่าน 2.) ภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ และ 3.) บ้านฮวก จังหวัดพะเยา ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนหนังสือตอบรับอย่างเป็นท่างการ และผ่านการประชุมหารือทางเทคนิคระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับประโยชน์และผลกระทบ มีดังนี้

  • การเพิ่มจุดนำเข้าและจุดส่งออกในภาคผนวกของพิธีสารฯ สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-จีน ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2565 - 2569) รวมถึงแผนความร่วมมือที่เกี่ยวข้องด้านต่าง ๆ ในภาคเกษตร เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและเกิดการอำนวยความสะดวกทางการค้าข้ามพรมแดน เพื่อให้เกิดการไหลเวียนที่คล่องตัวขึ้นของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรระหว่างไทยกับจีน
  • การเพิ่มเติมจุดนำเข้าและจุดส่งออกในภาคผนวกดังกล่าว เป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการเข้าสู่ตลาดจีนของผลไม้ไทยและเพิ่มทางเลือกในการขนส่งผลไม้ทางบก อันเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและ ผู้ประกอบการไทย อีกทั้งช่วยลดความแออัดจากการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางเดิมในช่วงฤดูกาลผลไม้ด้วย

อ่านข่าวอื่น ๆ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...