คนชายแดนผวา! นอนไม่หลับจับตาโดรน หวั่นเขมรเปิดฉากยิงรอบ 3 หลังเที่ยงพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ส่วนใหญ่ในหลายหมู่บ้านได้กลับบ้านกันแล้ว หลังจากอพยพมากว่า 20 วัน ซึ่งจากผลการประชุม GBC ได้มีการลงนามหยุดยิง เป็นเวลา 72 ชั่วโมง นับจาก 12.00 น. ของวันที่ 27 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดลงในเวลา 12.00 น.ของวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค. 68) ต่างยังคงวิตกกังวลว่า หลังจากครบ 72 ชั่วโมงแล้ว กัมพูชาจะเปิดฉากยิงเพื่อสร้างสงครามและต้องอพยพเป็นรอบที่ 3 อีกหรือไม่ ประกอบกับประชาชนไม่เคยเชื่อมั่นถึงความจริงใจของกัมพูชาที่ผ่านมา และต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์ในช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้กันอย่างใจจดใจจ่อ โดยชาวบ้านได้พากันตั้งข้อสังเกตุอีกว่า การที่กัมพูชาพยายามเจรจาให้หยุดยิง เพียงเพื่อถือโอกาสเสริมกำลังพลและอาวุธหนัก เข้าพื้นที่ชายแดน เพื่อเตรียมยึดคืนจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ไทยยึดคืนมาตลอดแนวชายแดนอีกด้วย
ประกอบกับ แหล่งข่าวซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ระบุว่า ประชาชนที่อยู่บริเวณชุมชนโอรเสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ทหารกัมพูชาไม่อนุญาตให้ประชาชนชาวกัมพูชากลับเข้าพื้นที่แต่อย่างใด ขณะที่ตรงกันข้ามกับทางการไทยกลับอนุญาตให้คนไทยกลับเข้าพื้นที่ได้ ประชาชนแนวชายแดนจึงไม่มั่นใจสถานการณ์ในช่วงหลังจากเที่ยงของวันพรุ่งนี้
ขณะที่ประชาชนบางส่วนที่ทราบข่าวว่า กองทัพบกเปิดเผยข้อมูลว่า หลังจากการลงนามหยุดยิงแล้ว ยังพบโดรนกัมพูชาบินล้ำอธิปไตยไทยกว่า 250 ลำอีกด้วย ทำให้ชาวบ้านชายแดนต่างพากันออกมาสอดส่องหาโดรนปริศนาบนท้องฟ้ากันอีกด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ที่ไม่พบความผิดปกติบนท้องฟ้า ซึ่งกัมพูชาอาจจะใช้บินเฉพาะในพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ที่กัมพูชาจะพยายามเข้าบุกตียึดคืน ตามที่กองทัพระบุว่า พบโดรนหนาแน่นในพื้นที่ช่องบก ช่องอานม้า เขาสัตตะโสม ชำแต โดนตวล ช่องกร่าง ปราสาทตาเมือนธม และช่องสายตะกูดังกล่าว ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์ชายแดนกันอย่างใกล้ชิดต่อไป.