โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

88TH ครบสูตรงบแรง 3 ปีมุ่งเป้าพันล้านบาท

ทันหุ้น

อัพเดต 02 ต.ค. เวลา 20.04 น. • เผยแพร่ 02 ต.ค. เวลา 21.15 น.

#88TH #ทันหุ้น – 88 TH พร้อมเข้าเทรด mai วันนี้ โชว์ยอดขายโตต่อเนื่อง 30% ใน 3 ล่าสุด 6 เดือนแรกโตสนั่น 200% พร้อมประกาศเป้าพุ่งต่อ 30% อีก 3 ปี สู่ 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิ 15-16% ผู้ก่อตั้งชี้เหตุแบรนด์ LYO มาแรง เพราะเข้าใจปัญหาเส้นผมคนไทยและพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ ให้ความสำคัญคุมต้นทุนจนมาร์จิ้นดี เดินหน้าเร่งขยายธุรกิจ พร้อมสยายปีกต่างประเทศ มั่น “หนุ่ม-กรรชัย” ถือยาว ด้านนักวิเคราะห์วางเป้า 10-13 บาท

บริษัท 88 (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ 88TH ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะแบรนด์ LYO กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์ Hone และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ ver.88 เตรียมเข้าเทรดวันนี้ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ (3 ต.ค.)

นางสาวนพรัตน์ มาลัยวงค์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท 88 (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ 88TH เปิดเผย “ทันหุ้น” ว่า มั่นใจว่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ จะสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง และสร้างแบรนด์คนไทยที่มีเอกลักษณ์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยบริษัทมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดยอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 30% ต่อเนื่องมา 3 ปี จากปี 2565 มียอดขายราว 270 ล้านบาท และคาดว่าปี 2568 จะเพิ่มขึ้นแตะ 478 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตจาก 3 ล้านบาทในปี 2565 มาสู่ 55 ล้านบาทในปี 2567 ขณะที่ครึ่งปี 2568 มีกำไรแล้ว 50.45 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 16.50 ล้านบาท ถึง 205.74%

บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 69-70% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิล่าสุดอยู่ที่ 16% จาก 3 ปีก่อนอยู่ที่ 5% สะท้อนศักยภาพในการขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง บริษัทตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับ 15-16% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ผลักดันผลประกอบการมาจากความตั้งใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่เข้าใจและตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในเรื่องการดูแลเส้นผม ซึ่งคนไทยมีปัญหาและลักษณะเส้นผมที่แตกต่างจากคนชาติอื่น ทีมงานของ 88TH จึงมุ่งเน้นทำความเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งและตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้คนไทยแก้ไขปัญหาได้จริง ผลลัพธ์คือความสำเร็จของผลิตภัณฑ์LYO (ไลโอ) ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างตรงจุดและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีความสามารถในการควบคุมต้นทุน จากการที่มีโรงงานผลิตเป็นของตนเอง ทำให้ควบคุมการจัดซื้อวัตถุดิบและการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้นทุนขายลดลงต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) จาก 50% ในปี 2565 ลงมาเหลือเพียง 35% ในปัจจุบัน สะท้อนถึงวินัยในการบริหารจัดการและการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็น “บริษัทปลอดหนี้” ไม่มีภาระจากสถาบันการเงิน ทำให้สามารถบริหารสภาพคล่องได้อย่างยืดหยุ่นและรองรับการเติบโตในอนาคตได้อย่างมั่นคง

@ เดินหน้าขยายธุรกิจ

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสินค้าจำเป็นที่ผู้บริโภคต้องใช้เป็นประจำ อีกทั้งยังเป็นสินค้าใช้ทิ้ง (Disposable Products) ที่ผู้บริโภคต้องซื้อซ้ำ แม้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวนหรือสถานการณ์โรคระบาด ทำให้ยอดขายของบริษัทไม่สะดุดและสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง

หลังการเข้าตลาดหลักทรัพย์ บริษัทมีแผนเร่งขยายสายผลิตภัณฑ์ (SKU) ให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น และอยู่ระหว่างการศึกษาโอกาสขยายตลาดไปต่างประเทศ เพื่อสร้างฐานรายได้ระยะยาว พร้อมยึดกลยุทธ์ควบคุมต้นทุนและรักษาผลกำไรคุณภาพในระดับสูง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต โดยยืนยันผู้ถือหุ้นใหญ่ และหนุ่ม-กรรชัย ให้เชื่อมั่นลงทุนยาว

@ 3 ปียอดขายแตะพันล้าน

ด้านนางณัฐฐินี ชวนะนิกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร88TH มั่นใจจะได้ผลตอบรับดี ประเมินผลประกอบการปี 2568 จะสามารถสร้างสถิติใหม่สูงสุด จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายช่องทางจำหน่าย และขยายฐานลูกค้า และยังคงสามารถเติบโตได้ในอัตราเฉลี่ย 30% ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ภายใน 2-3 ปี บริษัทจะมีรายได้แตะระดับ 1,000 ล้านบาท มีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ดูแลเส้นผม เพิ่มสี การใช้สมุนไพร โดยตลาดรวมผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมในไทยจะเติบโต 7% ต่อปี หรือแตะ 58,000 ล้านบาทในปี 2571 นอกจากนี้ยังสนใจขยายไปยังตลาดภูมิภาค หลังจากบริษัทได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแบรนด์ LYO ในหลายๆ ประเทศในเอเชีย

@ เป้า 10-13 บาท

สำหรับนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายปี 2569 อยู่ที่ 10-13 บาท ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด ประเมินราคาเหมาะสม หุ้นใหม่แกะกล่อง “88TH” อยู่ที่ 13.00 บาท คาดกำไรสุทธิ ปีนี้ และ 2569 เพิ่มขึ้น 83.5% YoY และ 33.5% YoY อยู่ที่ 102 ล้านบาท และ 137 ล้านบาท ตามลำดับ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาเป้าหมายที่ 10 บาท คาดรายได้และกำไรสุทธิเติบโต 29% และ 41% CAGR ในช่วงปี 2568-2570

บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จํากัด (มหาชน) ประเมินราคาเหมาะสมของ 88TH ที่ราคา 11.70 บาท ด้วยวิธี DCF พร้อมการเติบโตเฉลี่ย 3 ปีที่ 40% ต่อปี โดยแบรนด์ “LYO” ไปยังกลุ่มใหม่ๆ เกี่ยวกับเส้นผมต่อยอดความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์ Hair Color และ Hair Herbal บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ได้ประเมินมูลค่าเหมาะสมสำหรับ 88TH ไว้ที่ 10.10 บาท กำไรสุทธิเติบโต CAGR 42% ระหว่างปี 2567-2570 มาจากการขยายผลิตภัณฑ์เก่าและใหม่ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...